ทั่วไป

ปิยบุตร ชวนจับตาคำวินิจฉัยจากศาลฯ ปม 32 ส.ส. ถือหุ้นสื่อ เป็นมาตรฐานเดียวกับธนาธรหรือไม่

THE STANDARD
อัพเดต 27 มิ.ย. 2562 เวลา 03.50 น. • เผยแพร่ 27 มิ.ย. 2562 เวลา 03.50 น. • thestandard.co
ปิยบุตร ชวนจับตาคำวินิจฉัยจากศาลฯ ปม 32 ส.ส. ถือหุ้นสื่อ เป็นมาตรฐานเดียวกับธนาธรหรือไม่

เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมาแถลงข่าวภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของ ส.ส. จำนวน 32 ราย กรณีถือหุ้นสื่อไว้พิจารณา แต่ไม่ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพราะต้องดำเนินการไต่สวนหาข้อเท็จจริงต่อไป และไม่รับคำร้อง 9 ราย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง 32 รายนั้น มีลักษณะเดียวกันกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2 รายที่ถูก กกต. ตัดสิทธิไปก่อนหน้านี้ คืออดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร และอดีตผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย จ.ลพบุรี 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยส่วนตัวมองว่า ศาลรัฐธรรมนูญใช้เกณฑ์พิจารณาวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ คือการประกอบกิจการการค้ากระดาษ, เครื่องเขียน, แบบเรียน, แบบพิมพ์, หนังสือ และอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์หรือกิจการสื่อมวลชนใดๆ 

 

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ใช้เกณฑ์ในการพิจารณาที่แตกต่างไปจากแนวทางของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ที่พิจารณาแต่เพียงหนังสือบริคณห์สนธิ ที่ระบุว่า หากทำกิจการสื่อจะถือว่ามีการถือหุ้นสื่อ และตัดสิทธิเลือกตั้งทันที ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า การพิจารณาไม่ได้ดูแต่วัตถุประสงค์หรือหนังสือบริคณห์สนธิเท่านั้น แต่จะพิจารณาว่าได้ประกอบกิจการจริงหรือไม่ ซึ่งต้องติดตามต่อว่าศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดี โดยจะใช้แนวทางเดียวกับศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งหรือไม่ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ทั้งนี้ ตนเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาจากแบบรายชื่อผู้ถือหุ้นสำหรับบริษัทจำกัด (บอจ.) อย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องพิจารณาประกอบกับแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ (สสช.1) หรือต้องดูจากงบการเงินของบริษัทด้วยว่า มีรายได้จากการประกอบกิจการใด

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปิยบุตร กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญบังคับใช้กฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย ทางพรรคอนาคตใหม่ขอให้ประชาชนติดตามกรอบระยะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้พิจารณาที่ต้องมีบรรทัดฐานเช่นเดียวกับกรณีของธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ 

 

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุต่อไปว่า ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ยังต้องรอการพิจารณาจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะสามารถเบิกพยานบุคคลได้หรือไม่ โดยพรรคอนาคตใหม่ทีมกฎหมายมีความพร้อมสู้คดีอย่างเต็มที่ ตามกรอบเวลาที่ศาลกำหนดได้อย่างแน่นอน

 

ภาพ: สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 148
  • S W
    ปรกติเห็นแต่คนไล่ รบ แต่ตอนนี้ใครอยากไล่ฝ่ายค้านบ้าง
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 07.38 น.
  • อย่าดูหมิ่นศาล เขาว่าไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง อย่าเอาข้อมูลที่ไม่จริงไปหลอกประชาชน เขาไม่ได้โง่ อย่าดูถูกประชาชน
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 07.00 น.
  • Wichit.Siri
    ศาลมีมาตรฐานเดียว แต่มึงไม่มีมาตรฐานของความเป็นคน เปรียบมึงได้กับเดรัจฉาน กูไม่เห็นมึงพูดอะไรจริงสักเรื่อง อ้ายเหี้ยเอ้ย👣👣👣👣👣👣
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 06.44 น.
  • Amorn
    เสียดายที่เรียนมาสูงแต่จิตใจตำ่
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 06.32 น.
  • seal
    ต้องการล้มสถาบันไม่ให้กษัตรพูดต่อหน้าประชาชน กลัว ประชาชน จะ รัก และ เทิดทูน พระองค์ ยกคนเลวในการปฏิวัตฝรั่งเสศที่ฆ่ากษัตรเปนต้นแบบ ล้างสมองเด้กรุ่นใหม่ทีไร้เดียงสาทางการเมือง เพราะ หลอก ง่าย มาก จำนวน เยอะ ด้วย. เหมือนการหลอกรากหญ้าเพื่อไปโกงทั้งโคตรหรือโคตรโกงนั่นเอง
    27 มิ.ย. 2562 เวลา 06.16 น.
ดูทั้งหมด