'ไทยสร้างไทย'ส่ง4 ขุนพล เจ้าของร้านอาหารแบรนด์ดัง ลงสมัคร ส.ส. พร้อมผลักดันธุรกิจอาหารในไทย ปั้น"Thailand World Food Hub" ให้โด่งดังระดับโลก รุกนโยบายด้านอาหารและท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มยอดรายได้จาก400,000 ล้านบาทเป็น600,000 ล้านบาท
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้าง นำทัพไทยสร้างไทย ระดมสุดยอด ขุนพลด้านอาหารทั้ง4 คนเป็นเสาหลักปั้นนโยบายด้าน อาหารและการท่องเที่ยวให้ดังไกลไปทั่วโลกนำทีมโดย"เชฟบุญธรรม" หรือ นายบุญธรรม ภาคโพธิ์ เชฟเบอร์ต้นๆของประเทศไทยเจ้าของรางวัลสุดยอดเชฟกระทะเหล็ก และเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นHonmono และร้านในเครือรวม35 สาขาทั่วประเทศ
นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัยหรือ"หนุ่ย ลูกชิ้นจัง" ผู้ก่อตั้งเฟรนไชส์Street Food "ลูกชิ้นจัง" มากกว่า600 สาขาทั่วประเทศ เจ้าของรางวัลชนะเลิศSME Provincial Champions และThailand Franchise Award
นายรณกาจ ชินสำราญผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์อาหารญี่ปุ่นชื่อดัง"MAGURO" และแบรนด์ในเครือรวม16 สาขาในกรุงเทพฯ ที่กำลังเตรียมตัวจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี2566
ขุนพลสุดท้ายนายสรเทพ โรจน์พจนารัชหรือ"สตีฟ" เจ้าของกลุ่มร้านอาหารอย่างSteve Group ที่ปักหมุดLocation Prime Area ในย่านเมืองเก่า ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้ง5 สาขา รวมถึงธุรกิจโรงแรม, Hostel และคาเฟ่ อีกมากมาย
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่าพรรคไทยสร้างไทย เล็งเห็น ศักยภาพของธุรกิจอาหารของไทยว่าเป็นอันดับต้นๆของโลก ที่เป็นจุดมุ่งหมายที่นักท่องเที่ยวจากทุกประเทศต้องการมาเยือนมาชิมให้ได้ซักครั้งในชีวิต เนื่องจากประเทศไทยมีชื่อเสียง มีเสน่ห์ทางด้านอาหารริมทางเป็นอย่างมาก รวมไปถึงธุรกิจอาหารในประเทศที่มีมูลค่าสูงถึง4 แสนกว่าล้านบาท ที่เป็นตัวขับเคลื่อนGDP ประเทศอย่างมหาศาล
นายเจตุบัญชา กล่าวว่า หากพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล เรามีแผนจะกระตุ้นธุรกิจอาหารจาก4 แสนล้านขึ้นเป็น6 แสนล้านได้อย่างเป็นรูปธรรม หนึ่งในแผนนั้น คือการเร่งจัดตั้ง"Thailand World Food Hub" หรือเรียกง่ายๆว่า"Thai Food Hub"ตามจังหวัดหัวเมืองต่างๆเพื่อเป็น ศูนย์ธุรกิจแลกเปลี่ยนของอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจอาหารในประเทศไทยที่ต้องการจะเปิดสาขาในต่างประเทศ สามารถทำได้โดยง่าย ไม่ต้องลงไปวางระบบเอง
ด้านนายบุญธรรม กล่าวว่า ศูนย์"Thai Food Hub" นี้จะอำนวยความสะดวกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นจัดหาสถานที่เช่า จัดการด้านกฎหมายในประเทศนั้นๆ จดลิขสิทธิ์ รวมไปถึงการหานักลงทุนท้องถิ่น เรียกได้ว่าครบวงจร ขอแค่สินค้าของคุณดีมีคุณภาพและอยากเติบโต สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่นายสรเทพ มองว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย จะเป็นผู้นำล่าอาณานิคมด้านอาหาร นำอาหารไทยซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไปอยู่ทุกที่ในโลก เป็นอาหารที่คนทั่วโลกต้องจดจำและรู้จัก ไม่ใช่ คนไทยจะเห่อบริโภคแต่อาหารหรือ แบรนด์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอย่างเดียว กลับกัน ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องภูมิใจในอาหารไทย จับใส่ระบบที่ดีและมีมาตรฐาน ผ่านช่องทาง"Thai Food Hub"ซึ่งเป็นนโยบายของ พรรคไทยสร้างไทย ที่มั่นใจว่าทำได้อย่างแน่นอน และจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากมายอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายรณกาจ กล่าวว่า ฝากสื่อสารไปยังหน่วยงานภาครัฐ ต้องเร่งเพิ่มการประชาสัมพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาชิม มาช้อปอาหารนานาชาติที่ประเทศไทย เพราะไทยเป็นแหล่งอาหารนานาชาติ ที่อร่อยที่สุดและมีความหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารอินเดีย อาหารญี่ปุ่น อาหารมุสลิม อาหารยุโรปและยังมีอาหารไทยหลากหลายภูมิภาคอีกด้วย