ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

อย่าลืมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ลูกน้อย ก่อนจะเจอค่าใช้จ่ายก้อนโตโดยไม่รู้ตัว

aomMONEY
อัพเดต 27 พ.ค. 2562 เวลา 05.51 น. • เผยแพร่ 27 พ.ค. 2562 เวลา 05.51 น. • Kevin's Daddy คุณพ่อนักวางแผนการเงิน
อย่าลืมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ลูกน้อย ก่อนจะเจอค่าใช้จ่ายก้อนโตโดยไม่รู้ตัว

ช่วงนี้หลายๆโรงเรียนส่วนใหญ่ก็เริ่มๆทยอยเปิดเทอมกันแล้ว ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกับการที่โรคยอดฮิตของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือเท้าปาก รวมไปถึงโรคติดเชื้อไวรัส RSV ก็กำลังระบาดเลย เพราะกำลังจะเป็นช่วงที่เข้าใกล้ฤดูฝน อากาศช่วงนี้ก็มักจะมีทั้งเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวมีพายุเข้า เป็นต้น 

นี่เองที่เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยของลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายที่ยังอยู่ในวัยเด็ก โดยเฉพาะช่วงระดับชั้นที่จะป่วยกันเยอะมากๆ ก็จะไล่ตั้งแต่ อนุบาล ไปจนถึง ประถมศึกษา แต่พอโตๆ ไปก็จะป่วยน้อยหน่อยเพราะเริ่มมีภูมิแล้ว 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ดังนั้น ช่วงที่ควรระวังก็จะเป็นช่วงเด็กเล็กๆ เลย โดยเฉพาะอนุบาลครับ ซึ่งตอนนี้ลูกผม น้อง Kevin ก็กำลังอยู่ในวัยนี้เลยสิครับ อายุตอนนี้ก็ 3ขวบครึ่ง กำลังเรียนชั้น Nursery บอกเลยว่า ลุ้นแทบทุกวันว่าวันนี้กลับมาจะป่วยมั้ย จะมีไอ หรือมีน้ำมูกมั้ย 

แล้วยิ่งถ้าเห็นข้อความใน Line กลุ่มของผู้ปกครองในห้องของลูกเรา บอกว่า วันนี้ไม่ได้ไปเรียนนะ เพราะ มีไข้สูง หรือ เป็นโรคโน้นโรคนี้ ก็ยิ่งกังวลเลยสิครับ เพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราไม่มีทางควบคุมอะไรได้มากเลย ก็ลดความเสี่ยงได้บ้าง ด้วยการหลอกล่อให้น้อง Kevin ในหน้ากากอนามัย เผื่อไว้ แต่เราก็ไม่รู้หรอกว่า เค้าจะทนใส่ได้นานแค่ไหน จริงมั้ยครับ

ซึ่งตอนนี้ทั้งผมและครอบครัว ก็ได้เริ่มวางแผนจะลดความเสี่ยงเรื่องโรคได้บ้าง โดยจะไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่กันทั้งบ้านเลยครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้หลายๆที่ก็มีบอกเลยว่า เป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์เลยครับ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลมาก็เป็นการเสริมป้องกันไวรัสสายพันธุ์ A (H1N1 กับ H3N2) และ ไวรัสสายพันธุ์ B (YAMAGATA กับ VICTORIA ) เลยครับ โดยสามารถฉีดให้กับเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปเลย ซึ่งหลังฉีดประมาณ 1-2 สัปดาห์ ร่างกายของเราก็จะสร้างภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่มามากขึ้น ซึ่งจะปกติภูมินี้ก็จะอยู่กับร่างกายเราประมาณ 1 ปี ดังนั้นจึงควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่กันเป็นประจำทุกปี 

โดยจากการสำรวจข้อมูลจากโรงพยาบาลต่างๆ ก็บอกเลยว่ามีราคาตั้งแต่ 500 จนถึง 1,000 บาทต้นๆ ซึ่งก็แล้วแต่ละโรงพยาบาลว่า ราคานั้นรวมค่าแพทย์และค่าอื่นๆ อีกหรือยัง ซึ่งผมก็คิดว่า เอาโรงพยาบาลที่เราไปสะดวกดีที่สุด 

เพราะเอาที่ราคาถูกกว่าไม่กี่ร้อยแต่ต้องเสียเวลาเดินทางไปไกลๆ ก็ดูไม่น่าจะคุ้มจริงมั้ยครับ ซึ่งถ้าให้ดีที่สุด ก็ควรจะฉีดวัคซีนทั้งบ้านไปเลย เพราะจะได้มีภูมิต้านทานกันทุกคน เพราะ เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนในบ้านของเรา มีใครไปรับเชื้อไข้หวัดใหญ่กันมาบ้างหรือเปล่า 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

การป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด อย่ามัวรีรอ เพราะต้นปีก็มีข่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนักจนมีผู้เสียชีวิตมาแล้ว และถ้าเกิดไม่มีภูมิหรือ ร่างกายไม่แข็งแรง ส่วนใหญ่คนที่เป็นไข้หวัดใหญ่ ก็ต้องนอนแอดมิดในโรงพยาบาลแทบทุกราย แล้วกว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็ 3-4 วัน บางรายเป็นหนักถึงขั้นต้องเข้าห้อง ICU ก็มีมาแล้ว โดยเฉพาะถ้าเกิดกับเด็กเล็กๆ ก็มักจะรุนแรงมากๆ จนบางรายต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นแสนๆ ก็พบได้บ่อยมากๆครับ

ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท จึงขอให้ทุกครอบครัวอย่าลืมใส่ใจกับการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่กัน เพียงแค่ยอมเสียเวลา เสียเงินเพียงเล็กน้อย ไปฉีดวัคซีนกันไว้ก่อน แม้ว่าอาจจะช่วยป้องกันได้ 70-80% แต่ก็อาจจะเป็นการช่วยปกป้องเงินในกระเป๋าของเราทางอ้อม มิให้มีโอกาสเสียเงินเป็นหลักหมื่นหรือหลักแสน ที่อาจจะเกิดกับครอบครัวของเราก็เป็นได้ครับ

สุดท้ายนี้ก็ขออวยพรให้ทุกๆครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยกันนะครับ 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • 5
    05 มิ.ย. 2562 เวลา 02.03 น.
ดูทั้งหมด