กอร.มน.กทม. ลุยประตูน้ำ จับมาเฟีย ชาวเมียนมา ข่มขู่ รีดส่วยเพื่อนชาติเดียวกัน

กอร.มน.กทม. ลุยประตูน้ำ จับมาเฟีย ชาวเมียนมา ข่มขู่ รีดส่วยเพื่อนชาติเดียวกัน

จับมาเฟีย / เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พล.ต.มนัส จันดี กอ.รมน. กทม. พร้อมพล.ท.กิติธัช บุพศิริ ผู้อำนวยการประสานงานศูนย์ปฏิบัติการที่2(ผอ.ศปป. 2) ประสาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ ซึ่งเปิดเป็นห้องเช่าให้กับแรงงานชาวเมียนมา หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีมาเฟียชาวเมียนมา ก่อเหตุข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากแรงงานชาติเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการตรวจค้นครั้งนี้ มีเป้าหมายที่นายอังคูและนายซันเจซึ่งมีรายงานว่าเป็นหัวโจก โดยจากการตรวจค้นตามห้องพัก สามารถควบคุมตัวนายอังคูได้พร้อมลูกน้องจำนวนหนึ่งเอาไว้ได้

ส่วนนานซันเจ ไม่พบตัวโดยมีข้อมูลว่าได้หลบหนีกลับประเทศไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

ทั้งนี้ก่อนการเข้าตรวจค้น ทางกอ.รมน.กทม ได้รับแจ้งว่ามีแรงงานชาวเมียนมาร้องเรียนว่า ถูกกลุ่มมาเฟียเมียนมาขุ่ขู่เรียกเงินค่าคุ้มครอง หากไม่ให้ก็จะถูกทำร้าย ซึ่งบางรายถึงกับเสียชีวิต จึงได้เชิญ ผู้ที่ร้องเรียนเข้ามาให้ข้อมูล

จนทราบว่ามาเฟียชาวเมียนมาที่ตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊งได้แก่ นายซันเจและนายอังคู ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ย่านประตูน้ำ มีพฤติกรรมเรียกเก็บส่วยแรงงานชาวเมียนมา เดือนละ 4,700 บาท มีผู้ที่ยอมจ่ายประมาณ 20 ราย แม้ว่าจะมีหลักฐานการทํางานถูกต้อง แต่ก็จ่ายเพราะเกรงกลัวอิทธิพล

นอกจากนี้ยังนำคลิปหลักฐานที่หัวหน้ามาเฟียทั้งสองคน ไลฟ์สดข่มขู่แรงงานให้จ่ายเงินและคลิปขณะรีดไถเงินมาให้เจ้าหน้าที่เป็นหลักฐาน

ผู้เสียหายยังให้ข้อมูลว่า นายซันเจ มักอ้างว่า ตัวเองทำงานให้ตำรวจท่องเที่ยว โดยโชว์เสื้อที่มีตราสัญลักษณ์ของตำรวจท่องเที่ยว และมีพฤติกรรมสำคัญตามคำร้องเรียนคือ หากมีแรงงานชาวเมียนมาร์คนใดเปลี่ยนนายจ้าง

ถ้าหลักฐานการเปลี่ยนยังไม่สมบูรณ์ นายซันเจจะแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปจับกุมทันทีเนื่องจากโทษปรับค่อนข้างสูง จากนั้นจะมีการเจรจาจ่ายเงินเพื่อยอมความ นอกจากนี้กลุ่มต่างด้าวดังกล่าว มีพฤติกรรมรวมกลุ่มเพื่อเสพยาเสพติดด้วย

หลังได้ข้อมูล ทางกอ.รมน.กทม. จึงวางแผนร่วมกับผู้ร้องเรียน เพื่อจะจับมาเฟียทั้งแก๊งโดยประสานกับหน่วยตม. เข้าปฏิบัติงานจนสามารถจับกุมหัวโจกและลูกสมุนได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะได้สอบสวนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องอื่นๆต่อไป