ไอที ธุรกิจ

‘นารายา’ แจงด่วน ปิดโรงงานบุรีรัมย์ 16 ส.ค. เซ่นพิษโควิด ออร์เดอร์หายเกลี้ยง

The Bangkok Insight
อัพเดต 04 ส.ค. 2563 เวลา 10.32 น. • เผยแพร่ 04 ส.ค. 2563 เวลา 10.32 น. • The Bangkok Insight

นารายา เปิดแถลงการณ์ แจ้งข้อเท็จจริง ปิดโรงงานบุรีรัมย์ 16 สิงหาคมนี้ หลังโควิดซัดหนัก ออร์เดอร์หดหาย ไม่สามารถจ่ายตามข้อเรียกร้องพนักงาน

บริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตกระเป๋าผ้า และของใช้ แบรนด์ นารายา ส่งจดหมายชี้แจง กรณีข่าว "โควิดพ่นพิษแรงงานกว่า 300 ฮือประท้วงถูกนายจ้าง บีบลดค่าแรง อ้างไม่มีออเดอร์ วอนรัฐช่วย" เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
นารายา

"ข้อเท็จจริง กรณีข่าวแรงงานประท้วง ที่จังหวัดบุรีรัมย์

ตามที่ปรากฏเป็นข่าว บนหน้าหนังสือพิมพ์ ระบุว่า พนักงานของบริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตกระเป๋าส่งออก ยี่ห้อ นารายา ที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กว่า 300 คน ชุมนุมประท้วง เรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะถูกนายจ้างเอาเปรียบ โดยการบีบให้เซ็นรับค่าจ้างวันละ 198 บาท หรือ 62% ของค่าจ้างที่สมควรได้รับตามกฏหมาย วันละ 320 บาท และเรียกร้องให้นายจ้าง / บริษัท จ่ายค่าจ้าง ตามพ.ร.บ.แรงงาน คือวันละ 240 บาท หรือ 75% นั้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กรณีดังกล่าว บริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงอธิบายเป็นประเด็น ดังต่อไปนี้

ประการที่หนึ่ง บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ทำให้ไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าเข้ามา จึงได้มีการส่งตัวแทน ไปเจรจากับพนักงานของบริษัท ทั้งสองโรงงานให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบริษัทได้มีการพูดคุย ชี้แจง เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดว่า มีผลกระทบอย่างไร

ทั้งนี้ได้ข้อสรุปกับพนักงาน ในการยื่นปิดกิจการชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 กรกฏาคม 2563 เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าสู่กระบวนการเยียวยา รัฐบาล และได้รับงินชดเชย จากสำนักงานประกันสังคม 62% ของรายได้ ซึ่งเป็นค่าจ้างที่พนักงานได้รับจากโครงการเยียวยาของรัฐบาล

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะยังคงไม่มียอดออร์เดอร์กระเป๋าเข้ามา แต่บริษัทก็ได้คิดโปรเจ็คพิเศษ ในช่วงสถานการณ์โควิด ในการผลิตผ้าปิดจมูก เพื่อให้เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง เพราะบริษัทเห็นว่า พนักงานทุกคนเป็นเสมือนครอบครัว นารายา ที่ร่วมทำงานกันมาเป็นเวลานาน หลายคน เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจในฝีมือ จึงพยายามขยายโปรเจ็คการผลิตผ้าปิดจมูก จนมีการจำหน่ายทางออนไลน์ และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่ยังไม่เพียงพอกับต้นทุนที่เกิดขึ้น

ประการที่สอง กรณีที่พนักงานบางส่วน เรียกร้องขอให้บริษัท จ่ายค่าจ้าง 100% หากไม่มีออร์เดอร์จริง ขอให้จ่ายตาม พ.ร.บ.แรงงาน เป็นจำนวนเงิน 240 บาท หรือ 75% นั้น ตัวแทนบริษัทได้มีการพูดคุยกับพนักงานเกี่ยวกับทิศทางการทำงานต่อไป และพนักงานบางส่วน ได้มีข้อเสนอด้วยความสมัครใจ แจ้งกลับมาว่า จะขอรับค่าจ้าง 62% ของค่าจ้าง

แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ในวันเปิดทำงานของบริษัท ได้มีพนักงานบางส่วน ออกมาเรียกร้องข้างต้น บริษัทได้พิจารณาเบื้องต้นแล้ว เห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาด ยังไม่คลี่คลาย และยังคงส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัท ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างตามข้อเรียกร้องของพนักงาน ที่ให้จ่ายค่าจ้าง 100% และหากไม่มีออร์เดอร์จริง ขอให้จ่าย 75% ตาม พ.ร.บ.แรงงาน

ทั้งนี้เพราะ แม้ว่าบริษัทจะมีโปรเจ็คผลิตผ้าปิดจมูก แล้ว ขยายช่องทางในการผลิตสินค้าอื่นๆ แล้วก็ตาม แต่ยังคงไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าผ้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของนารายา การเพิ่มค่าแรงตามข้อเรียกร้องของพนักงาน กลุ่มดังกล่าว จะส่งผลกระทบทางธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างมาก

ประการสุดท้าย จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว บริษัทได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดจากผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของโควิดมาโดยตลอด และบริษัท มีความเสียใจอย่างมาก ต่อผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เรียกประชุมผู้บริหารเป็นการด่วน เพื่อหาทางออก แต่ท้ายที่สุด เนื่องจากการแพร่ระบาดยังไม่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้บริการน้อยลงเป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา รวมถึงการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนมีนาคม มีการล็อกดาวน์ ร้านค้าปิด ไม่มีนักท่องเที่ยว ขายของไม่ได้

จนถึงปัจจุบันบริษัทยังไม่มีออร์เดอร์กระเป๋าผ้า เข้ามาแต่อย่างใด ผู้บริหารจึงมีมติในที่ประชุมที่จะปิดโรงงาน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันว่า ยังคงเปิดดำเนินการต่อไป และจะมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักด้วยคุณภาพและหัวใจ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีโรงงาน และกำลังการผลิตที่เพียงพอกับคำสั่งซื้อของลูกค้าภายในประเทศและต่างประเทศ โดยได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น บริษัทคาดหวังว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเศรษฐกิจ จะกลับมาดีขึ้นในเร็ววัน เพื่อให้ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติตามเดิม

เราจะฝ่าวิกฤติไวรัสโควิดนี้ไปด้วยกัน อย่างดีที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