การเมือง

‘ศึกษิษฏ์’ขออย่าโยงการเมือง หลังผุดล่ารายชื่อคัดค้าน ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’

เดลินิวส์
อัพเดต 15 ม.ค. เวลา 14.02 น. • เผยแพร่ 15 ม.ค. เวลา 05.09 น. • เดลินิวส์
'ศึกษิษฏ์' ขออย่าโยงเป็นเรื่องการเมือง หลังผุดล่ารายชื่อคัดค้าน 'เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' บอกยินดีรับฟังความเห็น ชี้ไม่ต้องกังวล 'ฟอกเงิน-ทุนสีเทา' เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนมืออาชีพ ยันมีมาตรการป้องกันติดการพนัน ขึ้น Negative list ขณะที่ค่าเข้ากาสิโน รอ คกก. เคาะขั้นต่ำ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนส่วนหนึ่งออกมาคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยยอมรับว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการพนันได้ 100% ซึ่งมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบันพบว่า มีคนไทยออกไปเล่นการพนันตามประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจไม่ใช่การถูกกฎหมายเลยทีเดียว และยังเป็นเรื่องสีเทา ส่งผลให้เงินเหล่านี้หลุดออกไปนอกระบบ และไปก่อตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกลวงประชาชน แต่ถ้าประเทศไทยมีสถานบันเทิงครบวงจร จะสามารถดึงเม็ดเงินเหล่านี้กลับมายังประเทศไทยได้ และมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

นายศึกษิษฏ์ ยังยกตัวอย่าง ประเทศสิงคโปร์ ที่สามารถนำเงินจากการเก็บค่าใบอนุญาต (License) เพื่อมาเป็นรางวัลนำจับในการพนันผิดกฎหมายได้ และพบว่า การก่ออาชญากรรมลดลง พร้อมย้ำว่า เงินที่ถูกเล่นตามแนวชายแดนที่มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งใบอนุญาตจะสามารถช่วยลดปัญหาการพนันได้ และนอกจากเป็นรางวัลนำจับแล้ว ยังตั้งโครงการบำบัดการติดพนันด้วย ซึ่งหลายประเทศทำกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นแหล่งฟอกเงินนั้น นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า ในร่าง พ.ร.บ. กำหนดไว้ว่า การลงทุนจะต้องมีเงินขั้นต่ำ 1 หมื่นล้านบาท และการลงทุนจะต้องเป็นขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่า สังคมมีข้อกังวลในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รัฐบาลจึงบอกว่า ควรจะต้องดึงผู้ประกอบการที่ดูแล และกำกับในระดับโลก ซึ่งจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ถูกกำกับโดยประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ในพื้นที่ลาสเวกัส มาเก๊า และสิงคโปร์ ดังนั้นบริษัทเหล่านี้จะกลัวมากกว่า เพราะไม่สามารถมาสร้างความเสียหายในประเทศไทยได้ โดยหากมีปัญหาการฟอกเงินในไทย มีการติดการพนันส่งผลกระทบต่อสังคม บริษัทเหล่านี้อาจจะต้องถูกถอนใบอนุญาต ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่รัฐบาลบอกว่า การลงทุนในรอบแรก ที่เป็นสิ่งใหม่ ประเทศไทยจึงต้องนำบริษัทที่มีประสบการณ์ ที่เคยทำงานมาแล้ว และสามารถบริหารจัดการการฟอกเงิน และบริหารหนี้ติดการพนันได้ ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบที่มีการป้องกัน และมีกฎเกณฑ์ ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุม

