คลังตั้งแท่นเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท จี้ส่วนราชการเร่งทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง หวังช่วยเบิกจ่ายลื่นปรื๊ด
น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2561 ได้มีการสั่งการทุกหน่วยงานราชการที่มีงบลงทุนและรู้วงเงินชัดเจนตั้งงบประมาณอยู่ระหว่างการพิจาณาของชั้นกรรมาธิการ ให้เริ่มดำเนินการกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อที่จะได้เซ็นสัญญาเมื่องบประมาณเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ โดยจะให้แต่ละหน่วยงานคณะทำงานขึ้นมาดูแลให้มีการเร่งเบิกจ่ายได้จริงและรวดเร็วหลังการมีเซ็นต์สัญญาไปแล้วด้วย
ทั้งนี้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 ตั้งเป้าการเบิกจ่ายงบในภาพรวมไว้ 96% และงบลงทุน 88% ในส่วนของการเบิกจ่ายงบประประจำไม่มีปัญหา แต่ในส่วนของงบลงทุนจะมีปัญหาเบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงต้องมีมาตรการเร่งการเบิกจ่ายงบลงทุนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณทันที
สำหรับปีงบประมาณ 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ที่กำลังจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. นี้ เป้าหมายการเบิกจ่ายเท่ากับงบประมาณปี 2562 คาดว่าภาพรวมจะเบิกจ่ายได้ 92-93% จากตอนนี้เบิกจ่ายได้แล้ว 2.54 ล้านล้านบาท หรือ 87% และงบลงทุนวงเงิน 6.5 แสนล้านบาท ตอนนี้เบิกจ่ายได้ 52% ทั้งปีคาดว่าจะได้ประมาณ 70% ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 20-30% เนื่องจากเป้าหมายที่ตั้งไว้สูง แต่หากเทียบปีงบประมาณก่อนหน้างบลงทุนยังเบิกได้สูงกว่าปีก่อน
น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2562 จะพยายามให้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เป็นเจ้าของเงินลงทุนที่ได้รับการจัดสรร ต้องเร่งรัดเบิกจ่าย นอกจากนี้ยังมีปัญหาพ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างใหม่ ที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้หน่วยงานต่างๆ กังวล ทำให้การจัดซื้อจัดจ้างล่าช้า บางครั้งทำไปแล้วกลังผิดก็เริ่มทำใหม่ทำให้เสียเวลา ซึ่งกรมบัญชีกลางจะเร่งทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ มากขึ้น เพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับกฎหมายใหม่และให้การเดินหน้าเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนได้เร็วขึ้น
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนสูงและติดปัญหากับกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างใหม่จำนวน 33 แห่ง ได้แก้ไขให้ออกจากการบังคับใช้ของกฎหมายตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 ซึ่งเป็นการยกเว้นให้ถาวร ดังนั้นการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2562 จึงจะไม่มีปัญหาล่าช้าเหมือนที่ผ่านมาได้อีกต่อไป หากล่าช้าก็ไม่ได้เกิดจากกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างใหม่
น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าวว่า มั่นใจว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2562 จะได้สูงขึ้น เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณใหม่ที่กำลังมีผลบังคับใช้ใหม่ ไม่ให้กันเงินงบประมาณที่ยังไม่มีการเซ็นสัญญาได้อีกต่อไปเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องทำการเซ็นสัญญาโครงการก่อนสิ้นปีงบประมาณ ไม่เช่นนั้นงบประมาณดังกล่าวจะถูกยกเลิกและต้องไปเริ่มกระบวนการขอใหม่ในปีงบประมาณต่อไป
"ในกฎหมายงบประมาณเก่า ให้มีการกันเงินได้ทั้งแบบกันแบบทั้งมีหนี้และกันแบบไม่มีหนี้ ซึ่งกฎหมายงบประมาณใหม่กำหนดให้การกันงบประมาณแบบไม่มีหนี้ให้สูญพันธุ์ไป ทำให้เป็นตัวเร่งหน่วยงานต้องเร่งเซ็นสัญญาโครงการลงทุนก่อนสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งจะส่งผลให้การเบิกจ่ายงบลงทุนได้มากเพิ่มขึ้นไปด้วย" น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าว
สำหรับปีงบประมาณ 2561 มีวงเงินงบลงทุนที่ยังไม่ได้ก่อหนี้ประมาณ 1 แสนล้านบาท หากกฎหมายงบประมาณใหม่มีผลบังคับใช้ภายในเดือนนี้ งบประมาณส่วนนี้จะถูกพับยกเลิกไปทันที ทำให้หน่วยงานต่างพยายามเร่งทำสัญญาให้ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้
คนพลัดถิ่น แผนแดกผลาญประเทศ กะจะขายประเทศแดกกันรึไง สามล้านล้านบาทเอามาจากไหน พวกนรกส่งมาเกิดชัดๆ
24 ก.ย 2561 เวลา 11.07 น.
ps.sod ควรตั้งงบทหารให้เยอะๆ ด้วยเผื่อจะได้เงินทอนและเกรงว่าจะไม่ได้กลับมาอีก เพราะประชาชนหมดความหวังกับทหารตั้งนานแล้ว
24 ก.ย 2561 เวลา 09.55 น.
Tu789 เริ่มต้นขบวนการแดก กูจ่ายภาษีแล้วได้ไรบ้างวะที่เป็นประโยชน์สำหรับกู ฝนตกน้ำก็ท่วม นรกชัดๆ
24 ก.ย 2561 เวลา 06.28 น.
add เอาเงินมาจากไหนบ้างครับ
24 ก.ย 2561 เวลา 06.25 น.
Matthew Chan กะใช้งบให้เกลี้ยงก่อนไป... แถมผูกงบ ไปอีก20ปี แสบไม่ใช่เล่นๆ ใครมาทำงานต่อ หาเงินโป๊ะกันตายห่า
24 ก.ย 2561 เวลา 05.38 น.
ดูทั้งหมด