ทั่วไป

ศธ.ชี้หยุดเรียน "หนีฝุ่น" ใช้ดุลยพินิจโรงเรียน

Thai PBS
อัพเดต 24 ม.ค. 2562 เวลา 04.45 น. • เผยแพร่ 24 ม.ค. 2562 เวลา 04.43 น. • Thai PBS

วันนี้ (24 ม.ค.2562) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระ ทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับกระทรวง (EOC) ประสานการทำงานกับ กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาฝุ่น PM2.5 สื่อสารแจ้งเตือนประชาชน จัดทำแนวทางการดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยง 

โดยจัดทีมแพทย์ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนในการปฏิบัติตน และการป้องกันตนเองรวมทั้งแจกหน้ากาก โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร แม่ค้าริมถนน คนงานก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีค่าเฉลี่ยประจำวันสูงเกิน 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือระดับสีแดง ต้องเน้นให้ป้องกันตนเองให้มากขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากนี้กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยใน 3 โรค ได้แก่ โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง หลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน สำหรับมาตรการทางกฎหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข

กระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่ปิดร.ร.พื้นที่เสี่ยงรับฝุ่น

ขณะที่โรงเรียนบางแห่งได้มีการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอน งดกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเพิ่มกิจกรรมในห้องเรียนให้มากขึ้น แต่กระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่มีคำสั่งหยุดเรียนจากปัญหาฝุ่นละออง และให้ผู้บริ หารโรงเรียนพิจารณาตามความเหมาะสม  
ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่โรงเรียนอนุบาลบรรลือทรัพย์ 2 จ.นนทบุรี พบว่าเด็กชั้นอนุบาล 1 เรียนรู้วิธีใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละออง โดยเฉพาะในช่วงที่เดินทางมาโรงเรียนและกลับบ้าน นอกจากนั้น ครูยังให้เด็กล้างมือบ่อยๆ หมั่นทำความสะอาดพื้นเพื่อลดการสะสมของฝุ่นละออง
น้ำผึ้ง บรรลือทรัพย์ ผู้อำนวยการ ร.ร.อนุบาลบรรลือทรัพย์ 2 ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบรรลือทรัพย์
2 บอกว่า ขณะนี้ งดกิจกรรมหน้าเสาธงและกิจกรรมกลางแจ้งของเด็กทุกชั้นเรียน ตั้งแต่เตรียมอนุบาล ถึงชั้นอนุบาล 3 เพราะแม้การเล่นสนุกในสนาม จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการตามวัย เสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่
แต่เมื่อสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยก็ต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรมเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพเด็กเล็ก โดยเพิ่มกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะในห้องเรียนให้มากขึ้นและเห็นด้วยหากโรงเรียนในเขตพื้นที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานหยุดเรียน 2-3 วัน แต่หากระยะเวลามากกว่านั้น อาจกระทบกับการเรียน
ด้านศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เสนอว่า โรงเรียนที่อยู่ในเขตค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นสีแดงและสีส้มควรหยุดเรียน
ขณะเดียวกันภาครัฐควรออกมาตรการสำหรับโรงเรียน เช่น งดจอดรถสะสมหนาแน่นหน้าโรงเรียน ห้ามรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่วิ่งผ่านโรงเรียน เพราะฝุ่นละอองขนาดเล็กมีผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ และกระตุ้นโรคหอบหืดให้กำเริบ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการและกรุงเทพมหานคร ยังไม่มีคำสั่งให้โรงเรียนในสังกัดหยุดเรียนจากปัญหาฝุ่นละออง แต่ให้ผู้บริหารโรงเรียนพิจารณาลด งด หรือหยุดกิจกรรมทางการศึกษา หากค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลต่อสุขภาพ

 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

 

 

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • 🐹🐹🐹🐹🐹
    สั่งหยุดงานทั่วกทม ไปเลย พร้อมห้ามรถส่วนตัวทุกปะเภทวิ่งสัก2วัน ยกเว้นรถทะเบียนขนส่งรับจ้าง รถสาธารนะ แค่นี้ก้อลดฝุ่นไปได้เยอะแล้วไม่มีฝุ่นมาเพิ่มเติม ลมก้อจะพัดพาฝุ่นออกไปเอง ค่าอากาสก้อจะดีขี้นทั้งฝุ่นและแก๊สคาบอนไมอนน้อกไช จากควันรถ กล้าออกพระราชกำหนดกันรึป่าวเหรอเกรงใจนายทุนถ้าแค่ขอความร่วมมือมึงก้อไม่ต้องทำหลอกไอ้นายทุนนายจ้างเหนแก่ตัวมันเยอะไม่ยอมให้ลุกจ้างหยุดหลอกเว้ย
    24 ม.ค. 2562 เวลา 12.08 น.
  • น.อ.ปุณณรัตน์ จงรักษ์
    หยุดเรียนไปเทอะครับ(3-4วัน)กับปัญหาฝุ่น หรือต้องให้เกิดเรื่องกับเด็กๆเป็นไรกันไปก่อนถึงจะคิดได้กันครับ
    24 ม.ค. 2562 เวลา 15.13 น.
  • GiFT
    ต.หนองหญ้า อ.เมือง กาญจนบุรี มันแย่ยิ่งกว่า กทม.อีก ค่าpm2.5 ทั้งคืน อยู่ที่300กว่า ปิดประตูบ้านมิดชิดยัง 150กว่า รร.ในเมืองค่าpm2.5 ค่า 200 ข้างบ้านเผาถ่านค่า pm2.5ขึ้นไป 500กว่า
    24 ม.ค. 2562 เวลา 13.21 น.
ดูทั้งหมด