บรรดานักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยรัฐโอเรก้อนกล่าวว่าอาหารที่มีปริมาณไขมันกับน้ำตาลสูงจะทำให้ “ความยืดหยุ่นทางปัญญา” หรือความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆเสื่อมถอย หมายความว่าการรับประทานขนมโอรีโอ้ทั้งแถวตอนเที่ยงคืนจะทำให้คุณโง่ยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ยังพบว่าหนูทดลองที่กินอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันกับน้ำตาลสูงติดต่อกันเป็นเวลาสี่สัปดาห์จะมีอาการมึนงงและสับสน
นักวิจัยได้ค้นพบการเชื่อมโยงกันระหว่างปริมาณแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารของหนูกับความสามารถในกระบวนการคิดของพวกมัน นอกจากแบคทีเรียในลำไส้จะมีส่วนช่วยในการย่อยอาหารแล้ว พวกมันยังเสริมสร้างการทำงานของสมองด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงควรรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติกสูง เนื่องจากพวกมันจะช่วยเพิ่มปริมาณของแบคทีเรียในลำไส้
ในทางกลับกันอาหารที่มีปริมาณไขมันกับน้ำตาลสูงจะไปทำลายโปรไบโอติกและทำให้ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมลดลง แบคทีเรียจะปล่อยสารประกอบที่ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท กระตุ้นระบบประสาทหรือระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งมีผลต่อกระบวนการทำงานทางชีวภาพ และเนื่องด้วยไขมันกับน้ำตาลจะส่งผลเสียต่อระบบแบคทีเรียที่มีประโยชน์ อาหารเหล่านั้นจึงไม่เหมาะกับร่างกายของเรา
นี่ไม่ใช่การศึกษาครั้งแรกที่เกี่ยวกับอาหารโปรไบโอติกและความสัมพันธ์ของพวกมันที่ส่งผลต่อการทำงานของสมอง การศึกษาในปี 2013 โดยกลุ่มนักวิจัยด้านระบบทางเดินอาหารพบว่าผู้หญิงที่รับประทานอาหารปราศจากโปรไบโอติกจะทำการทดสอบเกี่ยวกับกระบวนความคิดได้ผลออกมาแย่กว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่รับประทานอาหารโปรไบโอติก
ดังนั้นคราวหน้าถ้าคุณต้องการรับประทานขนมขบเคี้ยวหรืออาหารอะไรก็ตาม ขอแนะนำให้เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ของคุณจะดีกว่า
โปรไบโอติกส์คืออะไร?
โปรไบโอติกส์ (อังกฤษ: Probiotics) หมายถึง แบคทีเรียในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ ในรูปที่เป็นอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เมื่อรับประทานด้วยปริมาณที่พอเหมาะจะส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภค เช่น โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวหลากหลายยี่ห้อในท้องตลาด แต่ไม่นับรวมถึงนมเปรี้ยวพร้อมดื่มประเภทยูเอชที เพราะไม่มีแบคทีเรียกรดนมเหลืออยู่ เนื่องจากผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อที่ความร้อน เป็นที่ทราบกันดีว่าโดยปกติแล้วแบคทีเรียโปรไบโอติกส์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมนมเปรี้ยวส่วนใหญ่ คือแบคทีเรียในกลุ่ม Lactobacilli และ Streptococci แต่จากการศึกษาคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของแบคทีเรียในลำไส้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน พบว่า ความจริงแล้ว Bifidobacteria สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในอุตสาหกรรมประเภทนี้ ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในทางการศึกษาแบคทีเรียในลำไส้ ได้เป็นผู้บุกเบิกในการผลิตโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่ได้จากหมักของ Bifidobacteria ซึ่งแม้ว่ารสชาติจะไม่ดีเท่าผลิตภัณฑ์ที่หมักจาก Lactobacilli แต่ด้วยประโยชน์ที่มากกว่า จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้รักสุขภาพ และในเมืองไทยก็มีโยเกิร์ตที่หมักโดย Bifidobacteria วางจำหน่ายแล้วเช่นกัน
Mango_sweet จริงๆแล้วอาหารของเราดีที่สุดอยู่แล้วนะครับ เรามีทุกอย่างอยู่แล้ว ภูมิปัญญาคนไทยโบราณนั้นฉลาดมากในด้านอาหาร
เช่น ข้าวหมากเราเองนั้น ก็ช่วยในด้านลำไส้ ไม่ต่างกับโยเกิร์ต
16 ต.ค. 2561 เวลา 06.31 น.
มีแดรกอิ่มทุกมื้อก็บุญโขแล้ว คิดมากไปรึเปล่า
16 ต.ค. 2561 เวลา 06.12 น.
Bz• แล้ว เหล้า เบียร์ บุหรี่ หล่ะ
16 ต.ค. 2561 เวลา 04.43 น.
ขุนเงิน ขุนทอง ทำไมไม่ออกกฏหมายห้ามขายห้ามผลิตไปเลยหล่ะ
ว่าแต่คนไทย. วัยกลางคน
กับเยาวชนวัยรุ่น พวกเขาก็ไม่กินนะอาหารขยะ
ราคาถูกที่เห็นกินๆกันเยอะ ก็มีแต่ ยาบ้า นะ
ราคาแพงด้วย
16 ต.ค. 2561 เวลา 04.27 น.
♡♡พี่หนึ่ง♡♡ อาหารที่มึงพูดถึงที่ต่างประเทศเช่า อังกฤษ เค้าแดกเป็นชีวิตประจำวันของเค้า เหมือนมึงแดกข้าวอยู่ทุกวันเนี้ย
16 ต.ค. 2561 เวลา 04.10 น.
ดูทั้งหมด