ทนายความ ยัน “ธนาธร” โอนหุ้น 8 ม.ค.จริง ศาลรธน.กังขา ทำไมจำรายละเอียดสัญญาไม่ได้
วันที่ 18 ต.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนพยานจำนวน 10 ปาก ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ขอให้พิจารณาว่า ความเป็นส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีมติรับคำร้องเมื่อวันที่ 23 พ.ค.และสั่งนายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนพยานปาก 2 คือ นายณัฐนนท์ อภินันท์ ทนายความ โดยศาลซักถามการทำเอกสารสัญญาโอนหุ้นดังกล่าวทนายจัดเตรียมใช่หรือไม่ ซึ่งนายณัฐนนท์ ชี้แจงว่า เป็นคนที่จัดเตรียมการทำสัญญาฯดังกล่าว โดยมีนายพุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายพรรคอนาคตใหม่ เป็นคนมอบหมายว่านายธนาธรประสงค์โอนหุ้น
และนายพุฒิพงศ์ เป็นคนให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาฯ ทั้งส่วนข้อมูลที่บรรจุในสัญญาตลอดผู้รับรองการทำสัญญา ซึ่งไม่ใช่การมอบหมายจากนายธนาธรหรือนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่อย่างใด
แต่เมื่อศาลสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการโอนหุ้นนายณัฐนนท์กลับไม่สามารถชี้แจงได้ว่าจำนวนหุ้นที่จะโอนมีกี่หุ้น และการโอนหุ้นเป็นอย่างไร จนศาลรัฐธรรมนูญตั้งข้อสังเกตว่า หากนายณัฐนนท์ไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว แล้วนายณัฐนนท์จะพิมพ์สัญญาฯได้อย่างไร จะรู้เห็นการทำสัญญาโอนหุ้นได้อย่างไร ทั้งที่โดยหลักการนายณัฐนนท์ต้องรู้ข้อมูลที่จัดเตรียมเหล่านั้นทั้งหมด
หลังจากนั้นนายณัฐนนท์ ได้ชี้แจงต่อว่าการเตรียมการเอกสารการโอนหุ้นเตรียมก่อนล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ แต่จำวันไม่ได้ ซึ่งในวันที่ 8 ม.ค.62 มีการนัดหมายในการทำสัญญาฯที่บ้านนายธนาธร เวลาประมาณ 6 โมงเย็น โดยตนไปถึงบ้านนายธนาธรประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งขณะนั้นพบกับ นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาของนายธนาธร อยู่ในบ้าน แต่นางรวิพรรณบอกว่านายธนาธรยังไม่อยู่ในบ้าน และตนไม่ทราบว่านายธนาธรมาถึงบ้านตอนกี่โมง แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายทำสัญญานายธนาธรก็มาถึงแล้ว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ส่วนการทำสัญญาฯ หลังจากนั้นนายธนาธรและนางสมพรตรวจสอบเอกสารสัญญาฯ และเซ็นต์สัญญาแล้ว มีการติดอากรแสตมป์ในสัญญาในวันเดียวกัน และเห็นว่ามีการมอบเช็คให้ในวันนั้นด้วย โดยเป็นเช็คที่นางสมพรเตรียมมามอบเช็คให้ธนาธรและภรรยา
ส่วนการดำเนินการโอนหุ้นหลังจากเซ็นต์สัญญาฯเป็นหน้าที่ของนางลาวัลย์ จันทร์เกษม ซึ่งเป็นพยานในการโอนหุ้นดังกล่าวเป็นคนดำเนินการแจ้งนายทะเบียนเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ซึ่งนายณัฐนนท์ ไม่ทราบว่ามีการดำเนินการเมื่อใด ขณะที่การโอนหุ้นของ นางรวิพรรณ มีการโอนหุ้นให้กับนางสมพรในวันเดียวกันด้วย และได้รับการประสานข้อมูลมาจาก ผอ.ฝ่ายกฎหมายพรรคอนาคตใหม่เหมือนกัน เป็นพยานชุดเดียวกัน และมีการจ่ายเช็คเป็นค่าตอบแทนในวันดังกล่าวเหมือนกัน
จากนั้นมีการไต่สวนพยานปาก 3 คือ นายชัยสิทธิ์ กล้าหาญ คนขับรถนายธนาธร ชี้แจงว่าทำงานขับรถส่วนตัวให้กับนายธนาธรและภรรยา มาแล้ว 2 ปีแล้ว โดยยืนยันว่าในวันที่ 8 ม.ค. ขับรถออกจาบุรีรัมย์มายังกทม.จริง ซึ่งมีผู้โดยสารในรถเพียงนายธนาธรคนเดียว โดยออกจาก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หลังนายธนาธรขึ้นเวทีปราศรัยเสร็จตอนเช้า ประมาณ 11 โมง ถึงกทม.ประมาณ 4 โมงเย็น แต่นายชัยสิทธิ์ไม่ได้เข้าในบ้านจึงไม่รู้ว่ามีใครอยู่ในบ้านบ้าง แต่สังเกตเห็นว่ามีรถไม่ใช่รถของคนในบ้านมาจอดอยู่ 1 คันแต่ไม่ทราบว่าเป็นรถของใคร
ขนาดข้อมูลประวัติการทำงาน มึงยังปลอมแปลงเอามาลงเลือกตั้งเลย โกหกมาทั้งชีวิต จะไปจำอะไรได้ล่ะ ต่อไปคงจำได้นะ ว่าติดคุกเพราะอะไร
18 ต.ค. 2562 เวลา 08.12 น.
เรื่องนี้จำไม่ได้ข้อมูเออเร่อ จำได้เรื่องการเมืองอย่างเดียว
18 ต.ค. 2562 เวลา 07.52 น.
จุดหมายปลายทาง.. คนระดับนี้จำอะไรไม่ได้เสมอถ้าผิด..
18 ต.ค. 2562 เวลา 08.24 น.
ต่อไปมึงก็คงจำประเทศตัวเองไม่ได้ ว่า ชื่ออะไร
18 ต.ค. 2562 เวลา 08.25 น.
โนบิตะ มันจำได้จริงคือ แก้ รธน อย่างเดียว
18 ต.ค. 2562 เวลา 08.29 น.
ดูทั้งหมด