จากกรณีพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์. หักพาล ผบช.สตม.ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วยคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา หน่วยบัญชาการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมกันจับกุมนายกฤษดา ไชยแค อายุ47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 284/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. 2557
ทั้งนี้ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,กระทำให้เกิดการระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ,มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและให้ใช้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และฝ่าฝืน ประกาศ ข้อกำหนด ที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดออกนอกเคหะสถาน ตามพรบ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยจับกุมได้ที่ชายแดนไทยใกล้กับด่านจังหวัดสระแก้ว ขณะพยายามหลบหนีเข้าเมือง
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นจากการสอบปากคำนายกฤษดา ได้ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ก่อเหตุความไม่สงบในห้วงระหว่างปี 2557 โดยทำมาทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกก่อเหตุปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้าโรงพยาบาลราชวิถี และครั้งที่สองก่อเหตุที่บริเวณบรรทัดทอง ปาระเบิดใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. นอกจากนี้ยังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบทางการเมืองในหลายครั้ง โดยในวันก่อเหตุได้นำระเบิดไปที่บริเวณจุดดังกล่าวจากนั้นก็ดึงสลักก่อนที่จะเขวี้ยงและวิ่งหนีไปโดยที่ไม่ได้หันมามองข้างหลังว่าระเบิดที่ปาไปส่งผลให้ใครได้รับบาดเจ็บบ้า
“ไม่รู้สึกผิดที่ทำให้เกิดการเจ็บตายในครั้งแรก กระทั่งหลบหนีออกนอกประเทศจึงรู้สึกได้ว่าได้ก่อเหตุร้ายแรงลงไป ทั้งความเป็นอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นไปอย่างยากลำบาก และห่วงด้วยว่าจะถูกไล่เก็บจากพวกเดียวกันเนื่องจากมีค่าหัวกว่า 7 แสน ทั้งยังเชื่อมันว่าประเทศชาติจะพัฒนาได้โดยไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน”
ก่อนหน้านี้นายกฤษดา เป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่ขณะนั้นปักหลักบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีนายถาวร เสนเนียม เป็นแกนนำควบคุมกำลังอยู่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีการจับกุมไปกบดานอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบความเคลื่อนไหวที่ประเทศกัมพูชา จึงได้เดินทางเข้าพบพล.ท.แซมวันวีระ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือการทำงานร่วมระหว่างทางการไทยและทางการกัมพูชา
สำหรับในการติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ โดยทางการกัมพูชาและทางการไทยสนธิกำลังปูพรมลงพื้นที่สืบสวนตามข้อมูลที่ทางตำรวจไทยประสาน กระทั่งผู้ต้องหารายนี้ทนแรงกดดันไม่ไหวตัดสินใจข้ามกลับมาฝั่งไทยเพื่อมอบตัว และถูกคุมตัวได้ใกล้ด่านตม.สระแก้ว อำเภอคลองลึก จังหวัดสระแก้ว
sunee ใครเชื่อไอ้โอ้กวะ
15 ธ.ค. 2561 เวลา 11.27 น.
sunee สารภาพความจริงอย่างที่บุญทรงทำ
15 ธ.ค. 2561 เวลา 11.26 น.
5ขวบแล้วคร้าบบบ กลัวจะตายก่อนจะได้บอกสิ ว่าใครจ้างมา หรือถึงบอกก้อไม่มีใครเชื่อ คุณเลวมากที่รับเงินคนไทย มาฆ่าคนไทย แต่คนที่จ้างคุณโครตเลว ที่ใช้ชีวิตคนไทย เป็นที่ระบายอารมณ์ นรกคงยุ่แค่เอื้อมสำหรับพวกคุณจริงๆ
15 ธ.ค. 2561 เวลา 10.55 น.
มนตรี โทษประหารสถานเดียวเพราะทำผิดเป็นอาจินติดตัวกายเป็นสันดานไม่ควรให้อภัยครับ
15 ธ.ค. 2561 เวลา 10.53 น.
กอล์ฟ จัดปาย แดงเทียม เป็นบำเหน็จสำหรับคุณ thank you 3 time
15 ธ.ค. 2561 เวลา 10.32 น.
ดูทั้งหมด