“คู่แข่งของ Netflix คือ การนอน”
สิ่งที่ Reed Hastings ซีอีโอของ Netflix กล่าวไม่ได้เกินจริงไปนัก
เมื่อทุกวันนี้เราหลายคนชอบดูซีรีส์มาราธอน ดูรวดทีเดียวหลายสิบตอน
พฤติกรรมนี้มีศัพท์เรียกว่า Binge-Watching
เริ่มมาจากการที่ Netflix ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิงชื่อดังสำหรับดูหนัง รายการทีวี สารคดีต่างๆ
เป็นเจ้าแรกที่เริ่มลงซีรีส์ให้ดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และพบว่า
คอซีรีส์หลายคนไม่ได้ดูแค่ตอนเดียว แต่ชอบดูรวดทีเดียวไปเลยเพื่อความมันส์ !
ทำไมเราถึงติดลม
กระแสการการ Binge-Watching กลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการพักผ่อนแบบ “นอนเปื่อยอยู่บ้านกระหน่ำดูซีรีส์” ซึ่งหากดูหมดรวดเดียวทุกตอนแบบไม่ skip ก็ใช้เวลาเทียบเท่ากับการไปเที่ยวพักผ่อน 1 ทริปสั้นๆในวันหยุดเลยทีเดียว
เมื่อกระแสดูหนังมาราธอนฮิตขนาดนี้ จึงมีเว็บชื่อ Bingeclock ที่คำนวณเวลาสำหรับการดูซีรีส์ทุกตอนออกมาให้ว่า ซีรีส์แต่ละเรื่องเราต้องใช้เวลาดูทั้งหมดกี่วัน กี่ชั่วโมง กี่นาที เช่น
Game of Thrones ใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 34 นาที
เหตุผลที่การกระหน่ำดูหลายตอนสนุกเพราะฝั่งคนทำซีรีส์เองก็ออกแบบการเล่าเรื่องให้แต่ละตอนมีการทิ้งท้ายที่ชวนให้อยากรู้เรื่องราวต่อในตอนถัดไป (Cliffhangers)
ถ้าได้ดูต่อไปเรื่อยๆ จะเกิดความรู้สึกฟินที่ได้รู้เรื่องราวจากซีรีส์ก่อนใคร แถมเวลาดูซีรีส์มักจะเกิดสภาวะติดพัน ทำให้เราจดจ่อกับเรื่องราวในจอดั่งเป็นเรื่องราวที่เจอกับตัวเอง
สาวกซีรีส์จึงมักลงเอยด้วยการดูอย่างต่อเนื่องมากกว่าที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก
การ Binge-Watching นี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับผู้ใช้บริการ Netflix เท่านั้น
แต่คอซีรีส์ที่ดูหนังจากบริการสตรีมมิงอื่นๆ ทั้ง Line TV, Amazon Prime, Hulu และอีกมากมาย ล้วนมีอาการติดจอ ขยับไปไหนไม่ได้จนกว่าจะได้ดูจนจุใจ
ดูซีรีส์ยังไง ไม่ให้หักโหมเกินไป
แล้ว Binge-Watching มีข้อเสียบ้างไหม ?
ในด้านสุขภาพ การนั่งดูทีวีนานๆ ไม่ได้เปลี่ยนท่านั่ง เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง
แถมยังทำให้อดหลับอดนอนมากขึ้นและเข้าสังคมน้อยลง (Anti-Socia)
ส่วนในแง่ความสนุกของการดูนั้น แม้เราจะรู้สึกสนุกที่ได้ดูรวดเดียว ไม่ขาดตอน
แต่มีการวิจัยจาก University of Melbourn ที่ค้นพบว่าการ Binge-Watch ทำให้เราจดจำเรื่องราวที่ดูได้น้อยกว่าและรู้สึกสนุกน้อยกว่าคนที่ค่อยๆดูไปทีละตอน
หลายครั้งที่คนเราดูซีรีส์ก็เพราะต้องการหลีกหนีจากเรื่องวุ่นวายในชีวิตประจำวัน
พอรู้ว่าคลิกมาที่บริการสตรีมมิงจะต้องมีอะไรใหม่ๆให้ดูแน่
ทำให้เลือกนั่งนิ่งๆและดูหนังไปเรื่อยๆฆ่าเวลาจนเพลิน
ทั้งๆที่บางทีก็ไม่ได้อยากดูเรื่องนั้นซักเท่าไหร่
อาการ “ดูหนังไปงั้นๆ” แบบนี้เรียกว่า Purge-watching
การดูหนังนานๆก็เหมือนกับการเล่นโซเชียลมีเดีย
เราจะถูกหลอกล่อให้ใช้เวลากับมันนานเกินกว่าท่ีคิด
สำหรับคนที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มใช้เวลากับซีรีส์มากเกินไป
วิธีง่ายๆ คือ เลือกดูเฉพาะเรื่องที่สนุกจริงๆ ถ้ารู้สึกว่าดูหลายตอน แล้วไม่สนุก
อาจลองตัดเรื่องนั้นออกไปจากคิวซีรีส์ที่ยาวเหยียดบ้าง
เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปทำอย่างอื่นแต่รู้สึกหยุดดูไม่ได้
อาจถึงเวลาต้องลองฝึกกลั้นใจอยู่กับความคลุมเครือที่ซีรีส์ตอนเก่าทิ้งท้ายไว้ดูบ้าง
แล้วรอเวลาเปิดตอนใหม่มาลุ้นใหม่อีกทีในวันถัดไป
ในยุคที่ไม่มีใครชอบรอ
การทิ้งช่วงปล่อยให้ตัวเองรอดูซีรีส์บ้างอาจทำให้ลุ้นและสนุกตื่นเต้นขึ้นก็ได้
ที่มา
https://www.bingeclock.com/s/game-of-thrones/
https://lifehacker.com/how-to-break-your-netflix-binge-watching-habit-1745394858
https://www.rd.com/health/conditions/netflix-addition-fatigue/
https://www.rd.com/culture/binge-watching-unhealthy/
https://www.sbs.com.au/news/research-finds-binge-watching-affects-your-long-term-memory
About Me
Instagram: http://www.instagram.com/faunglada
Facebook: http://www.facebook.com/faunglada
Youtube:http://www.youtube.com/faunglada
Twitter: @faunglada
Website: www.faunglada.com