ข่าวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือ กรมสรรพากรประกาศว่าจะปรับเกณฑ์ให้คนที่ได้ดอกเบี้ยเงินฝากไม่ถึง 20,000 บาทต้องเซ็นยินยอมให้ธนาคารนำส่งข้อมูลส่วนตัวนี้ให้กรมสรรพากร มิฉะนั้นจะเสียภาษี
อัพเดท ล่าสุดกรมสรรพากรจะปรับเกณฑ์ให้ธนาคารทำงานง่ายขึ้น เพราะจะสั่งให้ธนาคารส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรโดยอัตโนมัติ ใครไม่อยากให้ข้อมูลกับสรรพากรต้องไปแจ้งธนาคารเอง ทำได้หรือ?
กรมสรรพากรชี้สัปดาห์หน้าแก้เกณฑ์ส่งข้อมูลอัตโนมัติหวังให้ประชาชนไม่เสียภาษี
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรสัปดาห์ที่แล้ว (19 เม.ย. 2562) ระบุว่าเกณฑ์ใหม่ในการเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากจะเริ่มใช้ในวันที่ 15 พ.ค. 2562
ปัญหาใหญ่จึงอยู่ที่ธนาคารที่อาจส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรไม่ทันเวลา เพราะต้องติดต่อลูกค้า รวมถึงทำเอกสารให้ลูกค้าเซ็นยินยอมส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากให้กรมสรรพากร โดยลูกค้ากลุ่มที่ต้องเซ็นเอกสารยินยอมคือคนที่ได้ดอกเบี้ยเงินฝากไม่ถึง 20,000 บาท (มีอยู่ประมาณ 80 ล้านบัญชี) ตามประกาศฉบับปัจจุบันหากลูกค้าไม่ยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลจะต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ
ล่าสุดวันที่ 23 เม.ย. 2562ปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร บอกว่า หลังจากหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยที่ว่าอาจนำส่งข้อมูลไม่ทัน ดังนั้นภายในสัปดาห์หน้ากรมสรรพากรจะแก้ไขประกาศอธิบดีสรรพากรให้ผู้ฝากเงินทุกรายไม่ต้องลงนามยินยอม แต่ข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากจะนำส่งกรมสรรพากรโดยอัตโนมัติ หากเจ้าของบัญชีที่ไม่ต้องการให้ธนาคารนำส่งข้อมูลต้องเข้ามาแจ้งความจำนงกับธนาคารเอง
การแก้ประกาศนี้เพื่อให้ธนาคารสามารถนำส่งข้อมูลให้ทันการจัดเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากที่จะมีผลในวันที่ 15 พ.ค.นี้ แต่ยืนยันว่าประชาชนที่ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน 20,000 บาท/คน/ปีนั้นจะไม่เสียภาษี 15%
สมาคมธนาคารไทยจ่อหารือสรรพากร 25 เม.ย. นี้ ส่วนธปท.รับทราบทุกขั้นตอน
ชุลีพร น่วมทนง รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย (TBA) บอกว่า เมื่อกรมสรรพากรจะแก้ไขหลักเกณฑ์ให้คนที่ไม่ต้องการให้ธนาคารนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากให้กับกรมสรรพากร ต้องแจ้งความประสงค์กับธนาคารด้วยตนเอง จะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ทำงานง่ายขึ้น และมีผลกระทบกับลูกค้าน้อยลง
ทั้งนี้วันที่ 25 เม.ย. 2562 คณะทำงานจะหารือร่วมกับกรมสรรพากรอีกครั้ง เพื่อรับแนวทางในประกาศที่แก้ไขใหม่ ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นภายในสมาคมฯ ต้องกลับมาประชุมเพื่อปรับระบบการทำงานให้สอดคล้องกันโดยจะแจ้งผลสรุปให้ธนาคารพาณิชย์ เพื่อแจ้งลูกค้าต่อไป
จันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย( ธปท.) บอกว่า ธปท. รับทราบ เรื่องการหารือระหว่างกรมสรรพากรกับสถาบันการเงิน ในเรื่องกระบวนการนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าให้กับกรมสรรพากร
ซึ่งมีประเด็นเรื่องของระบบงาน เช่น ระบบ IT ของสถาบันการเงินที่อาจต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถนำส่งข้อมูลดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน จึงอาจต้องมีการหารือเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันมากขึ้นในเรื่องวิธีการปฏิบัติ ข้อติดขัด ผลกระทบต่อประชาชน และทางเลือกในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบาย
สรุป
เมื่อสรรพากรเปลี่ยนกฎเกณฑ์ให้ประชาชนไม่ต้องเซ็นใบยินยอมในการส่งข้อมูลส่วนตัวจากธนาคารไปกรมสรรพากร กลายเป็นว่าต่อไปกรมสรรพากรจะเก็บข้อมูลธุรกรรมการเงินของประชาชนในหลายด้าน ทั้งเงินฝาก และธุรกรรมออนไลน์ ต่อไปสรรพากรจะอยากได้ข้อมูลด้านไหนอีก และนำไปใช้ทำอะไรให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นบ้าง?
P a n d o r a ทำอะไรก็อย่าละเว้นด้วบล่ะกัน บิ้กๆใน ก.คลัง นั่งบอร์ด รสก. รายแห่ง รายได้มากกวาาเงินเดือนประจำ
ช่วงท้าบ รบ.นี้ จะมีข่าว ้เรื่องละเมิดสิทธื์ส่วนบุคคลเยอะมาก การถือครองที่ดินของคนรวยและภาษีที่ดิน กลับไม่เร่ง
24 เม.ย. 2562 เวลา 10.45 น.
Bee คงเป็นประเทศลำดับต้นๆที่สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานโดนละเมิด
24 เม.ย. 2562 เวลา 10.06 น.
นวรัตน์ เงินฝากไม่มากหรอก จะไม่ปิดบัญชีหรอกแต่คงจะไม่ฝากเพิ่ม
24 เม.ย. 2562 เวลา 07.57 น.
... เชื่อกู แมน่งรีบไปปิดบัญชีกัน บ้างก็เหลือไว้นิดหน่อยเท่านั้น
24 เม.ย. 2562 เวลา 03.14 น.
Peter Tk โคตร สุดยอดเลย รัฐบาล ด้านหนึ่ง รีด ด้านหนึ่งจ่ายแบบไม่อั้น!! เราว่ายากนะที่จะให้คนชม อาจจะได้รับแต่คำว่า ทุเรศ วะ
24 เม.ย. 2562 เวลา 02.30 น.
ดูทั้งหมด