โรคตุ่มน้ำพอง หรือ เพมฟิกัส (pemphigus) และเพมฟิกอยด์ (Bullous pemphigoid) เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดการแยกตัวของผิวหนัง จึงทำให้มีตุ่มน้ำพองขึ้นที่ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ โรคนี้พบไม่บ่อยอาจเกิดขึ้นใน 1 ใน 4 แสนคน ทั้งนี้โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อสามารถรักษาให้หายได้ แต่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุ
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
- เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
- พันธุกรรม
- ปัจจัยพื้นฐานสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้น เช่น เชื้อโรค สารเคมี
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคมักมีอายุประมาณ 50-60 ปี แต่สามารถพบโรคนี้ได้ทุกวัย ทั้งหญิงและชาย
อาการ
- มีตุ่มน้ำพองหรือแผลถลอกที่ร่างกายและเยื่อบุต่างๆ
- ตุ่มน้ำแตกจะทำให้ปวดแสบมาก และอาจเกิดแผลหรือรอยถลอก
- มีอาการแผลในปาก เป็นแผลถลอกที่เหงือก เพดานปาก หรือกระพุ้งแก้ม
- เมื่อเกิดตุ่มน้ำพองหรือแผลในปากจะทำให้กลืนอาหารไม่สะดวก
- ผิวหนังที่เป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นหนองได้
- ถ้าเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดอาจทำให้มีไข้
การดูแลตนเองเบื้องต้น
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
- หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ไม่ควรรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
- ถ้ามีแผลในปากควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด เพราะจะทำให้แสบหรือเจ็บแผลมากขึ้น
- ไม่แกะเกาผื่น
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่หนักจนเกินไป
- ไม่ควรใส่เสื้อผ้ารัดเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบมากขึ้น
- ถ้ามีตุ่มน้ำแตกเป็นแผลในปาก ให้อมน้ำเกลือกลั้วปากบ่อย ๆ แต่ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากยาฆ่าเชื้อ
- ควรทำความสะอาดร่างกายและบริเวณแผล ด้วยการใช้น้ำเกลือเช็ดเบาๆ
- ควรไปพบแพทย์สม่ำเสมอ ห้ามหยุดยาเอง
SOUND OF SILENCE โฆษณาขายของใน line นี้ หลอกลวงทั้งหมด อย่าหลงสั่งซื้อ เด็ดขาด
17 มิ.ย. 2562 เวลา 00.09 น.
eej เคยเป็นนะคะ ที่มือขึ้นทั้งมือเลย ไปหาหมอ ก็กินยาคู่กับการดูแลตัวเอง ตอนนั้นเริ่มจากใช้พวกผ้าเปียกมากไป แล้วไปแพ้น้ำยาล้างจานอีก พอได้ยาทา ยากินแล้ว ใช้ยาหลายวันไม่หาย เลยลองวิธีบ้านๆ เอาครีมเด็กทาให้ผิวชุ่มชื่น ผื่นใสลดเลย ไม่คันด้วยค่ะ ระหว่างนั้นก็งดให้ผิวที่อักเสบเจอสารเคมี
16 มิ.ย. 2562 เวลา 17.36 น.
รู้ว่าหายากก้อหาไปคนเดียวเถอะ
16 มิ.ย. 2562 เวลา 09.25 น.
Arm ภูมิคุ้มกันไม่ดี มันก็มีโรคเดียวแหละ
16 มิ.ย. 2562 เวลา 14.44 น.
ดูทั้งหมด