ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ช่อง3 แบกขาดทุนปี"61กว่า 330ล้านบาท -"อมรินทร์"พลิกทำกำไรในรอบ4ปี 172ล้านบาท

ประชาชาติธุรกิจ
เผยแพร่ 22 ก.พ. 2562 เวลา 16.07 น.

กลุ่มBECปิดงบฯปี2561ขาดทุนสุทธิ 330 ล้านบาท ชี้ผลจากค่าใช้จ่ายพิเศษโครงการเกษียนอายุและตั้งสำรองพนักงานรวมกว่า 270ล้านบาท ขณะที่”อมรินทร์”พลิกกลับมาเป็นกำไร 172ล้านบาทในรอบ4ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการปี2561 รายได้รวมของกลุ่ม BEC อยู่ที่ 10,375.7 ล้านบาทลดลง 6% โดยมีผลดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 330.2 ล้านบาท จากปี2560 มีกำไรสุทธิ61.01 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทระบุว่าผลขาดทุนสุทธิในปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายโครงการเกษียนอายุและการปรับลดอัตรากำลังคนตามนโยบายการปรับโครงสร้างองค์กรจำนวน 140.6 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงาน ตามพรบ.คุมครองแรงงานจำนวน 134.8 ล้านบาท ขณะที่ผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติ อยู่ที่98.1 ล้านบาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยรายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC ในปี2561 อยู่ที่ 8,878.8 ล้านบาทลดลง 10.2% จากปี2560 อยู่ที่ 9,890.2 ล้านบาท ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมของตลาดขยายตัวเล็กน้อยที่ 3.91% ขณะที่รายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC ยังคงเป็นรายได้หลัก 85.6% ของรายได้รวม การลดลงของรายได้โฆษณาของ“ช่อง 3”ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มBEC นั้นเป็นการลดลงตามภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูงจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ผู้ลงโฆษณาใช้เงินโฆษณาอย่างจำกัดกว่าในอดีต

ขณะที่รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่น อยู่ที่ 1,054.8 ล้ำนบำทเพิ่มขึ้น 436.2 ล้านบาท หรือเพิ่ม 70.5% จากปีก่อนหน้า โดยรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ของกลุ่ม BEC เช่น CH3Thailand และ Mello รวมถึงแพลตฟอร์มพันธมิตร และเพิ่มขึ้นจากการขายลิขสิทธิ์ละครไปยังต่ำงประเทศ

ขณะที่รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์ในปี2561 อยู่ที่ 368.5 ล้านบาท ลดลง 85.7 ล้านบาทหรือ 18.9% จากปีก่อนหน้า
โดยณ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่ม BEC มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 8,083.7 ล้ำนบาท เพิ่มขึ้น 298.3 ล้านบาทหรือ3.8% จากสิ้นปี2560 ที่ 7,785.4 ล้านบาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะที่ในส่วนของบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)แจ้งผลประกอบการ ปี2561 พลิกมีกำไรสุทธิ 172.68 ล้านบาทในรอบ4ปี จากปี2560 ขาดทุนสุทธิ 163.94 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 3,526.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1,289.20 ล้านบาทหรือร้อยละ 57.63 โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจทีวีดิจิทัลมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.72 รายได้ธุรกิจสื่อออนไลน์ซึ่งเป็นการดำเนินการโฆษณาและรับจ้างผลิตงานประเภทดิจิทัลเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 95.04 ธุรกิจงานแฟร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.24 และธุรกิจจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 145.44 ตามลำดับ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • AGEMO
    ไม่มีผู้ผลิต content ดีๆโดนๆใจประชาชน ก็ต้องลงเช่นเล่นนี้แหละครับ ต้องแรับเปลี่ยน ปรับปรุงองค์กรณ์บ้างนะครับ (จริงๆควรคิดและมีแผนพร้อมทำหลังมีข่าวจะประมูลช่องดิจิตอลแล้ว) แต่ยังไม่สายหากจะเริ่มใหม่ณ.ตอนนี้
    22 ก.พ. 2562 เวลา 16.30 น.
  • 📲kratai tongthana99💧
    ต้นปีนี้ก็เจอมรสุม คนไทยทั้งประเทศแอนตี้ไม่ดูละครที่นางเอกปากดีเล่นอีก สู้ๆนะค๊า ...
    23 ก.พ. 2562 เวลา 02.52 น.
  • Tuk tuk
    พฤติกรรมคนดูเปลื่ยนละยุคนี้ ไม่ใช่อะไรๆก็ละคร
    23 ก.พ. 2562 เวลา 09.22 น.
  • กีรติสุนทร
    ไปเจอสรยุทธกลับมา2ปีคืนกำไร..ใช่ใจชั่ว..ขี้ข้าหลวงร่วมกันโจมตี..รอดคุก...ถ้าขายกิจการเอาเงินไปเสวยสุขไม่ต้องห่่่่วงคนอื่น...แบบอมรินทร์.ขาดทุนกิจการสำนักพิมพ.กลับมาได้ทีวีช่วย..ระบบบริษัทเอาแค่เลี้ยงคนทำงานให้อยู่ได้เป็นร้อยครอบครัว.แค่นี้ลูกจ้างก็ภูมิใจแล้ว
    23 ก.พ. 2562 เวลา 00.31 น.
  • Paew789
    เลิกดูช่อง 3 มาหลายปีละ ตอนนี้ดูช่องอัมรินทร์ เนชั่นและก็พีพีทีวีค่ะ
    23 ก.พ. 2562 เวลา 09.12 น.
ดูทั้งหมด