เมื่อถามว่าขณะนี้มาตรการป้องกันกลุ่มจีนสีเทา เนื่องจากมีความสนใจในเรื่องนี้นั้น นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า เราจะมีมาตรการตั้งแต่การขออนุมัติ เมื่อมีการจัดตั้งสำนักงานที่ดูแลด้านนี้โดยตรง ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ก็จะต้องยื่นแผนประกอบการลงทุน ระบุรายละเอียดผู้ถือหุ้นเป็นใคร ดังนั้นก็จะตรวจสอบได้ว่าใครคือ ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีระบบที่ระบุอยู่ใน พ.ร.บ. ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นต้องแจ้งให้กับคณะกรรมการนโยบายทราบ พร้อมย้ำว่า จะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึงผู้ถือหุ้น และบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกก็ให้ความสนใจ ก็จะไม่เสี่ยงในเรื่องเหล่านี้ เพราะหากเกิดความเสียหาย จะส่งผลกระทบต่อบริษัท ทำให้รัฐบาลคิดว่า แนวทางในการ ตามที่คณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องนี้ ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก ทั้งด้านการดึงดูด การลงทุน และการกำกับดูแล

เมื่อถามว่ามีการตั้งเป้าว่า จะดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายในปี 2572 นั้น นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า ตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีระบุ เข้าใจว่า จะเป็นการเปิดให้มีการเริ่มลงทุน และเปิดให้บริการ ซึ่งเป็นความตั้งใจไว้เช่นนั้น โดยขณะนี้ในเรื่องของกฎหมาย หากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเสร็จ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงในหลักการ ก็จะสามารถส่งเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาต่อไปได้ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงในหลักการก็ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ถือว่า เรื่องนี้ทุกพรรคให้การสนับสนุน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายศึกษิษฏ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มองว่าหากร่าง พ.ร.บ. เข้าสู่ที่ประชุมสภาแล้ว จะถือเป็นโอกาสให้ผู้แทนของประชาชนได้พิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบ และให้มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่า เป็นส่วนหนึ่งในการรับฟังความเห็นเพื่อให้กฎหมายดังกล่าวดีขึ้น

สำหรับกรณีที่มีการเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติ เนื่องจากเรื่องนี้จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนั้น นายศึกษิษฏ์ เห็นว่า เรื่องนี้มีการรับฟังความเห็นไปแล้ว และขั้นตอนที่จะบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ ก็ผ่านการโหวตจากสภานิติบัญญัติอยู่แล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็พร้อมรับข้อสังเกตจากประชาชน ก่อนที่มีการเปิดให้ลงชื่อคัดค้าน จะทำให้เกิดบานปลาย เป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ ตนไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง แต่อยากให้มองเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ และยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยที่จะมาพร้อมกับมาตรการการป้องกันผลกระทบทางสังคมที่บริษัทยักษ์ใหญ่มีอยู่แล้ว, การฟอกเงิน และจีนเทา ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว โดยที่ส่วนตัวเข้าใจว่า จะมีคนเห็นต่าง

นายศึกษิษฏ์ ยังระบุอีกว่า หากใครที่ไม่อยากให้คนในครอบครัวเข้ามา ก็สามารถส่งรายชื่อให้เป็น Negative list ได้ ส่วนการกำหนดค่าเข้า 5,000 บาท เป็นการระบุในบัญชีแนบท้าย ซึ่งเป็นเพียงเพดานอาจต่ำกว่านั้นได้ ซึ่งต้องรอดูผลการศึกษา หากกฎหมายผ่านจะมีการจัดตั้งสำนักงานว่า ค่าเข้าควรจะเป็นเท่าไหร่ หรือตั้งที่ใด ค่าอนุญาตอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจะมีจุดสมดุล เช่น ในประเทศสิงคโปร์ เก็บค่าเข้า 10,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นการคำนวณโดยใช้ค่าตั๋วเครื่องบิน ที่จะเดินทางไปยังกาสิโนที่ใกล้ที่สุด ส่วนแนวคิดของเราจะเป็นอย่างไร ยังไม่ได้มีการคิดออกมา รวมถึงจุดสมดุลในการป้องกันทางสังคม ซึ่งหากใช้แนวคิดเดียวกันกับสิงคโปร์ อาจจะคิดในลักษณะที่คนไทยนั่งรถตู้ไปกาสิโนปอยเปต เพื่อแลกกับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายศึกษิษฏ์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องค่าเข้าแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ เพื่อป้องกันกลุ่มเปราะบางเข้าไปเล่น ส่วนราคาเท่าไหร่จะเหมาะสม จะขึ้นอยู่กับสำนักงานที่จัดตั้งเป็นผู้พิจารณา ส่วนสถานที่ตั้งจะอยู่ที่ใด กรรมาธิการเคยศึกษาในเบื้องต้นว่า ควรจะอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติ และมีการคมนาคมขนส่งที่พร้อม และสถานที่เที่ยวอื่นซึ่งจะเป็นสมดุลของ Demand และ Supply ว่ารัฐ และผู้ประกอบการต้องการที่ใด โดยสำนักงานจะต้องมีการศึกษาอีกครั้ง ว่าพื้นที่ใดต้องการ Man-made destination (สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น) อย่างไร

