ภาพในหัวของทุกคนเกี่ยวกับแบคทีเรียน่าจะเป็นอะไรที่สกปรก ดำ ๆ ยุกยิกไปมา ดูแล้วน่าขยะแขยง แต่จริง ๆ แล้วไม่มีใครเห็นภาพแบคทีเรียหรือบัคเตรีด้วยตาเปล่าได้ เนื่องจากแบคทีเรียเป็นสัตว์เซลล์เดียวที่มีขนาดเล็กมาก ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์จึงจะมองเห็นรูปร่างที่กลมบ้าง เป็นแท่งบ้าง หรือเกลียวบ้าง แล้วแต่ชนิดของแบคทีเรีย
ตามปกติสีธรรมชาติของแบคทีเรียจะมีแค่สีเขียว เหลือง ส้ม หรือน้ำตาล แต่เมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่างกัน ได้รับอาหารที่ต่างกัน ก็ทำให้การเติบโตโดยมีรูปแบบเฉพาะตัว และเกิดเป็นสีสันใหม่ ๆ ที่แตกต่างกันด้วย และหากไปรวมตัวกับเชื้อโรคอื่น ๆ เช่น เชื้อรา ก็จะมีสีและรูปแบบที่แตกต่างกันไป ตรงนี้เองที่เป็นหลักพื้นฐานให้บรรดานักชีววิทยาเพาะเชื้อแบคทีเรียให้กลายเป็นผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม
ศิลปะในจานเพาะเชื้อแบบนี้ เรียกว่า Microbial Art เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว โดยเซอร์ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง แพทย์และนักชีววิทยาชาวสก็อตแลนด์ ผู้คิดค้นยาเพนนิซิลินขึ้นเป็นคนแรกจากความผิดพลาดของกระบวนการทดลองทำให้มีเชื้อราสีเทาเขียวอยู่บนจานเพาะเชื้อ กลายเป็นว่าเชื้อราชนิดนี้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียของโรคอื่นได้ จึงสกัดเป็นยาชื่อว่า “เพนนิซิลิน” ซึ่งปัจจุบันสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้มากกว่า 80 โรค เช่น ปอดอักเสบ บาดทะยัก ฯลฯ
นอกจากความผิดพลาดของกระบวนการทดลองครั้งนั้นจะทำให้เกิดยารักษาโรคอย่างเพนนิซิลินแล้ว ยังสร้างภาพจิตรกรรมบนจานเพาะเชื้อให้คนทั่วไปได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ของแบคทีเรียในแบบที่นึกไม่ถึงมาก่อนอีกด้วย จริง ๆ แล้วภาพในหัวกับของจริงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาดูความสวยงามของแบคทีเรียเหล่านี้กันดีกว่า บางอันก็สวยชนิดที่ว่าไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือ “แบคทีเรีย”
Y0S + นี่คือสองสิ่งที่เหมื่อนกัน...จากสื่งมีชีวิตขนาดเล็กหรือจักรวาลใช้หลักการขยายตัวแบบเดียวกัน
08 พ.ย. 2560 เวลา 15.54 น.
สวยดีนะ แต่!! เรา คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ : )
08 พ.ย. 2560 เวลา 22.46 น.
ATEENOYz™ 🐰 สุดยอด
08 พ.ย. 2560 เวลา 17.59 น.
อึ๋ย 😲
08 พ.ย. 2560 เวลา 17.57 น.
pakonsit สวยอันตราย
08 พ.ย. 2560 เวลา 23.41 น.
ดูทั้งหมด