คอลัมน์ จับกระแสตลาด
ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “ชานมไข่มุก” และว่ากันว่าถึงวันนี้มีมูลค่าตลาดรวมไปได้เบาะ ๆ 2,500 ล้านบาท และมีหลายระดับราคาให้ลิ้มลอง ตั้งแต่แก้วละ 20-30 บาท แก้วละ 35-50 บาท ไปจนถึงแก้ว 80-100 บาท ด้วยความหอมหวานของตลาดนี้ จึงทำให้มีผู้เล่นหน้าใหม่ที่กระโดดเข้ามาเป็นระยะ ๆ
แม้กระทั่ง สตาร์บัคส์ ร้านกาแฟแบรนด์ดัง ที่ล่าสุด เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ได้เปิดตัวเมนูใหม่ ดาร์ก คาราเมล คอฟฟี่ สเฟียร์ แฟรปปูชิโน ที่ภายในมีเมล็ดไข่มุก หรือ เพิร์ลกาแฟ จากประเทศบราซิล นับว่าเป็นการตอบรับกระแสความต้องการของคนรุ่นใหม่
หรือแม้แต่ “บาวคาเฟ่” ของร้านสะดวกซื้อ ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จากเดิมที่มีบริการเฉพาะเมนูกาแฟก็ได้นำไข่มุกมาผสมในเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ราคาเริ่มต้น 25 บาทเท่านั้น
ล่าสุด มีชาไข่มุกน้องใหม่ เปิดตัวขึ้นกลางสยามสแควร์ ในชื่อของ “แบร์เฮ้าส์” ที่เป็นการทุ่มงบฯกว่า 8 ล้านบาท เพื่อสร้างความแตกต่างในการรุกตลาดชานมไข่มุก
“ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด เจ้าของร้านชานมไข่มุก “แบร์เฮ้าส์” เล่าว่า นอกจากจะเป็นคนที่ชอบทานชานมไข่มุกแล้ว จากการที่เป็น “ยูทูบ ครีเอเตอร์” และมีโอกาสได้ไปรีวิวร้านชานมไข่มุกที่ประเทศไต้หวัน จึงคิดอยากทำร้านชานมไข่มุกแบรนด์คนไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ
โดยร้านที่เปิดนี้ เน้นคอนเซ็ปต์ “เรียบง่ายแต่แตกต่าง” เป็นร้านชานมไข่มุก ที่มีทั้งครัวกลาง เครื่องจักรเพื่อผลิตไข่มุกสด รวมถึงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย ที่สำคัญคือ จะเน้นการสร้างความต่างด้วยสูตรเฉพาะของร้านที่คิดค้นขึ้นมาเอง เช่น ไข่มุกโมจิ ที่มีแป้งข้าวไทยเป็นส่วนผสม และมีขนาดเล็กกว่าไข่มุกทั่วไป และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้ยังได้เตรียมเมนูที่หลากหลาย อาทิ ชานมไข่มุก นมน้ำตาลแดง ชาเขียวมัทฉะ และโกโก้ มีราคาเริ่มต้น 55 บาท รวมทั้งมีแผนจะเพิ่มไอศกรีม เบเกอรี่ เข้าไปในเมนูเพื่อเพิ่มทางเลือกให้คอชาไข่มุกด้วย
ด้าน “เอนก บัวนาเมือง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด เจ้าของร้านชานมไข่มุก “เพิร์ลลี่ ที” กล่าวว่า ตลาดชานมไข่มุกยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และถึงวันนี้ “เพิร์ลลี่ ที” มีสาขาทั่วประเทศไปแล้วกว่า 190 สาขา และยังเดินหน้าที่จะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ต่อเนื่อง
ล่าสุด ได้รีแบรนด์ เพิร์ลลี่ ที พัฒนารูปแบบร้านและเมนูใหม่ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Feel Good”
นอกจากการคัดสรรใบชาเกรดพรีเมี่ยม ความพิถีพิถันในการชง ยังมีเมนูใหม่ ๆ สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ รวมถึงเบเกอรี่สูตรพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ภาพที่เกิดขึ้นคงสะท้อน “การแข่งขัน” ได้ระดับหนึ่ง แน่นอนว่า คนที่มาใหม่จะต้องหาจุดเด่นและสร้างความแตกต่าง เพื่อมัดใจลูกค้าให้ได้
