"ภูมิใจไทย " จัดทัพรับเลือกตั้งแล้วมั่นใจได้ส.ส.มากกว่าเดิม หลังทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้ มั่นใจ "บิ๊กตู่ "อยู่ครบวาระ
การประชุมผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีการหารือสถานการณ์การเมือง ระยะเวลา 1 ปี สุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎร ชุดนี้ ซึ่งจะครบวาระในเดือนมีนาคม 2566 โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีนักการเมืองทั้งที่เป็นส.ส.ปัจจุบัน และ อดีตส.ส. สนใจสมัครเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย มากกว่า 20 คน และมีบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่น และภูมิภาค หลายจังหวัด ให้ความสนใจ เสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้ง ครั้งหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสที่จะเติบโตมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้ให้ผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองภาพรวม ซึ่งผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำรัฐบาล ไปได้จนครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตาม พรรคก็ต้องพร้อมทุกเวลา ทุกสถานการณ์ หากนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง
นอกจากนี้ ได้มีการรายงาน และวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในแต่ละจังหวัด แต่ละเขตเลือกตั้ง เพื่อประเมินว่าพรรคภูมิใจไทย จะมีโอกาสในแต่ละจังหวัดเพียงใด และต้องปรับเพิ่มความเข้มข้นในการทำงานการเมืองเชิงลึกในพื้นที่อย่างไร รวมถึงการสรรหาบุคลากรที่มีความเหมาะสม เพื่อจะส่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดต่างๆ
โดยจากการประเมินสถานการณ์ คาดว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า น่าจะได้รับการเลือกตั้งมากกว่าการเลือกตั้ง ปี 2562 คือมากกว่า 51 คน ส่วนจะมากขึ้นเท่าไหร่ อยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสเพิ่มขึ้นแค่ไหน และอยู่ที่พรรคจะทำให้ประชาชนได้รับรู้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.ของพรรค ได้ทำงานรับใช้ประชาชน แก้ปัญหาให้ประชาชน ได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญคือ ต้องทำให้ประชาชน เห็นว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมือง ที่พูดแล้วทำ นโยบายที่ประกาศไว้ ได้ทำ และทำได้แล้ว แม้จะไม่ครบทุกเรื่อง ทุกนโยบาย
เพราะได้ส.ส.มาไม่มากพอที่จะทำทุกนโยบาย แต่ทุกนโยบายที่ทำ เป็นประโยชน์กับประชาชน แน่นอน เช่น นโยบายกัญชาทางการแพทย์ ปลดล็อกกัญชา จากยาเสพติด เป็นพืชเศรษฐกิจ นโยบายช่วยลดภาระลูกหนี้ กยศ. นโยบายลดค่าใช้จ่ายประชาชน ทั้งรถไฟฟ้า และ รถเมล์ ในกรุงเทพมหานคร
ขณะเดียวกัน ยืนยันพรรคภูมิใจไทยทำงานเยอะ แต่พูดน้อยไป ทำให้ประชาชนไม่ทราบว่า หลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ เป็นผลจากการทำงานของเรา เรื่องนี้ต้องปรับปรุง เพื่อให้ประชาชน เห็นการทำงานของำรรค และให้โอกาสพรรคมากขึ้น
นอกจากนี้ การประชุมเมื่อวานนี้ นายอนุทิน ได้มอบให้ผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย แต่ละคนรับผิดชอบพื้นที่เขตเลือกตั้ง และประสานงานกับบุคคลที่พรรคจะส่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในแต่ละภาคแล้ว คือ
- ภาคกลาง และภาคตะวันออก นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรค รับผิดชอบเอง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค และ นายศุภชัย โพธิ์สุ เป็นผู้รับผิดชอบ
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เป็นผู้รับผิดชอบ
- ภาคเหนือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค และ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รับผิดชอบ
- ภาคใต้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ
- ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน จะดูแลเองในช่วงนี้ แล้วจะพิจารณาหาผู้รับผิดชอบที่เหมาะสม เร็วๆ นี้ ซึ่งมีบุคคลเสนอตัวมาแล้วหลายราย
อย่างไรก็ตาม คณะผู้บริหารพรรค จะมีการประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามการทำงานของบุคคลที่เสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละท่าน และจะมีการสำรวจความเห็นประชาชนต่อผู้สมัคร และความนิยมในตัวผู้สมัคร เป็นระยะๆ ด้วย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประเมินการทำงาน และ การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เมื่อถึงเวลาลงสมัครรับเลือกตั้ง
ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย เชื่อมั่นว่า ด้วยเวลาที่มีอยู่อีก 1 ปี ก่อนจะครบวาระของสภาฯ ชุดนี้ พรรคภูมิใจไทย มีเวลามากพอสมควรที่จะทำงานหนักมากชึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า เพราะเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนคาดหวังได้ว่า ถ้ามอบโอกาสให้ไปทำงาน ก็จะทำงานให้เป็นที่พึงพอใจของประชาชน และนำพาประเทศไทยพ้นจากวิกฤติได้ ทั้งปัญหาด้านสุขภาพจากโรคระบาด ปัญหาด้านรายได้ และ ปัญหาหนี้สิน ซึ่งพรรคจะนำเสนอแนวคิด แนวนโยบาย และแนวทางของพรรคให้ประชาชนทราบ ต่อไป เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งหน้า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews