อว. ชูแอพพ์ “ZERO CARBON” “ศุภมาส” มอบหมาย “สุชาดา” เลขาฯ รมว.อว. เปิดงาน-แถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐานสากล ดัน กิจการด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมไทย มุ่งสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ควบคู่สร้างงาน สร้างรายได้
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รับมอบหมายจากนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. ให้เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว แอพพลิเคชั่น “ZERO CARBON” เพื่อใช้ในการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการชดเชยคาร์บอน จากกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เพื่อมุ่งสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยมี รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผอ.หน่วยบริหารและการจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ
โดยนางสาวสุชาดากล่าวว่า แอพพลิเคชั่น “ZERO CARBON” เกิดจากการพัฒนาชุดแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับผู้ประกอบการเพื่อใช้ในการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการชดเชยคาร์บอน จากกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สนับสนุนทุนวิจัยโดย บพข. กองทุน ววน. พร้อมใช้งานบนสมาร์ทโฟน โดยช่องทางการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Zero Carbon” ได้แก่ Google Play และ App Store ซึ่งมีความสะดวก และรวดเร็วต่อการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในการวัด การลด และการชดเชยคาร์บอนได้ด้วยตนเอง บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมไมซ์ มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมชดเชยคาร์บอนผ่านแอพพลิเคชั่น มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ต่อไป
“แอพพลิเคชั่น “ZERO CARBON” ไม่ใช่แค่ก้าวสำคัญของประเทศไทยในความเป็นกลางทางคาร์บอนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณแห่งความหวังในการบรรลุเป้าหมายสูงสุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยกระทรวง อว. พร้อมที่จะหนุนและส่งเสริมทางวิชาการด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ Pain Point ต่างๆ ของภาคอุตสาหกรรม พร้อมทำให้ประเทศไทยสามารถอนุรักษ์ธรรมชาติ ให้มีความสมบูรณ์ ควบคู่กับการสร้างงาน สร้างรายได้ที่เป็นผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต” นางสาวสุชาดากล่าว