ดำน้ำ 'แสมสาร' ควักกระเป๋าไม่เกิน 500 งบน้อยก็เที่ยวได้

สำหรับวันนี้ TNN พาไปเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพ เดินทางเพียง 3 ชม.ก็ถึงแล้ว นั่นก็คือ “เกาะแสมสาร” น้ำใส ไหลเย็น เห็นนีโม่ สบายเงินในกระเป๋าสุดๆ ด้วย งบไม่เกินคนละ 500 บาท แต่ราคานี้ไม่รวมค่าเดินทางไปขึ้นเรือ

การเดินทางไปเกาะแสมสารก็ง่ายแสนง่าย สำหรับรถยนต์ส่วนตัว เพียงตั้ง GPS ให้จุดหมายเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย” เมื่อมาถึงให้เลี้ยวเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ฯ เลย ย้ำว่าต้องเข้าเขตทหารก่อนถึงจะเจอท่าเรือ จากนั้น ให้จอดรถริมถนนสองฝั่ง ใครมาเร็วได้จอดใกล้ ใครมาสายจอดไกลและเดินไกลกว่า และที่นี่ไม่เสียค่าจอดรถ

จากนั้น ให้รีบไปรับบัตรคิวเพื่อซื้อตั๋วก่อนเลย เพราะเริ่มเปิดรับบัตรคิวซื้อตั๋วเรือข้ามเกาะแสมสาร เวลา 6.00 น. โดย 1 บัตรคิว ต่อ 1 คน ซื้อได้ 1 ใบ แต่หากมาเป็นกรุ๊ปก็รับบัตรคิวตามจำนวนคน และเดินเข้าไปซื้อคนเดียวได้ ที่สำคัญซื้อบัตรวันต่อวัน ไม่มีจองคิวล่วงหน้านะจ๊ะ ที่นี่เริ่ม “ขายตั๋ว” 8.00 น. เรียกตามบัตรคิวเลย

สำหรับตั๋วเรือจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.ตั๋วเรือเที่ยวไป 2.ตั๋วเรือเที่ยวกลับ และ 3.บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ

ค่าใช้จ่ายในการนั่งเรือข้ามเกาะ 

“คนไทย” ผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท (อายุ 18 ปีขึ้นไป)

เด็ก คนละ 220 บาท (อายุ 3 ปีไม่เกิน 18 ปี)

“ต่างชาติ” คนละ 600 บาท (อายุ 3 ปีขึ้นไป) ต้องมีคนไทยไปด้วย

*ค่าเรือไป-กลับ ไม่รวมกิจกรรมต่างๆ

*บัตรเรือสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ไม่เสียค่าธรรมเนียม

ส่วนรอบเรือข้ามเกาะแสมสาร มีดังนี้

เที่ยวไป : 9.00 / 10.00 / 11.00 / 12.00 / 13.00

เที่ยวกลับ : 13.30 / 15.00 / 16.00 และเที่ยวพิเศษเฉพาะเสาร์อาทิตย์ 16.30 

โดยขากลับนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวเรือกลับได้ด้วยตัวเอง 

ทั้งนี้ ระหว่างรอคิวซื้อตั๋วสามารถไปเดินช้อปปิ้งที่ร้านค้าสวัสดิการได้ ภายในร้านมีของขายหลายอย่าง เช่น ของที่ระลึกหน่วยซีล , เสื้อ กางเกงทหาร , รองเท้าแตะ , กระเป๋ากันน้ำ , ของกินต่างๆ ขนม ไอศกรีม น้ำ เป็นต้น 

หรือใครอยากจะไปเดินชมวิวธรรมชาติป่าชายเลนก็สวยดี และยังมีให้สักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินอีกด้วย มาถึงแล้วก็ลองไปกราบไหว้สักหน่อย เพื่อความเป็นสิริมงคล

นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารคอยให้บริการด้วย สามารถซื้อข้ามฝั่งไปกินบนเกาะได้ แต่หากไม่อยากแบกหนักก็ไปซื้อบนเกาะได้เช่นกัน เพราะมีอาหารขาย ซึ่งราคาไม่แตกต่างกับบนฝั่ง ไม่ต้องกลัวว่าจะแพงเลย นอกจากนี้ บนเรือยังมีของขายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวหมู ห่อละ 20 บาท มะม่วงเปรี้ยว กินเวลาดื่มน้ำทะเลเข้าไปเยอะๆ รสชาติมันตัดกันดีจริงๆ หรือจะเป็นไอศกรีม และอื่นๆ แล้วแต่ว่าพี่ๆ เขาจะหิ้วขึ้นมาขายบนเรือ

เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือนักท่องเที่ยวต้องเข้าแถวต่อคิวให้เป็นระเบียบ โดยจะมีพี่ๆ ทหารคอยเดินฉีกตั๋ว และคอยพยุงลงเรือเพื่อความปลอดภัย โดยเราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีก็ถึงเกาะแสมสารแล้ว

เมื่อเดินทางถึงเกาะแสมสาร เจ้าหน้าที่จะขอให้นักท่องเที่ยวไปรวมตัวกันที่ศาลา เพื่อเตรียมฟังการบรรยายเกี่ยวกับเกาะแสมสาร กิจกรรม ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้ง คำแนะนำในการเที่ยว เนื่องจากเกาะแสมสาร เป็น 1 ใน 9 เกาะ ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพฯ จึงเปิดให้เกาะนี้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตาม แนวทางของสมเด็จพระเทพฯ ที่ว่าอยากให้เยาวชนได้ศึกษาธรรมชาติ โดยใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการปลูกจิตสำนึกใน การอนุรักษ์ ธรรมชาติให้กับเยาวชน เพื่อให้มีใจในการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างแท้จริง ทำให้มีกลุ่มเยาวชนมักจะมาทัศนศึกษาธรรมชาติบนเกาะหลายกลุ่ม

ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ 2 หาด จากทั้งหมด 5  หาด คือ หาดเทียน เป็นหาดแนวยาว อยู่ติดกับท่าเรือ 

และหาดลูกลม อยู่ห่างจากหาดเทียนประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยมีรถให้บริการฟรีตลอดทั้งวัน สำหรับหาดลูกลม มีลักษณะเป็นหาดสวยกว้าง นักท่องเที่ยวสามารถเล่นกิจกรรมต่าง ๆ อย่างวอลเลย์บอลชายหาดได้สบาย ๆ และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเตียงผ้าใบ-เสื่อ ในราคา 20 บาท โดยที่หาดนี้จะมีร้านอาหารเล็กๆ ให้บริการน้ำ ส้มตำ ขนม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

สำหรับกิจกรรมต่างๆ บนหาดลูกลม มีดังนี้

ดำน้ำชมปะการัง

ค่าบริการ 50 บาท รวมค่าหน้ากากดำน้ำและเสื้อชูชีพแล้ว ต่อแถวจ่ายเงิน และต้องแลกบัตรประชาชนไว้ด้วย โดยนักท่องเที่ยวจะต้องให้ชื่อและจำนวนคนที่จะดำน้ำแก่เจ้าหน้าที่ เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะขานชื่อพร้อมกับจำนวนคน จากนั้นให้ไปรับหน้ากากดำน้ำ เสื้อชูชีพ และเดินไปรอที่ชายหาด จะมีเจ้าหน้าที่อธิบายวิธีการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะไปดำน้ำจริง ๆ 

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือยางออกไปประมาณ 600 เมตร โดยจะมีเวลาให้ดำน้ำรอบละประมาณ 1 ชั่วโมง และให้ดำเฉพาะบริเวณที่วางทุ่นล้อมรอบเท่านั้น ห้ามดำเลยจากทุ่นที่วางไว้ออกไป เพราะจะเป็นช่วงน้ำตื้น เสี่ยงต่อการที่ขาของนักท่องเที่ยวจะไปเหยียบปะการัง และเหยียบเม่นทะเลได้

นั่งเรือท้องกระจก ชมปลาใต้ท้องทะเล 

ค่าบริการ 20 บาท รอบละ 20 คน ใช้เวลาชมประมาณ 15-20 นาที สำหรับคนไม่อยากเปียกก็สามารถร่วมกิจกรรมนี้ได้

พายเรือคายัก

ค่าบริการชั่วโมงละ 100 บาท ครึ่งชั่วโมง 50 บาท นั่งได้ 2 คน พายวนอยู่บริเวณหน้าหาดลูกลม มีเสื้อชูชีพให้ใส่เพื่อความปลอดภัยด้วย

ภายหลังทำกิจกรรมเสร็จเรียบร้อย จะมีห้องน้ำและสุขาคอยให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะแค่ล้างน้ำทะเลเพื่อรอไปอาบน้ำบนฝั่ง เนื่องจากน้ำบนเกาะแสมสารมีปริมาณจำกัด จึงต้องใช้กันอย่างประหยัดนั่นเอง

ก่อนจะกลับก็อย่าลืมแวะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย โดยตั้งอยู่บนเขาหมาจอ  ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ที่เปิดให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้าชมทุกวัน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ ก่อนนั่งเรือข้ามเกาะแสมสาร หรือเข้าชมขากลับจากเกาะก็ได้ เพียงยื่นตั๋วเรือให้แก่เจ้าหน้าที่เท่านั้น

* ข้อควรรู้เกี่ยวกับเกาะแสมสาร

- เกาะแสมสารเปิดให้บริการทุกวัน ไม่มีกำหนดปิดเกาะ

- งดพักค้างคืนบนเกาะ

- ใช้น้ำบนเกาะอย่างประหยัด

- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดข้ามไป

- ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกฮอล์ข้ามไป

- ไม่มีการจองคิวซื้อตั๋วเรือออนไลน์ ต้องซื้อวันต่อวันเท่านั้น

เบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายในทริปนี้ (ไม่รวมค่าน้ำมันรถยนต์) 

- ค่าเรือ 300 บาท

- ค่าเช่าเสื่อ 20 บาท

- ค่าดำน้ำ 50 บาท

- ค่านั่งเรือท้องกระจก 20 บาท

- ค่าอาหาร-น้ำ 50 บาท

รวมทั้งสิ้น 440 บาท เท่านั้นเอง

สำหรับสิ่งที่ประทับใจบนเกาะแสมสาร ก็คือ “ความใส่ใจ” ของพี่ๆ ทหาร เริ่มตั้งแต่ซื้อตั๋วจนข้ามฝั่งกลับมา เจ้าหน้าที่จะคอยแนะนำ สอนวิธีการดำน้ำตื้นอย่างถูกต้อง อธิบายให้ความรู้ต่างๆ ถือว่า “คุ้ม” กับค่าบัตรมากๆ เลย

ถ้าชอบก็มุ่งหน้าไปกันเลย งานนี้ไม่มีจองตั๋วออนไลน์ใดๆ ทั้งสิ้น ต้องใช้ความพยายามตื่นเช้าไปจองคิว เพราะคนเยอะมากเลยนะจ๊ะ ^^