แฟชั่น บิวตี้

สกินแคร์-เครื่องสำอางเกาหลี มีอะไรน่าซื้อบ้าง มาดูกันจ้า

Jeban.com
เผยแพร่ 10 มี.ค. 2562 เวลา 17.00 น. • RV

รีวิวนี้จะว่าเปิดถุงอย่างเดียวก็ไม่เชิง เพราะที่จริงเรากลับจากเกาหลีมาพักใหญ่ๆแล้วค่ะ (แบบว่าอยากลองใช้ก่อน) จะได้มาเขียนรีวิวถูก เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้สาวๆ ที่กำลังมีแพลนไปช้อปที่เกาหลีในปีนี้กันค่ะ
รอบนี้เราทำการบ้านไปพอสมควร คือลิสท์เฉพาะสิ่งที่อยากได้ และทำการบ้านศึกษาก่อนแล้วว่า แต่ละอย่างนั้นเหมาะกับเรา แล้วจะได้เอากลับมาใช้จริงๆ (เพราะรอบก่อนที่ไปเสียสติมากค่ะ ซื้อกลับมาเยอะมาก แต่สุดท้ายได้ใช้เองน้อยมาก นอกนั้นแจกเพื่อนหมด) และสรรพสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่เราได้ไปสอยมาทั้งหมด

1.Son & Park Beauty Water (ราคาเราลืมค่า ฮือ)
บิวตี้วอเตอร์ตัวดังที่ใครๆ ก็ต่างพากันพูดถึง ข้างขวดเขียนไว้ว่าเหมาะสำหรับเป็นสเต็ปแรกของการแต่งหน้า เพราะน้องเค้าจะช่วยคลีนพวกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้ผิวนุ่มลื่นอะไรแบบนี้ โดยส่วนตัวใช้แล้วก็ชอบนะคะ กลิ่นหอมสดชื่นดี ใช้เช็ดหน้าแล้วรู้สึกผิวสะอาด ไม่แห้งตึง ผิวนิ่มดี๊ดี เสียดายซื้อกลับมาแค่ขวดเดียว ต้องใช้สสับกับอย่างอื่น เพราะกลัวหมดค่ะ ฮ่าๆๆ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

2. JUNG SAEMMOOL essential star-cealer foundation ราคา (42,000 วอน)
อันนี้อยากลองมานานไปถึงก็ตำมาเลยค่ะ แล้วก็สมใจอยาก ใช้แล้วชอบมากๆ (เสียดายซื้อมาแค่ตลับเดียว ฮืออ) นางคือ รองพื้นที่มาในรูปแบบตลับ พร้อมกับคอนซีลเลอร์ ใช้สะดวกมากกก คือกดปุ๊บเอาพัฟแต้ม แล้วแท็บๆบนหน้า ตรงไหนมีรอยแดง รอยดำ ก็แต้มคอนซีลเลอร์หลุมข้างๆมาแท็บเลย จบปึ้ง เหมาะกับคนขี้เกียจ และเวลาน้อยแบบเรามากๆ ใช้ผิวผิวดูสวยฉ่ำสุขภาพดี ส่วนเรื่องคุมมัน กับทนเหงื่อก็ อาจจะไม่เท่าไหร่ ก็ซับมันบ่อยขึ้นนิดนึง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

3. Mise En Scene Perfect Repair ราคา อันนี้ทำใบเสร็จหายแต่น่าจะประมาณ 200 กว่าบาทไทยค่ะ
ตัวนี้คือ เซรั่มบำรุงผม ค่ะ อันนี้ใช้ดีมากกกกก มีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย  วิธีที่เราใช้ก็คือบีบใส่มือ ถูวอร์มเซรั่มเล็กน้อย แล้วก็เอามาลูบผมที่หมาดๆ เสร็จปุ๊บเป่าผมให้แห้ง ผมก็ลื่นละมุม ไม่พันกันเลย เริ่ดมากก และขอบคุณตัวเองที่ซื้อมา 2 ขวด  กลับไปรอบหน้าจะตำมาอีกแน่นอนค่ะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

