ทั่วไป

เปลี่ยน "ศัตรู" สู่ "มิตร"

สยามรัฐ
อัพเดต 12 ก.ค. 2563 เวลา 17.10 น. • เผยแพร่ 12 ก.ค. 2563 เวลา 17.10 น. • สยามรัฐออนไลน์

จังหวะการก้าวเดินของ "อดีตแกนนำคนเสื้อแดง" อย่าง "สุภรณ์ อัตถาวงศ์" ที่วันนี้นั่งอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่งเพราะนี่คือภาพสะท้อนหลักการใช้คนให้ถูกกับงาน สำหรับ รัฐบาลของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เคยประกาศเอาไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาล "ประยุทธ์1" แล้วว่า เขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ทุกภาค ทุกจังหวัด

แม้ในอดีต สุภรณ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" คือ "แกนนำนปช.สายฮาร์ดคอร์" แต่นั่นก็เป็นเรื่องของวันวาน แต่วันนี้ อดีตแกนนำนปช. กำลังดำเนินภารกิจที่หลายคนยังไม่กล้า "ออกหน้า" รับบัญชา นั่นคือการบุกเข้าไปพูดคุย ประสานและเชิญชวนให้ พี่น้องคนเสื้อแดง ยุติความขัดแย้ง เดินสาย รับมอบคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง จากนั้นมอบป้ายและธงหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนฯ "เรารักประเทศไทย" จากรัฐบาลให้ติดแทน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

การเดินสายลงพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ ของสุภรณ์ เพื่อขอรับคืนป้ายหมู่บ้านคนเสื้อแดง ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในบางครั้ง เขาเองต้องเผชิญกับ "แรงต้าน" จากพี่น้องคนเสื้อแดงด้วยกันเอง
เพราะอย่าลืมว่า การปลดป้ายหมู่บ้านคนเสื้อแดง แล้วขึ้นป้าย "เรารักประเทศไทย" ของรัฐบาล คือการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ ของการยอมรับรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ "ศัตรู" ของ "นายใหญ่" ของพี่น้องคนเสื้อแดง คือ "ทักษิณ ชินวัตร" อย่างชัดเจน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่สุภรณ์ , อานนท์ แสนน่าน อดีตประธานเครือข่ายหมู่บ้านคนเสื้อแดงแห่งประเทศไทย และ สมชัย แสงทอง และอดีตแกนนำภาคเหนือ 17 จังหวัดเป็นตัวแทนคืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงและรับมอบธงหมู่บ้านวิสาหกิจฯเรารักประเทศไทย กำลังทำพิธีที่ อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติกลุ่ม GPS ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งมีสมาชิกร่วมงานกว่า 1,000 คน ได้ถูกอดีตคนเสื้อแดงต่อว่า แถมยังร้องเพลง "กตัญญูทักษิณ" ประกาศว่าแม้จะ คืนป้าย ถอดเสื้อแดงได้ แต่อุดมการณ์อยู่ในใจ

การเคลื่อนไหวของสุภรณ์ ที่พลิกบทหันมาสนับสนุนรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ แม้จะต้องเจอกับแรงเสียดทาน แต่หากมองไปถึง "ผลลัพธ์" ที่ทั้งตัวสุภรณ์เอง และรัฐบาลที่จะได้รับ ก็ต้องนับว่า "คุ้มทุน"ไม่น้อย เพราะนี่คือการสร้างฐานเสียง สร้างการยอมรับให้กับตัวสุภรณ์ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย หลังจากที่เจ้าตัวเคยโดนข้อหา "หักหลังทักษิณ" แต่เมื่อการเลือกตั้งรอบหน้ามาถึง โอกาสที่สุภรณ์ จะได้รับไปลงสนามเลือกตั้งด้วยความมั่นใจย่อมมีสูง ขณะที่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เองยังเลือกที่จะ ดึง"ศัตรู" ให้กลายมาเป็น "มิตร"เพราะอย่าลืมว่า การเมืองภาคประชาชน โดยเฉพาะม็อบแทบทุกเสื้อสี ล้วนแล้วเคยสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาแล้วทั้งสิ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ยิ่งสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยวันนี้ ลำพังจะประคองตัวเองให้รอด ก็นับว่ายังยาก ดังนั้นโอกาสที่จะหันกลับไปดึง คนเสื้อแดงให้กลับมาเป็น"กองกำลัง"เหมือนเมื่อครั้งในอดีต ยิ่งยากมากขึ้น แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ การสลายคนเสื้อแดง ในวันนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้การกระชับพื้นที่ หรือกฎหมาย หากแต่การใช้นโยบาย และมาตรการการให้ความช่วยเหลือ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้ ให้เข้าถึงผู้คนต่างหาก คือ "อาวุธ" ชั้นดี !

