“สมุดบันทึกความดี” ทำดีหวังผล! ทำดีแลกแต้ม! เด็กจะเป็นคนดีจริงหรือ?
การทำความดี “จำเป็น” ต้องประกาศให้โลกรู้หรือไม่?
เราคงจะเห็นกันจนชินตาแล้วกับ “สมุดบันทึกความดี” สมุดเล่มเล็กๆที่เรามักจะต้องเขียนรายงานความดีที่เราได้ทำในแต่ละวันเพื่อส่งคุณครูประจำชั้น จุดประสงค์ของสมุดบันทึกความดีก็เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็กๆ เพื่อที่เมื่อเด็กเติบโดขึ้นจะได้เป็นคนดีของสังคม แต่ผลลัพธ์ของมันเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ? การทำความดีของเด็กในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่ “บันทึก” อีกต่อไป มันได้กลายเป็น “คะแนน” ที่ถูกประเมินโดยคุณครู ซึ่งคงจะเป็นหนึ่งในนโยบายของโรงเรียนหรือกระทรวงศึกษาธิการที่ทำให้เกิดตัวชี้วัดผู้เรียนขึ้นมา และเมื่อมีตัวชี้วัดก็ต้องมีการวัดผลตามมา จึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้คะแนนและวัดผลได้ตามนโยบายที่เกิดขึ้น
เมื่อมีการวัดผลการกระทำ การกระทำนั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ นั่นทำให้ความดีทั้งหลายที่ทำไปเป็นความดีที่ไม่ได้มาจากจิตใต้สำนึกจริงๆ แต่เป็นการทำความดีเพียงเพื่อที่หวังจะได้คะแนนจากการทำความดีนั้น เช่นนั้นแล้วในอนาคตหากไม่มีการให้คะแนนการทำความดี ก็คงมีเด็กเพียงส่วนน้อยที่อยากที่จะทำความดีจริงๆ และการที่สมุดบันทึกความดีนั้นเพียงแค่ “บันทึก” ข้อความตัวอักษรลงไป ทำให้เราไม่มีหลักฐานยืนยันได้เลยว่าการกระทำนั้น “เกิดขึ้น” จริงหรือ ไม่ ยกตัวอย่างเช่น หากในสมุดมีข้อความบันทึกว่า “วันนี้ฉันได้ช่วยคนตาบอดข้ามถนน” แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการกระทำนี้เกิดขึ้นจริงๆ เหตุผลนี้เองที่ทำไม “การวัดผลคุณธรรมจริยธรรม” จึงเป็นเรื่องไร้สาระ ที่ไม่ควรมีขึ้นมาตั้งแต่แรก และอีกเหตุผลนึงที่ว่าทำไมการวัดผลคุณธรรมจริยธรรมจึงเป็นเรื่องไร้สาระ นั่นก็คือ “มุมมอง” ในการทำความดีของคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนคิดว่าการทำแบบนื้ถือว่าเป็นการทำความดี แต่อีกคนกลับไม่ได้มองว่าการทำแบบนั้นถือเป็นการทำความดีได้ นั่นทำให้เกิดบรรทัดฐานผิดๆในการทำความดีขึ้น เราอาจจะเอามุมมองของเราไปตัดสินการกระทำของคนอื่น ทำให้คนๆนั้นเกิดความไม่สบายใจในการทำสิ่งนั้นที่เขามองว่ามันคือการทำความดี และทำให้เขาอาจจะไม่อยากทำความดีอีก
การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมควรเป็นสิ่งที่ถาวร ยั่งยืนเพื่อให้มันอยู่ในจิตใต้สำนึกของเด็ก การทำความดีถึงจะเป็นการกระทำที่มาจากความบริสุทธิ์ใจจริงๆ แต่หากจะบอกว่าสมุดบันทึกความดีนั้นไร้ประโยชน์ก็คงไม่ถูกนัก หากใช้มันได้อย่างเหมาะสม สมุดบันทึกความดีก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในตัวเด็กได้อย่างแน่นอน มันอาจจะเป็นเครื่องมือที่ใช้บันทึกว่าเด็กเหล่านั้นได้ทำความดีอะไรมาบ้าง อย่าให้สมุดบันทึกความดีกลายไปเป็นสมุดบันทึกคะแนน