4. สกินแคร์ ตระกูล Laneige
เราเป็นแฟนพันธ์แท้ของแบรนด์นี้อยู่แล้ว และใช้อยู่หลายตัว เลยสอยกลับมาหลายตัวเลยค่ะ เพราะราคาจะถูกว่าที่ไทยประมาณ 200-300 บาท ที่ได้กลับมาก็จะเป็น Water Bank Hydro Essence , Sleeping Mask , Lip Sleeping Mask แฮปปี้มากก

5. Huxley Secret of Sahara Essence : Brightly Ever After (ราคา 4,3000 วอน)
เห็นแบรนด์นี้ฮิตมากๆในหมู่บล็อกเกอร์เกาหลี คนใจง่ายแบบเราก็สอยมาลองอีกตามเคย จริงๆแล้วตัวที่ดังมากๆจะเป็นสูตร Oil นะคะ แต่เรากลัวใช้แล้วหน้าอุดตัน เลยซื้อสูตร Essence มาใช้ แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ ใช้แล้วชอบมากกก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วผิวชุ่มชื่น ทาก่อนนอน ตื่นมาตอนเช้าหน้ายังนิ่มอยู่เลย รู้อย่างงี้น่าจะตุนมาสัก 2-3 ขวด 

6. Saemmul
เครื่องสำอางยี่ห้อ Saemmul  คือแบรนด์ที่เพื่อนเกาหลีของเราแนะนำว่า นี่คือเครื่องสำอางเกาหลีที่คุณภาพเทียบเคียงกับแบรนด์ M.A.C ในราคาหลักร้อยต้นๆ ซึ่งเราได้ทดลองแล้ว ก็ต้องขอบอกว่าประทับใจจริงๆค่ะ อายแชโดว์เนื้อดี และ สีสวยมากกก บลัชออนก็เริ่ด 

7. The Ordinary
หลายคนอาจจะงงว่า ทำไมถึงไปซื้อแบรนด์สกินแคร์ของอังกฤษที่เกาหลี ก็เพราะว่าที่นั่นเค้ามีชอปที่วางขายนั่นเองจ้าาา แถมราคาก็ดี๊ดี ถูกกว่าร้านพรีในเน็ตด้วย ร้านชื่อ Deciem The abnormal beauty company อยู่ที่ถนนกาโรซูกิล นะคะ สูตร Buffet อยู่ที่ขวดละ 14,800 วอน /  Zinc อยู่ที่ 5,900 วอน / Alpha Arbutin 8,900 วอน ค่ะ  ถูกแบบนี้ก็โกยค่ะ ในภาพนี่คือส่วนนึงเท่านั้น

8. Olens Contact Lens
สิ่งสุดท้ายที่น่าซื้อมากๆก็คือ คอนแท็คเลนส์ของร้าน Olens ค่ะ รับรองไม่มีผิดหวัง ตอนแรกเราก็กล้าๆกลัวๆ เพราะตาของเราใส่ได้อยู่ยี่ห้อเดียวก็คือ ACUVUE นอกนั้นใส่แล้วเคืองตาหมดเลย คือแบบวัดใจมากๆซื้อมา 4 กล่อง เพราะเห็นป้ายโฆษณาว่าเป็นรุ่นที่  สาวๆ Blackpink ใส่ อิอิ ปรากฎว่าใส่แล้วสบายตาสุดๆ สีก็ดูเป็นธรรมชาติมากก กลับไปเกาหลีรอบหน้าจะไปซื้อตุนกลับมาอีกแน่นอนค่ะ

อ่านต่อ กดเลย
รีวิวจากคอมมูนิตี้จีบัน : pearrynaka

ดูข่าวต้นฉบับ