เมื่อถามว่าวางไทม์ไลน์กฎหมายไว้เป็นเมื่อใดนั้น นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า ตนยังไม่มั่นใจในไทม์ไลน์ แต่อยากให้ทุกอย่างรอบคอบ และให้เวลาคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับปรุงกฎหมายให้เต็มที่ พร้อมย้ำว่าความเห็นของกฤษฎีกาเป็นความเห็นที่ดี เพราะกฎหมายเป็นกฎหมายใหม่ และเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับประเทศไทย จึงจำเป็นต้องให้เวลาในการรวบรวม และปรับปรุง พ.ร.บ. ทั้งนี้ตั้งใจให้เวลาเป็นไปตามที่ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีระบุว่า จะสามารถเริ่มได้ในปี 2572 แต่จะพยายามเร่งให้เหมาะสม

เมื่อถามว่าเหตุใดทำไมไม่ใช้ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ที่มีอยู่แล้ว นายศึกษิษฏ์ อธิบายว่า เป็นอะไรที่ต่างกัน เนื่องจาก พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ซึ่งเก่ามาก ไม่ทันกับรูปแบบใหม่ และสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมากกว่าแค่การพนัน เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ มีอะไรบ้างอย่างที่ต้องปลดล็อก และมีมาตรฐานความปลอดภัย และเปิด 24 ชั่วโมงได้หรือไม่ ซึ่งเป็นกรณีปลีกย่อย จึงจำเป็นต้องมี พ.ร.บ. เป็นพิเศษ

นายศึกษิษฏ์ ยืนยันว่า เท่าที่คุยมีผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาสอบถามถึงข้อกฎหมาย และทุกคนก็ตั้งตารอว่า เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมี เพราะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย มีเกือบทุกประเทศแล้ว ส่วนลูกค้าที่จะใช้บริการ จัดเน้นที่คุมต่างประเทศเป็นหลัก โดยยกตัวอย่างจากโมเดลของสิงคโปร์ เจาะกลุ่มไปที่ลูกค้าวีไอพี ซึ่งจะต้องไปพูดคุยรายละเอียดว่า หากต้องการดึงดูดลูกค้าเหล่านี้เข้ามา การเก็บภาษีจะต่างจากลูกค้าธรรมดาอย่างไร พร้อมยืนยันว่า กลุ่มลูกค้าที่มาไม่ใช่ลูกค้าทั่วไปอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำถึงกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในไทยแน่ ๆ นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการแข่งขัน ทุกกลุ่มที่จะยื่นโครงการเข้ามาในคณะกรรมการ ซึ่งมีโอกาสเท่ากัน ซึ่งปัจจุบันเรามีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ใช้ดึงดูดกลุ่มนักลงทุน พร้อมกับยอมรับว่า มีนักลงทุนระดับโลกหลายเจ้าให้ความสนใจ

ดูข่าวต้นฉบับ