ส่องสเปก ราคา และประสบการณ์หลังใช้งาน ZTE Nubia Neo 5G เกมมิ่งสมาร์ทโฟน รุ่นกลาง ราคาถล่มตลาด และทิศทางการเจาะกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนของ ZTE ในไทย
รายการ Tech Discovery ep.9 โดย “ประชาชาติธุรกิจ” ได้นำสมาร์ทโฟน จากค่าย แซดทีอี ดีไวซ์ ประเทศไทย (ZTE) มารีวิวให้รับชม โดยชื่อรุ่น ZTE Nubia Neo 5G จัดเป็นมือถือระดับกลางที่เรียกว่าทำราคาออกมาได้จับต้องได้ง่าย ด้วยราคา 6,999 บาท
ส่องสเปก ZTE Nubia Neo 5G
ZTE Nubia Neo 5G เป็นสมาร์ทโฟน รุ่นกลาง (Mid-High) มาพร้อมกับ หน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz
ในส่วนชิปเซ็ต เป็น Unisoc T820 ขนาด 6นาโนเมตร มี octa-core 5G ใช้ RAM ขนาด 8GB รองรับ Memory Fusion โดยจะไปดึงเอาความจุ ROM มาบวกเพิ่มให้ได้อีก 10 GB รวมเป็น 18GB ในขณะที่ความจุ ROM ให้มาจุใจที่ 256GB
กล้องหลังคู่ มีขนาด 50MP และ 2MP ส่วนกล้องหน้า ขนาด 8MP มีรูหูฟัง 3.5 มม. รองรับระบบเสียง DTS:X
แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับชาร์จไว 22.5W ซึ่งมีเทคโนโลยี Pass Through ที่การชาร์จไฟไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ กล่าวคือในขณะเล่นเกมหรือใช้งานสามารถเสียบสายเคเบิล (USB-C) ที่เครื่องแล้วไฟจะเลี้ยงเครื่องโดยไม่เข้าแบตฯ ก่อน ช่วยลดปัญหาเรื่องเครื่องร้อน และยืดอายุแบตเตอรี่ได้
ส่องการทำตลาด ZTE ตั้งเป้าชิงเค้กสมาร์ทโฟนในเอเชีย 3%
นายจัสติน ลี ซีอีโอ กลุ่มธุรกิจโมบาย ดีไวเซส ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์โทรคมนาคม ได้เปิดเผยในงานเปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ สมาร์ตโฟนของ ZTE ว่า แม้ภาพรวมตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่ทว่าสมาร์ทโฟน 5G ยังคงได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นรวมถึงตลาดโมบายเกมเช่นเดียวกัน”
คาดการณ์ว่าตลาดเกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 8.5% โดยในปีที่แล้วมีจํานวนผู้เล่นเกมออนไลน์บนมือถือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นกว่า 250 ล้านคน จากมาเลเซีย ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ถือเป็น 6 ตลาดเกมมือถือหลักที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงได้
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการลงทุนขยายเครือข่าย 5G และเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เป็นปัจจัยหลักผลักดันศักยภาพการเติบโตอย่างมหาศาล รวมถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ e-Sports ยังเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดเกมในภูมิภาคอีกด้วย ZTE ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 3% ในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงได้ หรือเติบโตกว่า 100% ภายใน 3 ปีนับจากนี้
ด้านนายชอว์น เผย ผู้จัดการประจำประเทศไทย แซดทีอี ดีไวซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ ZTE มองเห็นโอกาสและศักยภาพสำหรับสมาร์ทโฟน กลายเป็นปัจจัยสําคัญในการดำเนินชีวิต พฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นในชีวิตประจําวัน
ทั้งการทำธุรกรรมทางการเงินและการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะในกลุ่มสมาร์ทโฟน 5G คุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึงกำลังเป็นที่ต้องการ
ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นเองก็ยังคงมีความต้องการอยู่มากเช่นกัน และ ZTE เองก็มีเป้าหมายสร้างยอดขายสมาร์ทโฟนให้มีส่วนแบ่งตลาดในปีนี้ 1% เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 1.5% ในปี 2567 และเติบโตเพิ่มเป็น 3% ภายในปี 2568
“สำหรับแผนการทำตลาดสมาร์ทโฟน ZTE ในประเทศไทยจะเป็นกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ โดยใช้แบรนด์สมาร์ทโฟนของบริษัท ได้แก่ ZTE Blade นูเบีย (Nubia) และ Redmagic รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอีโคซิสเต็มของ ZTE โดยเน้นสร้างการรับรู้ให้แบรนด์เป็นรู้จักมากขึ้น ผ่านการสื่อสารการตลาด และการประชาสัมพันธ์ ทั้ง ออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อขยายฐานลูกค้าและการตลาดที่เข้มแข็ง
สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นของ ZTE
สำหรับสมาร์ทโฟนที่กำลังเข้ามาทำตลาดในไทยตอนนี้จะมี 4 รุ่น ได้แก่
ZTE Blade A31 Plus 2023 ดีไซน์สีเขียวน้ำเงินหม่น มาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 6 นิ้ว กล้องออโต้โฟกัส ชิปเซต ซีพียู Octa-core ความจุ 2+32GB ราคา 1,990 บาท
ZTE Blade A33s จอแบบหยดน้ำ ขนาดกว้าง 6.3 นิ้ว ความจุแบตเตอรี่ 4000mAh ซีพียู Octa-core 1.6GHz ปลดล็อกด้วยระบบสแกนใบหน้า กล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 5MP ความจุ 4+32GB ราคา 2,299 บาท
ZTE Blade A53 Pro กล้องคู่หลังความละเอียด 13MP+2MP และกล้องหน้าความละเอียด 5MP หน้าจอ หยดน้ำ หน้าจอใหญ่ 6.52 นิ้ว HD+ แบตเตอรี่ 5000mAh ซีพียู Octa-core 1.6GHz ปลดล็อคด้วย ลายนิ้วมือ ความจุ 8+64GB ราคา 2,699 บาท