นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์พูดถึงเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา "เข้ามารับผิดชอบบริหารประเทศจนถึงปัจจุบัน นอกจากจะไม่เกิดผลงาน ที่สร้างประโยชน์ถึงรากฐานของประเทศชาติและประชาชนแล้ว ลาออกเถิดครับ"
ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย"ภูมิธรรม เวชยชัย" ได้ออกมาโพสต์ถึงการทำงานของรัฐบาล
โดย สมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ออกมาโพสต์ว่า……..
ลาออกเถิดครับ!
ผลงานของรัฐบาล คสช.นับตั้งแต่
เข้ามารับผิดชอบบริหารประเทศ
จนถึงปัจจุบัน นอกจากจะไม่เกิดผลงาน ที่สร้างประโยชน์ถึงรากฐานของประเทศชาติและประชาชนแล้ว
ภาพจำของรัฐบาล คสช.(ที่อ้างว่าผ่านการเลือกตั้ง) ยังมีแต่ผลงานที่สร้างความเสื่อมทรุด สร้างความขัดแย้ง ทำลายหลักการประชาธิปไตยจนแทบไม่เหลือมาตรฐานทางการเมือง
นับแต่การใช้กลไกที่ตนเองสร้างขึ้น ออกแบบและบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับ "เพื่อพวกเรา" (คสช.) ทำให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นสภาฯ ที่สับสนหลักการแห่ง"ความยุติธรรม"แปลงร่างเป็น "หลักกูและพวกพ้อง" อย่างไม่รู้สึกอับอาย
ตัวอย่างผลงานที่ทำลายหลักการและมาตรฐาน อันกลายเป็นภาพลักษณ์อัปยศที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถเชื่อถือยอมรับได้ เช่น…
การตีความข้อกฎหมายกับคะแนนปัดเศษ เพื่อให้ระบบพรรคการเมืองเสื่อมทรุด และเพื่อเพิ่มช่องทางให้ได้พรรคเล็กมาหนุนเสริมอำนาจตน
การที่นายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ
การไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ ตามพระราชบัญญัติงบประมาณ ทั้งที่มีกฎหมายกำหนดไว้
การนำเอาบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ามีคดี ต้องโทษเกี่ยวกับยาเสพติดในต่างประเทศ เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล
การให้อภิสิทธิ์กับพรรคแกนนำบางพรรค สามารถจัดระดมทุนเข้าพรรคได้อย่างเอิกเกริก ด้วยการรับบริจาคจากหน่วยงานรัฐและเอกชนรายใหญ่ เป็นเงินกว่า 600 ล้านบาท ทั้งที่กรณีนี้เป็นการกระทำที่เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย แต่แม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็ยังใช้กลไกและข้ออ้างต่างๆ แบบข้างๆ คูๆ เพื่อให้รอดพ้นกฎหมาย …ในขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามกลับถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น จนแทบจะขยับตัวทำอะไรไม่ได้ มิหนำซ้ำยังถูกตัดสินเอาผิด จนอาจนำไปสู่ข้อกล่าวหาถึงขั้นยุบพรรค ถือเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้งผู้เห็นต่าง อันเป็นผลงานที่กระทำมาโดยตลอดกว่า 6 ปี
ที่เลวร้ายที่สุด คือ มีการบอกต่อกันว่า …ให้มีการใช้คดีความ เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งและต่อรองเพื่อให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายตนให้ได้มากที่สุด โดยไม่คำนึงว่า การกระทำเช่นนี้จะไปทำลายหลักแห่งความยุติธรรม และหลักการทางกฎหมายของประเทศอย่างรุนแรง กรณีอัปยศที่บ่อนทำลายหลักการ โดยการใช้อำนาจทุกวิถีทางทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม การต่อรองผลประโยชน์ด้วยการจ่ายเงินและใช้การหว่านล้อมโดยเอาคดีมาล่อ เป็นผลงานเชิงประจักษ์ที่ประชาชนรับรู้กันทั่วว่า รัฐบาลชุดสืบทอดอำนาจ คสช.กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้พวกตนอยู่รอด ขณะที่เป็นการทำร้ายระบบยุติธรรม ระบบการเมืองประชาธิปไตย จนสังคมไทยกลายเป็นประเทศที่ถอยหลังและตกต่ำลงทุกขณะ
การแสดงออกของประชาชนใน
"ปรากฎการณ์สกายวอล์ค" ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมาคือความพร้อมเพรียงของความรู้สึกเบื่อหน่ายถึงขั้นทนไม่ได้อีกต่อไป
รัฐบาลที่ใช้ทุกวิถีทางกระทำเพื่อตนเอง รัฐบาลที่ขาดประสิทธิภาพในการบริหาร รัฐบาลที่ทำลายหลักการและมาตรฐานของความยุติธรรมทุกระบบ และไม่เคยเห็นความทุกข์ของประชาชนอยู่ในสายตา ย่อมเป็นรัฐบาลที่จะไม่อยู่ในสายตาประชาชนเช่นกัน
ลาออกเถอะครับ ท่านนายกรัฐมนตรี
การยื้อยุดไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้ประเทศชาติเสียหาย และประชาชนหมดศรัทธา
ผู้นำที่เข้าใจสถานการณ์และปรับตัวได้เร็วยังจะพอมีที่ยืนในประวัติศาสตร์แห่งอนาคต นะครับ
mayuree ลาออกทำไมสมัยจำนำข้าวเจ๊งชาวนาฆ่าตัวตาย พวกมึงยังไม่ยอมลาออกเลย
16 ธ.ค. 2562 เวลา 05.12 น.
Took ไม่คิดจะทำดีก็หุบปากเถอะ
16 ธ.ค. 2562 เวลา 05.12 น.
chokchai ทำงานกันเถอะคับอย่าโยน
16 ธ.ค. 2562 เวลา 05.10 น.
adirek กี่แสนล้านความเสี่ยหายกับจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทย ประชาธิปไตยแกมโกง
16 ธ.ค. 2562 เวลา 05.14 น.
เล็กชาย เดชขจร อยู่เฉยๆดีกว่าเยอะเลยเอาปากใว้ครับผมกับผีสองพี่น้องสัมภเวสีอดีต
หน.พรรคฯพวกเจ้าเถอะ
16 ธ.ค. 2562 เวลา 05.20 น.
ดูทั้งหมด