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 51
  • เพิ่มเติมอีกนิด.ประเด็นของอาวุธที่เอามาก่อความรุนแรงกันนี่.มันมีทุกกลุ่มมีกองกำลังทุกฝ่าย.จะเป็นมือที่3456อะไรก็แล้วแต่เถอะ.อย่าโทษกันฝ่ายเดียวเราต้องยอมรับความจริงและต้องรู้จักคำว่าขอโทษและให้อภัย.ไม่งั้นประเทศชาติมันไปต่อไม่ได้.ถึงได้ก็ได้แบบบังคับเหมือนที่ทำอยู่นี้แหละ.มันไม่ได้ใจประชาชนเป็นส่วนใหญ่.แล้วมันจะไปได้ชักกี่น้ำหล่ะ.เสียของและเหนื่อยเปล่า.นี่ผมยังสงสัยเลยว่าเงินที่ทำป้ายเสื้อแดงมาส่งคืนแรมโบ้นี่เอามาจากไหน.ไร้สาระจริงๆ
    13 ก.ค. 2563 เวลา 04.49 น.
  • ชึ่งประเทศชาติประชาชนเรากำลังติดบ่วงนี้อยู่...ส่วนที่แรมโบ้กำลังทำอยู่นี้.จะด้วยคำสั่งใครก็ตาม.ไมได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยมีแต่จะเพิ่มความเกลียดชังเข้าไปอีก.และอาจถูกมองได้ว่าเป็นการเล่นเกมการเมือง.เบี่ยงเบนความสนใจออกจากประเด็นการตลุมบอลแย่งประโยชน์กันในพรรคพปชร(รวมถึงการปรับครมของนายกด้วย)เพราะลำพังเอ๋สปกดึงกระแสคนเดียวไม่ไหว.เลยให้แรมโบ้ช่วยอีกแรง.เพราะถ้าจริงใจในการสลายสีเสื้อจริงต้องสลายสีเสื้ออื่นด้วย.รวมถึงขอนกหวีดคืนจากลุงกำนัน.ปล.เกือบลืมบอกไปว่า.อย่าลืมขอปืนสไนเปอร์กับเอ็ม79คืนด้วยหล่ะ
    13 ก.ค. 2563 เวลา 04.28 น.
  • ส่วนมาตรการการเยียวยา.จะเป็นการเยียวยาการเสียชีวิตและทรัพย์สิน.คดีความต่างๆหรือเสียโอกาสการทำมาหากินจากเหตุแห่งความขัดแย้ง.ก็ต้องทำควบคู่ไปด้วย.จะเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมหรือขออภัยโทษอะไรก็แล้วแต่เถอะต้องทำด้วยความเป็นธรรม.ส่วนเรื่องของอดีตนายกทักษิณก็เลิกเป่าหูประชาชนให้เห็นเป็นปีศาจเพื่อฉวยโอกาสทางการเมืองชะ.คนที่กลับบ้านก็ยังไม่ได้จะไปมีฤทธิ์มีเดชอะไรขนาดนั้น.เพียงแต่ท่านเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนทางการเมืองคนหนึ่งที่มีคนรักมาก.การเกลียดตัวแทนประชาชนก็เหมือนการเกลียดประชาชนนั้นเอง...ตอนต่อไป...
    13 ก.ค. 2563 เวลา 04.06 น.
  • ข้อแนะนำในการสลายความขัดแย้ง.ข้อที่1.ต้องให้ผู้ใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นกลาง(เป็นองค์กรก็ได้)มาเป็นผู้ดำเนินการไม่ใช่คนอย่างแรมโบ้ที่คนมองว่าหมดราคาและไม่น่าเชื่อถือแล้ว.ข้อ2.ต้องเรียก(ตัวแทน)ทุกฝ่ายเช่น.ทหาร.ตำรวจ.นักการเมือง.ตัวแทนกลุ่มนักการเมืองทุกกลุ่ม.มาร่วมวงสนทนาหาทางออกและขอโทษชึ่งกันและกัน.จะทำเป็นรูปแบบแข่งกีฬาสามัคคีหรือผูกเสี่ยวกันก็ได้.หากทำได้อย่างนี้และมีความจริงใจไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง.เชื่อว่าคนไทยจะกลับมารักกันอีก.อย่าโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงข้างเดียว.หน้าต่อไป.
    13 ก.ค. 2563 เวลา 03.43 น.
  • โปรดฟังอีกครั้งและอ่านให้จบก่อนจะคอมเม้น.ข้อ1.คนเสื้อแดงไม่ใช่ศัตรูของชาติ.ไม่ใช่ศัตรูของรัฐบาล.ข้อ2.หมู่บ้านเสื้อแดงไม่มีในสารบบของกระทรวงมหาดไทย.ข้อ3.คนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพแห่งประชาธิปไตยโดนผ่านตัวแทน(สส)ที่ยึดเอาประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งโดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นทักษิณ.ข้อ4.อย่ามาทำมาพูดเสมือนหนึ่งว่าคนเสื้อแดงเป็นปัญหาของประเทศ.ข้อ5.สิ่งที่คนเสื้อแดงเรียกร้องคือสิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมที่เท่าเทียมภายใต้กรอบกฎหมายเดียวกัน..พลิกอ่านข้อแนะนำหน้า2.
    13 ก.ค. 2563 เวลา 03.20 น.
ดูทั้งหมด