หลายคนเปิดรับเทศกาลด้วยปาร์ตี้ งานสังสรรค์ แฮงค์เอาท์กับเพื่อนฝูง และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ หรือสิงห์นักดื่มและสิงห์รมควันบางคนอาจตั้งเป้าเลิกเหล้าเลิกบุหรี่กันตั้งแต่ต้นปี
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ แต่รู้หรือไม่ว่ามีโรคอีกมากมายที่จะตามมา เช่น มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งกล่องเสี่ยง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้และไส้ตรง มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม ความเสี่ยงการเกิดโรคเหล่านี้อาจทำให้คุณตัดสินใจลดและเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ได้ไม่ยาก ลองมาดูกันว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่จะทำร้ายอวัยวะในร่างกายของเราและเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งอย่างไรได้บ้าง
นพ.วิกรม เจนเนติสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาและเคมีบำบัด คลินิกอายุรกรรมโรคมะเร็งและเคมีบำบัด โรงพยาบาลพญาไท 1 กล่าวว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งช่องปาก ลำคอ กล่องเสียง และหลอดอาหาร เพราะเป็นอวัยวะที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน หากมีการสูบบุหรี่ร่วมด้วยจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงได้มากกว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่เพียงอย่างเดียว เพราะแอลกอฮอล์จะเป็นตัวนำสารเคมีในยาสูบให้เข้าสู่เซลล์ในช่องปาก ลำคอ และหลอดอาหารได้มากขึ้นกว่าปกติ ทั้งยังยับยั้งการซ่อมแซม DNA ในเซลล์ที่เกิดความเสียหากเนื่องจากสารเคมีในยาสูบอีกด้วย
มะเร็งตับ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ตับเกิดความเสียหาย นำไปสู่การอักเสบและเกิดแผลในตับได้ ซึ่งสิ่งนี้เองที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับให้สูงขึ้น การหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นปัจจัยเสี่งที่เราสามารถควบคุมได้ง่ายเพื่อช่วยรักษาสุขภาพตับของเรา
มะเร็งลำไส้และไส้ตรง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงในผู้ชายได้สูงกว่า และหากมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนอายุ 60 ปี มีประวัติลำไส้แปรปรวน ท้องผูกเป็นเวลานานติดต่อกัน รวมถึงสูบบุหรี่ ความอ้วนและการไม่ออกกำลังกาย เหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้มากขึ้น
สำหรับผู้หญิงแม้จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยต่อสัปดาห์ ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายให้เพิ่มขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม หรือตรวจพบการกลายพันธุ์ของยีน BRCA ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้สูงถึง 80%
นอกจากนี้ยังมี มะเร็งปอด ซึ่งการสูบบุหรี่ถือเป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอด และยังรวมถึงอายุที่เพิ่มขึ้นและการสัมผัสมลภาวะต่างๆ เช่น แร่ใยหิน ก๊าซเรดอน ควันธูป เป็นต้น หากมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอดก็อาจมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป เพราะเกิดจากความผิดปกติของยีนที่ถ่ายทอดกันในครอบครัวแม้ไม่สูบบุหรี่ก็ตาม
ยิ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่มากเท่าไหร่ โอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งก็มีสูงเท่านั้น นอกจากความเสี่ยงที่เกิดจากพฤติกรรมแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมด้วย
“หากคุณเป็นอีก 1 คนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง” สามารถเข้ารับการตรวจยีนเพื่อประเมินความเสี่ยงทางพันธุกรรม หาการกลายพันธุ์ของยีนที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านมได้ ด้วยเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา Next Generation Sequencing ที่สามารถช่วยตรวจหาการกลายพันธุ์ของยีนแบบ Germline mutations หรือ การกลายพันธุ์ของยีนที่ถูกถ่ายทอดโดยตรงจากพ่อแม่สู่ลูก จำนวนสูงสุด 52 ยีน ครอบคลุมมะเร็งมากกว่า 20 ชนิด รวมถึงมะเร็งในอวัยวะเสี่ยงรักศึกหนักปีใหม่ ผลการตรวจยีนจะช่วยให้หาแนวทางป้องกันความเสี่ยงมะเร็งที่ตรงจุดเสี่ยงและทันเวลา
หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หันมาตรวจสุขภาพด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตรงจุดเสี่ยง และวางแนวทางการป้องกันความเสี่ยงมะเร็ง สุขภาพดีตลอดปี…เริ่มได้จากตัวคุณ
อธิคม ส. บทความของคุณหมอดีนะครับ
แต่เดี๋ยวนะครับ
ยังไม่กลางปี รับปีใหม่กันแล้วหรอครับ
25 เม.ย. 2562 เวลา 15.00 น.
Patcharin Intayot ดีมากค่ะ
25 เม.ย. 2562 เวลา 13.55 น.
SAOsao มีประโยชน์คับ
25 เม.ย. 2562 เวลา 13.45 น.
Jennie Ladymoon ❤️❤️❤️ ดีค่ะ
25 เม.ย. 2562 เวลา 14.24 น.
ตัว'อักษร ดีครับ
25 เม.ย. 2562 เวลา 15.34 น.
ดูทั้งหมด