ทั่วไป

ขนหัวลุก! หนอนบุ้งนับล้านบุกวัด ไต่ยั้วเยี้ย ถูกผิวทั้งคัน-อักเสบ เทศบาลเร่งกำจัด

Khaosod
อัพเดต 21 ธ.ค. 2565 เวลา 11.53 น. • เผยแพร่ 21 ธ.ค. 2565 เวลา 11.53 น.

ขนหัวลุก! หนอนบุ้งนับล้านบุกวัด ไต่ยั้วเยี้ย ถูกผิวทั้งคัน-อักเสบ เทศบาลเร่งกำจัด หวั่นลามเป็นอันตรายกับนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนวัด

วันที่ 21 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระที่วัดสตูลสันตยาราม(วัดป่าช้าไทย) จ.สตูล ได้แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลเมืองสตูล และเกษตรจังหวัดสตูล ว่า มีหนอนนับล้านตัวบุกวัดจนอยู่ในกุฏิอย่างหวาดผวา เนื่องจากเป็นหนอนขนที่มีพิษ คนที่แพ้จะมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน นอกจากเกาะตามกุฏิแล้วยังอยู่ตามพื้น ม้านั่ง ศาลา และทั่วบริเวณ บางครั้งปลิวไปเกาะตามศีรษะ เสื้อผ้าต่างๆ สร้างความรำคาญแก่ญาติโยมที่มาวัด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ต่อมาทางเกษตรจังหวัดสตูลและเทศบาลเมืองสตูล เดินทางมาตรวจสอบพบว่าหนอนดังกล่าวเป็นหนอนบุ้ง ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณต้นไม้และกัดกินใบไม้เป็นอาหาร เบื้องต้นทดลองใช้คาร์บาริล ฉีดและดูสภาพว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหนอนจะค่อยๆ ตาย

ขณะที่เทศบาลเมืองสตูลได้พ่นยาฉีดยุงเพื่อกำจัดในเบื้องต้น เนื่องจากเกรงว่าหนอนบุ้งจะกระจายไปทั่ววัด โดยเฉพาะบริเวณโรงเรียนที่อยู่ภายในวัด หวั่นเป็นอันตรายกับเด็กนักเรียนเพราะเป็นหนอนขนที่มีพิษ หากเด็กไปโดนจะเป็นอันตรายได้ จึงเร่งหาทางกำจัดโดยเร็วที่สุด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พระธนภูมิ ทิศษา พระลูกวัดที่อาศัยอยู่ในกุฏิที่ถูกหนอนบุกว่า หนอนดังกล่าวขึ้นมาอยู่ตามกุฏิมาประมาณ 4 วันแล้ว พระบางรูปถูกแล้วคัน ซึ่งหลวงแมนที่อยู่ที่วัดนี้มากว่า 10 ปี บอกว่าไม่มีปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน น่าจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมและอากาศ มีส่วนทำให้หนอนขยายพันธุ์เร็ว มันกัดกินใบไม้จนร่วงหมดแล้วไต่ไปเกาะตามกุฏิ แต่ทำได้แค่กวาดออกไปเท่านั้น ไม่สามารถฆ่ามันได้ เพราะผิดศีล

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ด้านนายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรจังหวัดสตูล กล่าวว่า หนอนดังกล่าวเป็นหนอนบุ้ง ซึ่งปีนี้สภาพแวดล้อม สภาพอากาศ ความชื้นเหมาะสม อาหารสมบูรณ์ ทำให้ขยายพันธุ์ได้เร็วเป็นพิเศษ ส่วนที่ตัวหนอนลงจากยอดไม้มา เพื่อรอเวลาเข้าดักแด้ ใช้เวลา 3-4 วันจะกลายเป็นผีเสื้อ แต่ช่วงนี้เรารอไม่ได้ หากไม่เยอะก็ใช้ไฟหรือกวาดได้ แต่นี่มันเยอะมากจริงๆ ก็จะหาวิธีการที่ดีที่สุด

นายชาญณรงค์ กล่าวต่อว่า คงต้องใช้สารเคมีที่ได้ผลและดูดซึมน้อยที่สุด เพราะสารเคมีหากฆ่าหนอนได้ก็เป็นอันตรายกับคนเช่นกัน หนอนชนิดนี้มาได้หลายทาง ทั้งคลานลงมาและปล่อยใยห้อยตัวลงพื้น นอกจากสร้างความรำคาญแล้วยังเป็นพิษ เกิดการระคายเคืองกับคนที่แพ้ ทำให้มีอาการคันและอักเสบได้

นายชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสังเกตพฤติกรรมหนอนบุ้งนับล้านตัวดังกล่าว พบว่ากัดกินต้นสะเดาบริเวณรอบกุฏิ และไต่ลงตามใยไปทั่วบริเวณ สร้างความรำคาญให้กับญาติและคนทั่วไปที่เข้ามาในวัด

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • Nai noi Sisumangkala
    จริงๆสมุนไพรไล่แมลงก็มี ถ้าฆ่าในวัดก็บาปมาดน่ะแค่ไล่เขาไปก็พอ
    21 ธ.ค. 2565 เวลา 16.27 น.
  • Billy, Tanapat
    พาดหัวข่าวแบบเร่งความรู้สึกอ่อนไหวให้มากๆเข้าไว้... ..ทำไมต้องขนหัวลุก ทำไมต้องผงะ ผมเฉยมาาาาก ... ไม่รู้สึกเลย รับรู้เข้าใจ..แต่ไม่ถนัดปรุงแต่ง ...มันเสียเวลา
    21 ธ.ค. 2565 เวลา 14.06 น.
  • ณัฏฐ์หิรัญกันตะธีรา
    กวาดๆรวมมาคั่วทอดสิ อร่อยนะ วินามินครบแหล่งโปรตีน
    22 ธ.ค. 2565 เวลา 02.48 น.
  • Aurawan
    ตัดต้นไม้ทิ้ง ปลูกอย่างอื่นทดแทน
    22 ธ.ค. 2565 เวลา 02.26 น.
  • ✈️✈️🛩️🛩️🚁🚁🚀✈️✈️🛩️🛩️🚁🚁✈️✈️🚁🚁🚀✈️✈️
    เอิ่ม พระคะ พระต้องทำความสะอาดวัดค่ะ 5ส ค่ะพระ
    22 ธ.ค. 2565 เวลา 02.48 น.
ดูทั้งหมด