เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วมกับ พล.ต.อุดม โกษากุล ผอ.ศปป.1 กอ.รมน. และคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 (กอ.รมน.)เพื่อหารือถึงการสนับสนุนองค์ความรู้และการดำเนินงาน โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยมี นายนิวัติ น้อยผาง และนายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชนเข้าประชุม ณ กรมการพัฒนาชุมชน
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพิสูจน์ให้เห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียงหรือทฤษฎีใหม่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ประเทศชาติรอดพ้นวิกฤตและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ในการพัฒนา “คน” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศษฐกิจพอเพียง การพัฒนา ต้องพัฒนา "คน" ทุกช่วงวัย เป็นกรอบแนวคิดในการพัฒนาคน ภายใต้การสร้างกลไกการขับเคลื่อนระดับนโยบาย ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ ไปจนถึงพี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ
พล.ต.อุดม โกษากุล ผอ.ศปป.1 กอ.รมน. กล่าวว่า เป้าหมายในการมาครั้งนี้เนื่องจากศูนย์ประสานงานการปฏิบัติที่ 1 มีภารกิจหน้าที่เกี่ยวพันกับกรมการพัฒนาชุมชน จึงอยากทราบรายละเอียดการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งเป็นภารกิจที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างมากต่อกอ.รมน. โดยเฉพาะชุดปฏิบัติการ 01 เป็นหน่วยในการลงพื้นที่เพื่อทราบถึงปัญหาที่ชุมชนมีความต้องการและแก้ไขไม่ได้ ก็จะส่งมายังผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเวทีหลักในการช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชน
ทั้งนี้ เมื่อมาดูในเนื้องานพบว่า กรมการพัฒนาชุมชนและงานของกอ.รมน.มีความเกี่ยวพันใกล้ชิดกันเป็นอย่างมาก จึงอยากมาศึกษางานในการขับเคลื่อนงานการส่งเสริมสถาบันหลัก ชุดขุนด่าน เป็นหน่วยที่เข้าไปคลุกคลีกับชาวบ้าน ตรวจเยี่ยม พบปะชาวบ้าน เพื่อสอบถามปัญหาและความต้องการ ภายใต้หลักการทำงานโดยเฉพาะ ศาสตร์ของพระราชา ในการเสริมสร้างความมั่นคง ในลักษณะเพิ่มศักยภาพเชิงพื้นที่ จังหวัดละ 1 ที่ ใน 14 พื้นที่ต้องการน้ำ หลายพันไร่ ในชุมชนที่ต้องการน้ำเข้าไปช่วยเหลือทั้ง 14 แห่ง และบางพื้นที่ต้องการดำเนินงานตามโครงการ โคก หนอง นาโมเดล โดยที่ชาวบ้านต้องการทำมากขึ้น แต่ขาดงบประมาณในการดำเนินการ ในเขตพื้นที่พัฒนา 14 พื้นที่ที่พัฒนาแหล่งน้ำไปแล้ว และร่วมงานกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยนำองค์ความรู้ นวัตกรรมต่างๆ เข้าลงพื้นที่ บูรณาการทั้ง 14 พื้นที่ และพระนครศรีอยุธยา รวมพื้นที่เป้าหมาย 15 พื้นที่ ถ้าในส่วนของกรมการพัฒนาชุมชนเปิดโอกาสให้มีการขับเคลื่อนร่วมกัน เพื่อยกศักยภาพการทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน