เมื่อคำถามทั่วไปตอบง่าย แต่คำถามหัวใจดันตอบยาก ความรักก็เลยมักมีปัญหาเสมอ…
จะทำอย่างไรเมื่อการอยู่ก่อนแต่งเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็ตรงที่อยู่ด้วยกันมาก็นาน แต่แฟนไม่คุยถึงเรื่องการแต่งงานเลย จะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนไม่ให้เกียรติกัน
“ความรักของเราเป็นแบบที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่มีการจดทะเบียน ไม่มีการแต่งงาน ต่างคนต่างทำงาน หาเช้ากินค่ำ ครอบครัวเราพอมีพอกิน ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย
“เอาจริง ๆ เราคาดหวังแค่ผูกข้อไม้ข้อมือก็ยังดี แต่เขาไม่แคร์สายตาใคร ๆ ว่าคนอื่นจะคิดยังไงที่ไม่มีการสู่ขอ ไม่มีการผูกข้อมือใด ๆ แค่มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเฉย ๆ เราก็เลยบอกไปว่าอยากให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้รับรู้ แต่เขาบอกแค่ว่าไม่พร้อม ไม่มีเงินพอที่จะจัดงานอะไร
“ใจเราไม่ได้ต้องการยิ่งใหญ่ ขอแค่ให้มีญาติผู้ใหญ่ทั้งสองเป็นพยานก็แค่นั้น เราบอกแล้วว่าออกกันคนละครึ่งก็ได้ เขาก็จะบอกว่าไม่พร้อมอยู่ดี เขารักเราจริงหรือเปล่า ? เราแคร์พ่อกับแม่เรา เพราะพ่อกับแม่ก็มีลูกสาวแค่คนเดียว เราก็แค่อยากให้มันถูกต้อง”
สมัยนี้การอยู่ก่อนแต่งกลายเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับขึ้นเรื่อย ๆ การอยู่ก่อนแต่งก็คือการตกลงใจร่วมกันทั้งสองฝ่ายที่จะอาศัยอยู่และใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามี-ภรรยา โดยไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสหรือพิธีแต่งงาน เรียกว่าเป็นการทดลองใช้ชีวิตคู่ เพื่อเรียนรู้นิสัยใจคอกันก่อนที่จะตกปลงใจแต่งงานอย่างเป็นทางการ
ต้องยอมรับว่าการอยู่ก่อนแต่งแบบนี้ จริง ๆ ก็มีข้อดีไม่น้อย แม้จะขัดกับจารีตประเพณีหรือค่านิยมบางอย่างในสังคมไทย แต่ก็มีคู่รักจำนวนไม่น้อยที่เลือกอยู่ก่อนแต่งเพื่อทำความรู้จักกันในหลากหลายแง่มุมมากขึ้น ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต ความคิด รสนิยม ความสนใจ งานอดิเรก รวมไปถึงความสัมพันธ์ทางกายที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนใหญ่การอยู่ก่อนแต่งจะนำไปสู่ 2 ทางเลือก ทางแรกคือเข้ากันไม่ได้ รับกันไม่ได้ ก็แยกย้าย ต่างคนต่างไปแบบแฟร์ ๆ ซึ่งเป็นข้อดีของการอยู่ก่อนแต่งที่ทำให้ไม่ต้องแต่งงานไปแล้ว สุดท้ายก็เลิกกันอยู่ดี ส่วนอีกทางก็คือความสัมพันธ์ราบรื่น ทุกอย่างลงตัวและแต่งงานกันในที่สุด
แต่ใช่ว่าทุกคู่จะลงเอยด้วย 2 ทางนี้เท่านั้น เพราะปัญหาก็คือ มีบางคนที่คิดว่า “ก็อยู่ก่อนแต่งไปแล้ว จะลุกขึ้นมาแต่งกันอีกทำไม ในเมื่อผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย” ในขณะที่อีกคนรอว่าเมื่อไหร่จะลงเอยด้วยการแต่งงานเสียที
เอาจริง ๆ สิ่งที่ต้องทำก่อนการอยู่ก่อนแต่งก็คือ การเคลียร์ใจเรื่องเวลา ถ้าความสัมพันธ์มันราบรื่น ทุกอย่างมันลงตัว เราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ อย่าลืมว่าเป้าหมายของการอยู่ก่อนแต่ง ก็คือการแต่งงาน จะอยู่กันไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีกำหนดอะไรเลยก็ใช่ที่ แค่เป็นการกำหนดเวลาคร่าว ๆ แบบไม่เฉพาะเจาะจง เพื่อไม่ให้เครียดกันทั้งสองฝ่ายก็ได้
แต่ถ้ามันล่วงเลยมาแล้ว ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องระยะเวลากันมาก่อน และคุณคิดว่านี่คือเวลาที่เหมาะสม แต่เค้ายังบ่ายเบี่ยง ไม่ชัดเจน ไม่พร้อม ! ก็อาจถึงเวลาที่เราต้องจริงจังกับสิ่งที่เกิดขึ้นเสียที
ก่อนจะไปสู่การแต่งงาน ลองพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อน เพราะอาจเป็นเราฝ่ายเดียวก็ได้ที่คิดว่าทุกอย่างมันลงตัว ไร้ปัญหา ขณะที่อีกคนกลับไม่คิดแบบนั้น การทดลองอยู่ของเรายังตะกุกตะกักอยู่เลย แต่งกันไปจะได้อะไรขึ้นมา เพราะฉะนั้นลองพูดคุยถึงการใช้ชีวิตด้วยกันดูก่อนว่าอีกคนมีปฏิกริยาหรือคิดเห็นอย่างไร บางทีคำตอบของเค้าอาจทำให้เราอึ้งไปเลยก็ได้
ถ้าคำตอบคือทุกอย่างโอเค ไร้ปัญหา แต่ยังไม่พร้อมแต่ง ! ก็อย่าเพิ่งล้มตึง…ให้เค้าบอกเหตุผลที่แท้จริงมาว่าทำไมถึงไม่พร้อม อย่าลืมว่าทุกอย่างจะแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อเรารู้ปัญหาที่แท้จริงเท่านั้น “ไม่พร้อม !” “ไม่มีเงิน” หรือไม่อยากแต่งกันแน่
หน้าที่ของเราก็คือต้องทำชัดเจนว่าการแต่งงานยังจำเป็นสำหรับเรา อยู่ก่อนแต่งไม่ได้หมายความว่ายอมอยู่ด้วย แล้วไม่ต้องแต่งก็ได้ เพราะยังไงการแต่งงานก็คือการให้เกียรติครอบครัวของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะกับฝ่ายหญิงที่อยู่ก่อนแต่ง ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้น ก็เหมือนไม่ให้เกียรติครอบครัวของฝ่ายหญิงเลย ดังนั้นฝ่ายชายมีหน้าที่ต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้อง
สุดท้ายถ้าเราชัดเจนแล้ว แต่เค้าก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี บางทีนี่อาจจะเป็นคำตอบของเค้าแล้วก็ได้ เพราะคนไม่พร้อม ให้ตายไงก็ไม่พร้อม คนไม่อยากแต่งไปบังคับกันก็คงไม่ได้ ถ้ารักกันจริงก็ต้องอยากสร้างอนาคตร่วมกัน แค่เรื่องแต่งงานให้มันถูกต้อง ทำไมจะทำให้ไม่ได้ !
ยังไงก็แล้วแต่..การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน คนสองคนต้องพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน ถ้าแค่คนหนึ่งพร้อม แต่อีกคนไม่เคยพร้อม ! ยังไงมันก็ไปด้วยกันไม่รอด บางทีการอยู่ด้วยกันแล้วไม่ยอมแต่งสักที ก็อาจเป็นแค่การเตือนให้รู้ว่า..ระวัง ! ความสัมพันธ์กำลังสิ้นสุดลง
ถ้าผู้หญิงยังต้องการ "งานแต่ง" ก็อย่าง่าย อย่าไปอยู่กับเขาก่อนสิ
แต่ถ้าหัวสมัยใหม่ คิดว่าสมัยนี้ไม่มีใครแคร์แล้ว ก็ทำไป แล้วอย่ามาเรียกร้อง ผู้ชาย พอมันได้แล้ว ผู้หญิงก็ไม่มีค่าอะไรแล้วล่ะ จะแต่งทำไมให้เปลือง เก็บเงินไว้เลี้ยงลูกดีกว่า ผู้ชายเค้าก็คงคิดแบบนั้น
อยากได้เกียรติ ก็ต้องทำตัวให้มีเกียรติ
13 ก.ค. 2563 เวลา 00.07 น.
S.Susie 789 ส่วนใหญ่แล้วอยู่ก่อนแต่ง หญิงมักเป็นของตายในสายตาชาย ในสังคมเรายังเหลื่อมล้ำมาก ความคิดแบบชาติที่เจริญแล้วมาใช้ไม่ได้ ในเมื่อสังคมไทยยังยอมรับเรื่องหน้าตา
13 ก.ค. 2563 เวลา 04.04 น.
GRACE เราคบกับแฟนมา 4 ปี ถามเรื่องแต่งงานก็บ่ายเบี่ยง อ้างนั่นนี่แถมยังชวนเราว่าถ้าจะอยู่ด้วยกันก็ไปอยู่ด้วยกันเลยไม่ต้องแต่งหรอก แต่เรามองว่าแบบนั้นมันไม่ดี และเราไม่ใช่พวกมีรสนิยมอยู่ก่อนแต่ง เราคิดว่าถ้าเขารักจริงก็ต้องมาทำให้ถูกต้อง ให้เกียรติเราและพ่อแม่เรา งง ไม่รู้ต้องการอะไรกันแน่
13 ก.ค. 2563 เวลา 00.07 น.
สู้...ต่อไป ปี้กันเข้าไป แล้วมาบอก ทัศนะเข้ากันไม่ได้ ถุย .
12 ก.ค. 2563 เวลา 23.56 น.
ฐิติมา เดี๋ยวนี้หญิงชายแฟร์กันแล้ว อยากแต่งก็ต้องเก็บของไว้จะได้มีราคา
12 ก.ค. 2563 เวลา 23.39 น.
ดูทั้งหมด