ไลฟ์สไตล์

เรื่องจริงของคนหมดตัว แต่ไม่เคยยอมหมดหวัง

LINE TODAY
เผยแพร่ 19 ก.ค. 2562 เวลา 09.42 น. • Pimpayod

ใคร ๆ ก็อยากรวยด้วยกันทั้งนั้น เราก็เหมือนกันที่อยากรวย เพราะที่ผ่านมาค่อนข้างลำบาก กว่าจะมีเงินเรียนจนจบก็เรียน ๆ หยุด ๆ มาหลายปี ถึงจะช้ากว่าเพื่อน แต่สุดท้ายก็จบปริญญาตรีจนได้

ระหว่างเรียน ๆ หยุด ๆ เราทำงานหลายอย่างจนเก็บเงินได้พอสมควร สมัยนั้นเป็นช่วงที่แผ่นซีดีมาแรง เราเองก็ชอบดูหนัง คิดว่าน่าจะทำเป็นธุรกิจได้ไม่ยาก ก็เลยเปิดร้านขายซีดีแบบถูกลิขสิทธิ์ เพราะอยากทำให้มันถูกต้อง ร้านเราไม่ได้ใหญ่อะไรนัก แต่เปิดขายออนไลน์ด้วย ก็มีลูกค้าเข้ามาบ้าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่อย่างที่รู้กันว่าอะไรที่มันถูกลิขสิทธิ์มันก็แพง หนังเรื่องหนึ่งเราขาย 159 บาท ขณะที่แผ่นผีขาย 19 บาท ทำให้ช่วงหลัง ๆ เราแทบไม่มีลูกค้าเลย แต่สต็อกหนังมีเพียบ สุดท้ายก็ต้องขายเลหลังแผ่นละ 19 บาทจากต้นทุนเกือบ 100 บาท เรียกว่าเจ๊งไม่เป็นท่า หมดตัว เจ็บจนคิดว่ากลับไปเรียนให้จบน่าจะเข้าท่ากว่า

พอเรียนจบ เราไม่ได้หางานทำ เพราะรู้อยู่แล้วว่ามนุษย์เงินเดือนไม่มีทางตอบโจทย์ความอยากรวยของเราได้ จะขายของก็แอบเข็ดอยู่หน่อย ๆ แต่ทำไงได้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้รวย คิดแต่ว่าคราวนี้ต้องไม่เหมือนคราวนั้น

เราเริ่มหาลู่ทางขายของ แล้วก็ได้ขายเสื้อกันหนาวแฟชั่น และอุปกรณ์กันหนาว ช่วงนั้นออนไลน์มาแรง ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวเมืองหนาวกัน ขายออนไลน์อยู่ปีกว่า คิดว่ามาถูกทางแล้ว น่าจะได้รวยสมใจกับเค้าซะที

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทุกอย่างเริ่มไปได้สวย มีลูกค้ามากขึ้น มีช่องทางการขายที่ดี ชัดเจน ก็เลยเริ่มขยับไปสเก็ลใหญ่ขึ้น เริ่มขยายไปต่างจังหวัด มีตัวแทนจำหน่าย สั่งของจากจีน เพื่อลดต้นทุน อุตส่าห์ไปเลือก ไปคัดคุณภาพด้วยตัวเอง เพราะใจก็กลัวชื่อเสียงของพี่จีนอยู่เหมือนกัน

พอลดต้นทุนได้ ก็กำไรมากขึ้น ทุกอย่างไปได้ดี จนเราคิดว่าน่าจะรวยกับเค้าได้ซะที แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่ช่วยหรือขยายธุรกิจเร็วเกินไป ทำให้ไม่มีเวลาไปดูแลคุณภาพด้วยตัวเอง หลัง ๆ ของที่รับจากพี่จีนเริ่มไม่เป็นไปตามที่คุยไว้ ลูกค้าเริ่มโวย รีวิวด้านลบเต็มโลกออนไลน์ ต้องเปลี่ยน ต้องคืนเงินลูกค้า พี่จีนก็ไม่รับผิดชอบ ของห่วย ๆ ล้นสต็อก ทำให้ไม่กล้าขายให้ใคร จากที่ทุกอย่างรวนไปหมด ใช้เวลาอีกไม่ถึงปี เราก็ตัดสินใจปิดกิจการเสื้อกันหนาวไปแบบเงียบ ๆ

