ทั่วไป

นักวิจัยไซปรัสยันพบ "เดลตาครอน" เป็นของจริง ไม่ใช่ปนเปื้อน!

TNN ช่อง16
เผยแพร่ 10 ม.ค. 2565 เวลา 12.03 น.
นักระบาดวิทยาไซปรัส ยืนยันยันการค้นพบโควิดกลายพันธุ์ลูกผสม

วันนี้( 10 ม.ค.65) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้าง ลีโอไนดอส โคสไตรคิส ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยา มหาวิทยาลัยไซปรัส นักวิทยาศาสตร์ ผู้ค้นพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ลูกผสม "เดลตาครอน" ที่ออกมายืนยันว่า การค้นพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาครอนนั้นเป็นเรื่องจริงและไม่ได้เป็นผลของการ "ปนเปื้อน" ในห้องแล็บอย่างที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

โคสไตรคิส ยืนยันว่า ตนพบกระบวนการกดดันทางวิวัฒนาการ (evolutionary pressure) ที่เกิดขึ้นกับเชื้อสายพันธุ์ตั้งต้นทำให้เกิดการกลายพันธ์ และไม่ใช่ผลของการรวมกันของยีนที่ทำให้เกิดสายพันธุ์ลูกผสมเพียงเหตุการณ์เดียว นอกจากนี้ เดลตาครอน ยังพบมากใหม่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวในโรงพยาบาล มากกว่ากลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รักษาตัวในโรงพยาบาล จึงตัดข้อสันนิษฐานเรื่องการปนเปื้อนไปได้ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
นักวิจัยไซปรัสยันพบ เดลตาครอน เป็นของจริง ไม่ใช่ปนเปื้อน!

ภาพจาก TNN ข่าวค่ำ

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากนี้ตัวอย่างยังถูกส่งไปตรวจสอบในหลายประเทศ และอย่างน้อยหนึ่งตัวอย่างจากอิสราเอลก็พบลักษณะทางพันธุกรรมของ "เดลตาครอน" อยู่ด้วย สำหรับเชื้อลูกผสม เดลตาครอนที่พบไม่ใช่เกิดการกลายพันธุ์ในประเทศแต่เป็นการนำเข้ามาจากผู้เดินทางมายังสนามบิน

โดยขณะนี้พบการติดเชื้อ 25 ราย ในจำนวนทั้งหมดนี้ พบว่ามี 11 ราย ที่แสดงอาการซึ่งต้องเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาล หรือคิดเป็น 44% ที่มีอาการและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในขณะที่ 14 คนไม่มีอาการใด ๆ แต่ยังเร็วเกินไป ที่จะระบุในเบื้องต้นว่า สายพันธุ์ใหม่เดลตาครอนมีศักยภาพในการแพร่กระจายเชื้อรวดเร็วอย่างไร หรือจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน 

เชื้อกลายพันธุ์ใหม่นี้ รายละเอียดเบื้องต้น ปรากฎว่าเป็นการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม 10 จุด ที่คล้ายกับสายพันธุ์ "โอไมครอน" แต่เกิดอยู่ภายในพันธุกรรมของสายพันธุ์ "เดลตา"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
นักวิจัยไซปรัสยันพบ เดลตาครอน เป็นของจริง ไม่ใช่ปนเปื้อน!

ภาพจาก TNN ข่าวค่ำ

 

ทั้งนี้ การออกมายืนยันอีกครั้งของ ศาสตราจารย์ลีโอไนดอส โคสไตรคิส เกิดขึ้นหลังจาก ดร.ทอม พีค็อก นักไวรัสวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้ส่งข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า การค้นพบดังกล่าว มีความเป็นได้สูงที่จะเกิดจากการปนเปื้อนระหว่างสายพันธุ์ "เดลตา" และสายพันธุ์ "โอมิครอน" ภายในห้องปฏิบัติการ โดยให้เหตุผลเป็นการนำข้อมูลมาสร้างเป็นแผนภูมิวิวัฒนาการ ทั้งนี้ ดร.ทอม พีค็อก อ้างว่า ตัวอย่างทั้งหมดไม่ได้มาจากคลัสเตอร์เดียวกัน

ขณะที่ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ หรือ "หมอเฉลิมชัย" รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ "เดลตาครอน" หรือ Deltacron ว่า ยังต้องรอผลตรวจสอบ จึงจะสรุปได้ ถ้าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่จริง ก็จะต้องติดตามเก็บข้อมูลต่อไปว่า กระทบกับ 3 มิติทางด้านสาธารณสุขหรือไม่ ถ้าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นั้น มีผลกระทบกับมิติทางด้านสาธารณสุขแล้ว จึงจะมีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการอักษรกรีกว่า "พาย": Pi"  ซึ่งต่อจากโอมิครอน

ภาพจาก TNN ข่าวค่ำ/รอยเตอร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • BEAN
    ก็คือ เดลต้ากลายพันธุ์ แล้วมีส่วนหนึ่งที่คล้ายโอไมครอน แต่กราฟฟิคมั่วมากเลยนะ ทำอย่างกับว่าไวรัสผสมพันธุ์ได้งั้นแหละ
    10 ม.ค. 2565 เวลา 14.14 น.
ดูทั้งหมด