โคราชพลิกภัยแล้งซ้ำซาก ผุดไอเดียเลี้ยงกบในสวนไผ่ สร้างรายได้เสริมจากปลูกข้าว
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่หมู่บ้านหนองระเวียง หมู่ 12 ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายบันลือ พรมพะเนา อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองระเวียง หมู่ 12 ได้ปรับเปลี่ยนที่นาจำนวน 10 ไร่ ซึ่งประสบกับปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก ให้เป็นพื้นที่ไร่นาสวนผสม โดยขุดร่องน้ำ ปลูกพืชนานาชนิด เช่น ข้าว มะม่วง มะพร้าวน้ำหอม และแบ่งพื้นที่ 2 ไร่ ทำเป็นป่าไผ่ที่ร่มรื่น
โดยใต้สวนไผ่นี้ ได้ทำคอกวัว เลี้ยงวัวจำนวน 12 ตัว และทำเล้าไก่ เลี้ยงไก่พื้นเมืองมากกว่า 50 ตัว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร และขายวัว ขายไก่ เก็บหน่อไม้ขาย สร้างรายได้ให้ครอบครัวตลอดทั้งปี จนกลายเป็นพื้นที่เรียนรู้การเกษตรประจำตำบลหนองระเวียง ที่จะมีชาวบ้านในพื้นที่มาเรียนรู้ไม่ขาดสาย
ล่าสุดยังได้ทำการขุดร่องน้ำในสวนไผ่ เพื่อเลี้ยงกบแบบธรรมชาติ ซึ่งนายบันลือเปิดเผยว่า ที่บริเวณนี้อยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำธรรมชาติ อาศัยเฉพาะน้ำฝนเท่านั้น ทำให้ทุกปีจะประสบกับปัญหาภัยแล้งมาโดยตลอด ดังนั้นตนเองจึงได้ปรับเปลี่ยนมาทำเป็นไร่นาสวนผสม จนสามารถเพิ่มรายได้จากการปลูกข้าวปีละครั้งมากกว่า 3 เท่าตัว
นายบันลือเล่าว่า ตนไปศึกษาวิธีเลี้ยงกบแบบธรรมชาติ จากสำนักงานประมงอำเภอเมืองนครราชสีมา ก่อนที่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนจะซื้อพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์กบ “บลูฟร็อก” มาจากแหล่งเพาะพันธุ์ที่ประมงอำเภอแนะนำ จำนวน 100 ตัว ในราคา กก.ละ 70 บาท โดยแบ่งเป็น พ่อพันธุ์ 50 ตัว แม่พันธุ์ 50 ตัว แล้วนำมาปล่อยที่สวนไผ่ ซึ่งตนได้ทำการขุดร่องน้ำไว้ 2 ร่อง ขนาดความกว้าง 1 ม. ลึก 50 ซม. และมีพื้นที่บกให้กบได้ขึ้นมาอาศัยข้างละ 1 เมตร แล้วนำผ้ามุ้งมากั้นไว้ เพื่อกันกบกระโดดหนี รวมทั้งป้องกันงูลงมากินกบอีกด้วย โดยแยกกบตัวผู้ กับกบตัวเมียออกไว้คนละร่อง และให้อาหารเม็ดกบ 2 เวลา เช้า-เย็น ซึ่งอาหารกบราคาไม่แพง ถุงปุ๋ยละประมาณ 400 บาท ใช้ได้นานถึง 6 เดือน
ผู้ใหญ่บันลือกล่าวอีกว่า ที่ตนสนใจนำกบมาเลี้ยง เพราะเห็นว่าตลาดมีความต้องการมาก กบถือว่าเป็นอาหารป่าที่หารับประทานได้ยาก มีเท่าไหร่ก็ขายหมด ดังนั้นจึงถือว่าน่าสนใจมาก โดยตอนนี้ตนได้ทำการผสมพันธุ์กบจนได้ลูกอ๊อดมากกว่า 1 แสนตัว ซึ่งได้นำไปไว้ที่บ่อพักเลี้ยงอนุบาล เพื่อรอให้ครบ 45 วัน หลังจากนั้นจะนำไปปล่อยที่ร่องน้ำแห่งใหม่ ที่ตนเตรียมขุดไว้แล้ว เพื่อเพาะเลี้ยงให้โตเต็มที่ รวมระยะเวลาตั้งแต่เป็นลูกอ๊อดจนโตเต็มที่ เป็นเวลา 4 เดือน ก็พร้อมที่จะจับไปขายได้
ซึ่งกบที่ตัวโตเต็มวัย 1 กก.จะประมาณ 3 ตัว โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อในราคา กก.ละ 70 บาท แต่ละรุ่นถ้ารอดได้สักประมาณ 60,000-70,000 ตัว ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้นี้ให้กับชาวบ้าน เพื่อใช้ทำเป็นอาชีพเสริมรายได้จากการปลูกพืชได้เป็นอย่างมาก