ทั่วไป

หนุ่ม กรรชัย เผยเบื้องหลัง 3 ปีก่อน สาเหตุที่ ดิว อริสรา เทงานบ่อย

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์
อัพเดต 08 ก.พ. 2566 เวลา 19.39 น. • เผยแพร่ 09 ก.พ. 2566 เวลา 01.56 น.

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ "ดิว อริสรา" ออกมาแฉ 4 พี่น้อง บ. บ้านทำเว็บพนันชื่อดัง "มาเก๊า 88" ล่าสุด สาวดิว ก็ได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาเผยถึงสาเหตุที่ออกมาแฉ พร้อมเผยหลักฐานภาพบาดแผลที่โดน "เบนซ์ เดม่อน" ทำร้ายอย่างหนัก จนกลายเป็นปมในใจ

หนุ่ม กรรชัย เผยเบื้องหลัง 3 ปีก่อน สาเหตุที่ ดิว อริสรา เทงานบ่อย
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา สาวดิว ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ก Due Arisara เปิดใจทั้งทั้งน้ำตาเผยภาพหลักฐานบาดแผลที่ที่โดนทำร้ายร่างกายหนัก จนกลายเป็นปมในใจ อีกทั้งยังเผยอีกว่า ตลอดเวลา 1 - 2 ปี ที่คบกับ เบนซ์ ดิวโดนทำร้ายร่างกายและทำร้ายจิตใจตลอดที่สำคัญทุกคนในครอบครัวของเบนซ์ ไม่เคยยื่นมือมาช่วยเหลือ หรือ ห้ามไม่ให้เบนซ์ทำร้ายเลย

หนุ่ม กรรชัย เผยเบื้องหลัง 3 ปีก่อน สาเหตุที่ ดิว อริสรา เทงานบ่อย

ทางด้าน หนุ่ม กรรชัญ ก็ได้เผยถึงเรื่องราวดังกล่าวผ่านทางรายการข่าวใส่ไข่ เผยว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน เราจะรู้กันหมดเลยว่า ถ้าพูดถึงชื่อ ดิว อริสรา ในวงการบันเทิง เราทุกคนจะรู้หมดเลยว่า ดิวเท ไม่มาทำงาน มาทำงานสาย ป่วย ไม่มากอง รับงานแล้วหาย จนกระทั่งผู้จัดนอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก แต่ในครั้งนั้นดิวไม่เคยออกมาพูดว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายแล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือ ดิวถูกทำร้ายร่างกายจากคนบางคน จนกระทั่งไม่สามารถไปทำงานได้ วันดีคืนดีจะลุกไปทำงานก็ไม่ให้ไป ไปถ่ายละครก็ไม่ให้ไป วิธีการที่ไม่ให้ไปคือ ต่อยหน้าให้เป็นแผล ก็ไม่ต้องไป ซึ่งจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
หนุ่ม กรรชัย เผยเบื้องหลัง 3 ปีก่อน สาเหตุที่ ดิว อริสรา เทงานบ่อย

ถามว่าเขาหลุดออกมาได้ยังไง หนุ่ม กรรชัย เล่าต่อว่า ต้องมีคนไปช่วยออกมา ถึงออกมาได้ ในวันที่ช่วยออกมาได้ เข้าไอซียู แต่ในวันนั้นเป็นสิ่งที่เขารู้สึกว่าเขาคงไม่สามารถมาต้านอะไรแบบนี้ได้ เลยต้องเก็บไว้ในใจ กระทั่งได้มาพบรักกับสามี อยู่กินกันจนมีลูก แม้จะพยายามลืม แต่ก็ลืมไม่ได้ มันเป็นแผลในใจ

หนุ่ม กรรชัย เผยเบื้องหลัง 3 ปีก่อน สาเหตุที่ ดิว อริสรา เทงานบ่อย
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขอบคุณ FB : Due Arisara

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