ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสัชญาหรือขวัญ สถิรพงษะสุทธิ อายุ 44 ปี และนางปารีณา ไกรคุปต์ อายุ 43 ปี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นจำเลยที่ 1-2 ต่อศาลอาญา ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ประเภทปืนกลเล็ก และกระสุนชนิดระเบิดเจาะเกราะซึ่งไม่ใช่ชนิดและขนาดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ โดยมีไว้ในครอบครอง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,8 ทวิ , 55 , 72 ,72 ทวิ , 78 พ.ร.บ.อาวุธปืน วัตถุระเบิด และสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ พ.ศ.2522 มาตรา 6 และฉบับ พ.ศ.2530 มาตรา 3 พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 15,42 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 , 140 , 371
โดยคำฟ้อง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยเป็นพลเรือน ร่วมกับพวกอีก 1 คนที่เป็นพลเรือนซึ่งยังหลบหนี ได้ร่วมกันมีอาวุธปืน วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ อันเป็นความผิดที่เหตุพิเศษเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม
โดยระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-15 ก.ค.57 จำเลยกับพวกที่หลบหนี ร่วมกันมีอาวุธปืนกลเล็ก พร้อมซองกระสุนปืน 1 อัน ซึ่งเป็นลูกกระสุนระเบิดยิงชนิดระเบิดเจาะเกราะ จำนวน 19 นัด อันเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามซึ่งไม่ใช่ประเภท ชนิด และขนาดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ.2522) ข้อ 2,3 ออกตามความใน พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
ขณะที่วันที่ 15 ก.ค.57 ซึ่งเป็นวัน-เวลาที่อยู่ในระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร จำเลยร่วมกับพวกที่หลบหนี มีกล้องส่องเวลากลางคืนจำนวน 1 ชุด , เสื้อเกราะกันกระสุนจำนวน 1 ตัว และหมวกเกราะกันกระสุน จำนวน 1 ใบ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม และจำเลยยังพาอาวุธปืนพกออโตเมติกขนาด .38 SUPER เครื่องหมายทะเบียน กท 4507271 จำนวน 1 กระบอกซึ่งเป็นอาวุธปืนของจำเลยที่ได้รับอนุญาตให้มีได้โดยชอบด้วยกฎหมาย กับกระสุนปืนออโตเมติกจำนวน 31 นัด และอาวุธปืนพกรีวอลเวอร์กับกระสุนปืนลูกกรดจำนวน 8 นัด ติดตัวไปใน ซ.สมคิด ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรและไม่ได้รับอนุญาตให้พกพา เหตุเกิดที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. อันเป็นเขตที่อยู่ในอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึก
ซึ่งศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.3041/2562 และกำหนดนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 27 ม.ค.63 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นการโอนคดีฟ้องมาจากศาลทหารกรุงเทพ โดยนายสัชญาหรือขวัญ สถิรพงษะสุทธิ นั้นเป็นข่าวถูกจับกุมเมื่อวันที่ 16 ก.ค.57 ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกหลังการยึดอำนาจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล จับกุมนายสัชญา ได้พร้อมอาวุธปืนสงครามและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง
Pairat ลองค้นหาไปเรื่อยๆน่าจะมีเรื่องเลวๆๆอีกเยอะ พ่อลูกคู่นี้ ดูซืใครจะกล้าคุ้มกระบาล
07 ธ.ค. 2562 เวลา 01.16 น.
เอามันออกป้ายยยยยยยยยย
07 ธ.ค. 2562 เวลา 00.52 น.
TIE TEWIN พึ่งตัดสินใจฟ้อง ต้องดูทิศทางลมก่อน
06 ธ.ค. 2562 เวลา 23.18 น.
กูว่าสงสัย ทักษิน ทำอีกละมั่งเนี้ย ความผิดป่านนี้ต้องเข้าคุกแร้ว
06 ธ.ค. 2562 เวลา 23.00 น.
tonG ถึงเวลาตัดหางปล่อยวัด เดียร์จะเอามั่งก็ได้นะ
06 ธ.ค. 2562 เวลา 16.12 น.
ดูทั้งหมด