ผ่านมาหลายเดือน ถึงจะไม่ได้หมดตัวซะทีเดียว แต่ก็ต้องปิดกิจการไป เสียดายก็เสียดาย เพราะเจ็บหนักเหลือเกิน เหมือนตกจากสวรรค์ยังไงยังงั้น ถามว่าความฝันเปลี่ยนไปไหม คำตอบของเราคือไม่เปลี่ยน เราอยากรวย อยากมีธุรกิจที่มั่นคงเป็นของตัวเองเหมือนเดิม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตอนนี้เรากำลังมองหาอะไรใหม่ ของที่ไม่ใช่แค่เทรนด์ มาแป๊บเดียวแล้วก็ไป อะไรที่เราดูแลควบคุมคุณภาพได้ด้วยตัวเอง เพราะบทเรียนจากครั้งก่อน ราคาแพงจนเราไม่อยากหมดตัว ไม่อยากเจ๊งอีกแล้ว

ทุกวันนี้ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าล้มแล้วต้องลุกไปเรื่อย ๆ เพราะยังไม่มีกำลังใจจะสร้างอะไรใหม่ เราเชื่อว่าเมื่อไรก็ตามที่พร้อม ! เราจะลุกขึ้นได้อีกครั้ง เพราะเราชัดเจนในเป้าหมาย ในความฝันของเราว่าสักวันเราจะมี สักวันเราจะมั่นคง แค่เราต้องไม่ยอมแพ้..

ความเห็น 39
  • รักไม่มีวันตาย
    แค่เรื่องเล่าหรือชีวิตจริงครับ ถ้าจริง นับว่าชีวิตคุณน่าติดตามสุดๆ คุณเป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้มากทีเดียว
    18 ส.ค. 2562 เวลา 02.03 น.
  • สมัยนี้ ขายลูกชิ้นทอดรวยกว่า หาตลาดนัดหคือตลาดคนเยอะๆ ต้นทุนต่ำกำไรมาก วันึงกำไร2-3 พันอยู่ได้แล้วมั้ง 🤟😊
    18 ส.ค. 2562 เวลา 02.02 น.
  • coffeekrap
    ข้อคิด ยิ่งอยากได้ยิ่งห่างไกล ยิ่งให้กลับยิ่งได้ ยิ่งพอใจยิ่งเป็นสุข ภายนอกดูจนดูซกมก แต่ภายในสะอาดล้ำเลอค่า ก็มี อย่าตัดสินอะไรถ้าเห็นแค่เปลือกภายนอก ความรวยไม่ใช่คำตอบของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตที่แท้จริงเพราะรวยก็ทุกข์เข็ญใจไม่ต่างจากคนทั่วไป คนที่คุณเห็นว่าจน คนนั้นอาจมีความสุขกว่าคุณยิ่งนัก ผมเคยผ่านจุดนั้นมา แม้ผมจะหมดตัวแต่ความสุขของผมมีมากขึ้นด้วยความพอใจและพอเพียงครับ
    18 ส.ค. 2562 เวลา 00.53 น.
  • ติ๋ม siriwun
    เหนื่อยเหมือนกันคะกับการที่ล้มแล้วลุกลุกแล้วลุกอีกก็ยังลุกไม่ขึ้นพยายามที่สุดจนบางครั้งท้อหมดแรงจะสู้ต่อแต่ยังดีมีกำลังใจที่ดีคือลูกชายที่ทำให้มีกำลังใจสู้ถึงแม้การสู้ชีวิตของเราจะอยากเย็นเหนื่อยหล้าขนาดไหนก็ยังหายใจอยู่และสู้เพื่อจะได้อยู่เห็นอนาคตของลูกก่อนตาย
    18 ส.ค. 2562 เวลา 00.02 น.
  • Surapun
    ล้มแล้วต้องลุก​ ใจต้องสู้เสมอ​ ..
    17 ส.ค. 2562 เวลา 23.56 น.
ดูทั้งหมด