สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ขึ้นบัญชีหัวเว่ย เป็นบริษัทที่ห้ามไม่ให้บริษัทอเมริกันทำการค้าด้วยและไม่ให้มีการโอนถ่ายเทคโนโลยีหากไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้กูเกิ้ลประกาศยกเลิกการให้บริการบางส่วนต่อระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่ใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆของบริษัท หัวเว่ย และอินเทล ควอลคอมม์และบอรด์คอม ผู้นำด้านซอฟท์แวร์ระดับโลกสัญชาติอเมริกัน ได้ประกาศยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดที่ทำไว้กับหัวเว่ยด้วย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคจะทิ้งหัวเว่ยไปใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ถ้าจะต้องใช้แอนดรอยด์บนหัวเว่ยแบบไม่เต็มรูปแบบ หัวเว่ยปัจจุบันเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลก แต่อาจจะถูกแอ๊ปเปิ้ลแซงหน้า ตกลงไปเป็นอันดับสาม จริงๆแล้วกูเกิ้ลอาจขอยกเว้นจากรัฐบาลสหรัฐฯได้ แต่ยังไม่มีการให้ความเห็นว่ากูเกิ้ลมีแผนที่จะขอหรือไม่
แม้ว่าหัวเว่ยจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากระหว่างผู้บริโภคในสหรัฐฯ แต่มาตรการนี้ก็ส่งผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนาต่อสหรัฐฯอยู่ดี เนื่องจากหัวเว่ยซื้อเทคโนโลยีจากบริษัทสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากผู้ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์สำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครือข่ายอินเตอร์เน็ต และเครื่องมืออื่นๆ
ซึ่งบริษัทที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือบริษัทที่มีหัวเว่ยเป็นลูกค้ารายใหญ่อย่าง Micro Technologies, Qualcomm, Qorvo และ Skyworks Solutions
การคว่ำบาตรหัวเว่ยอาจมีผลตีกลับมาที่สหรัฐฯ เมื่อหัวเว่ยเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังมีโครงการเพิ่มการผลิตส่วนประกอบเองภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่จะเป็นอิสระทางเทคโนโลยีให้ได้ภายในปี 2025
ในขณะที่ มีตำแหน่งงานถึง 52,000 ตำแหน่งในบริษัทเทคของสหรัฐฯที่เชื่อมโยงโดยตรงกับสินค้าจีน ในระหว่างที่ยอดขายกำลังตกลง อาจเกิดการเลิกจ้างพนักงาน กูเกิ้ลเองก็อาจได้รับผลกระทบจากรายได้ เพราะสูญเสียโอกาสในการเผยแพร่โฆษณาบนอุปกรณ์มือถือของหัวเว่ย
ในทางทฤษฎีแล้ว การเสียเปรียบของหัวเว่ยน่าจะกลายเป็นผลดีต่อทั้งซัมซุงและแอ๊ปเปิ้ล แต่สถานการณ์ครั้งนี้ แอ๊ปเปิ้ลมีความเสี่ยงที่จะเสียมากกว่าได้ ถ้าจีนตัดสินใจตอบโต้ด้วยการเจาะจงมาที่แอ๊ปเปิ้ล ไอโฟนส่วนใหญ่ประกอบในประเทศจีน
ดังนั้นรัฐบาลจีนก็มีทางเลือกที่จะกีดกันการส่งสินค้าไปยังโรงงานประกอบ หรืออาจมีมาตรการที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานแอ๊ปเปิ้ลต้องชะงัก หรือถ้าจีนเลือกที่จะตอบโต้ด้วยการชึ้นภาษี ก็จะกระทบไอโฟนเช่นกัน และแอ๊ปเปิ้ลก็ต้องเลือกระหว่างขึ้นราคาสมาร์ทโฟนหรือได้กำไรน้อยลง
ไม่ใช่แค่เรื่องนโยบายและการตอบโต้ การที่สหรัฐฯคว่ำบาตรหัวเว่ย อาจทำให้กระแสชาตินิยมของจีนรุนแรงขึ้นจนทำให้เกิดผลกระทบกับสินค้าเทคโนโลยีจากสหรัฐฯทั้งหมดก็เป็นได้
หน่อง เดี๋ยวก็กำลังจะเดือดร้อนประชาชนของประเทศละ เพราะตกงาน กันเป็นแถว
21 พ.ค. 2562 เวลา 23.07 น.
PS คว่ำอะไม่กลัว กลัวอเมริกาจะหงายเงิบบบบบบบบ
21 พ.ค. 2562 เวลา 17.03 น.
yui จะคอยดูว่า ระหว่างเจ๊กกับฝรั่ง ใครมันจะเจ๋งกว่ากัน
21 พ.ค. 2562 เวลา 17.03 น.
sujira ทรัมพ์คิดซ่าๆแต่ละครั้งคนไอ้กันผวาเสมอ
21 พ.ค. 2562 เวลา 16.58 น.
BenzCMK HW ซื้อชิพเซ็ทก็แค่ของnotebook เพราะของมือถือ HW ใช้ชิพของตัวเองอยู่แล้ว ต้องถามว่าเมกาทำแบบนี้จะเอาแร่ไหนไปผลิต Cpu มากกว่า ถ้าจีนยกเลิกไม่ขายให้ เพราะจีนส่งออกแร่ใช้ผลิตชิพเซ็ท 90% ของโลก แล้วเมกาซื้อจากจีน 80% หลาย บ.ไอทีของเมกาซวยแน่ถ้าจีนไม่ขายให้
21 พ.ค. 2562 เวลา 16.37 น.
ดูทั้งหมด