ผลจากการทำความดีสิ่งที่ควรจะได้ไม่ใช่คะแนน แต่ควรจะเป็นคำชื่นชมที่เด็กเหล่านั้นทำความดีแม้ความดีที่เขาทำจะเป็นแค่สิ่งเล็กน้อย เพียงแค่คำชมก็จะทำให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในการทำความดีนั้น เมื่อเกิดความภาคภูมิใจเด็กก็จะเกิดความรู้สึกอยากจะทำความดีต่อไปเรื่อยๆ นี่ต่างหากที่จะเป็นการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมที่ยั่งยืน ไม่ฉาบฉวยเหมือนสมุดบันทึกความดีที่ตีค่าการทำความดีเป็นตัวเลขคะแนน
การทำความดีไม่จำเป็นต้องบอกให้โลกรู้ การทำความดีทำแล้วเป็นสุขใจ ทำแล้วมีความสุขที่ได้ทำ หากไม่มีใครรับรู้แต่เรารู้เพียงคนเดียวก็พอแล้ว หากทุกคนทำได้แบบนี้สังคมเราก็จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ
ภาพประกอบ
https://pantip.com/topic/31715896
https://board.postjung.com/1042001
http://www.thaistudentplan.net
http://www.srinakorn.ac.th/about_school/author/admin/page/5/
http://www.maesaitodayonline.com/5079
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9530000001632
http://kanluangdong.blogspot.com/2016/01/blog-post_46.html
Pat Pat ที่ต่างประเทศเขาใช้ได้ผลมาก ไม่เห็นจะมีปัญหาเด็กเขียนโกหก ถ้ารู้จักโกงแต่เด็ก อนาคตประเทศชาติคงริบหรี่
25 พ.ย. 2561 เวลา 01.35 น.
Top อย่างน้อยเขาก็ยังทำดีไง หรือเมงอยากให้เขาทำชั่วล่ะ การทำดีแล้วบอกต่อใช่ว่าจะเป๊นเรื่องไม่ดีเสมอไป การส่งต่อเสมือนส่งความสุขให้แก่ผู้ได้รับรู้ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งดีๆอยู่ ยังมีคนทำดีอยู่เช่นกัน ก็จะเป็นแรงส่งให้คนทำดีกันต่อไป หรือคนที่ยังไม่ได้ทำ ก็อยากจะลุกขึ้นมาเริ่มทำความดี คนเขียนบทความอยู่แต่ในกะลา ท่องแต่วาทกรรมเก่าๆโบราณๆ ไม่ปรับตามยุคสมัย
25 พ.ย. 2561 เวลา 01.19 น.
K.Lek ได้ผลค่ะ.. แรกๆเขาจะหวังคะแนน ต่อเมื่อเขาทำทุกวัน ฝึกทำจนเป็นนิสัยในการที่เรียนรู้จะช่วยคนอื่น เมื่อเวลาผ่านไป เขาจะเป็นคนมีน้ำใจไปโดยปริยาย ไม่นิ่งดูดาย และกิจกรรมนี้ยังฝึกให้เด็กสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และความสัมพัธ์กับครอบครัว สิ่งดีๆเหล่านี้ เปิดประเด็นทำลายทำไมคะ เรื่องฝึกเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคม
25 พ.ย. 2561 เวลา 03.05 น.
นงลักษณ์ ปิ๊ง
ทำความดีเป็นประจำให้เปรียบเสมือนว่า
เป็นกิจที่ต้องทำในชีวิตประจำวัน อย่า
สนับสนุนให้ทำเพื่อผลตอบแทน เท่ากับ
สนับสนุนให้โลภ เด็กจะคิดว่าตราบใด
ถ้าไม่มีผลตอบแทนก็จะไม่ทำความดี
25 พ.ย. 2561 เวลา 02.10 น.
Maithai 1 การสอนศีลธรรมมันท่องจำมาสอบไม่ได้ประโยชน์ต้องเอามาปฏิบัติ..คุณธรรมอะไรอยากให้มีต้องให้มาฝึกทำและรู้จักหน้าตามันตามอายุของเด็ก. การเห็นจริงทำจริงจะจำนาน มีเหลือในตัว
25 พ.ย. 2561 เวลา 02.08 น.
ดูทั้งหมด