ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ โตต่อ รับอานิสงส์ใช้จ่ายส่งท้ายปี

PPTV HD 36
อัพเดต 18 ธ.ค. 2567 เวลา 07.16 น. • เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2567 เวลา 06.41 น.
ส.อ.ท. เผยดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องส่งท้ายปี แนะรัฐจัดตั้ง War room รับมือนโยบายการค้าสหรัฐฯ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ย. 67 อยู่ที่ระดับ 91.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก 89.1 ในเดือน ต.ค. 67 เป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการเร่งผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี และก่อนวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเดือน ธ.ค. ประกอบกับภาคการส่งออกขยายตัวเร่งขึ้น 14.6%(YOY) เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบที่ขยายตัวสูง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะที่ประเทศคู่ค้าเร่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรและวัตถุดิบล่วงหน้าเพื่อรองรับการผลิต และเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ในระยะต่อไป อีกทั้งการอ่อนค่าของเงินบาท ยังส่งผลดีต่อภาคการส่งออก ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าในตลาดโลกเพิ่มขึ้น รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 24 พ.ย. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเที่ยวไทยแล้ว 31,313,787 คน ขยายตัว 28% (YoY) สร้างรายได้ 1,466,408 ล้านบาท ประกอบกับเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้ภาครัฐและเอกชนจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค ส่งผลดีต่อการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศ อีกปัจจัยที่ส่งผล คือ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เพิ่มขึ้น ในช่วง 9 เดือนแรกปี 67 มีโครงการต่างชาติยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,449 โครงการ เพิ่มขึ้น 64% (YOY) มีมูลค่าการลงทุน 546,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% (YOY) โดยเฉพาะอุตสาหกรรม ดิจิทัล มีมูลค่าการลงทุน 90,262 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 13,176% (YOY) และงบประมาณภาครัฐ ปี 2568 เริ่มมีการเบิกจ่ายแล้ว ทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตามในเดือน พ.ย. ยังมีปัจจัยลบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ กระทบต่อภาคการผลิตและเศรษฐกิจในพื้นที่ คาดการณ์มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท ปัญหาหนี้เสีย (NPL) ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท ขยายตัว 14.1% (YoY) กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค ยอดขายรถยนต์ในประเทศ เดือน ต.ค. 67 อยู่ที่ 37,691 คัน หดตัว 36.08% (YOY) ต่ำสุดในรอบ 54 เดือน

เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น และรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดในประเทศ รวมถึงยอดอนุมัติสินเชื่อ SMEs ในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 6.47 แสนล้านบาท หดตัว 4.6%(YoY) แสดงให้เห็นว่า SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้น้อยลงจากช่วงก่อนหน้า และยังมีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่เข้ามาแข่งขันในไทยมากขึ้น กดดันยอดขายสินค้าผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค พลาสติก เคมีภัณฑ์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง

  • เศรษฐกิจในประเทศ 55.6%
  • เศรษฐกิจโลก 50.2%
  • ราคาน้ำมัน 38.8%
  • อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) อิงเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ 38.1%
  • สถานการณ์การเมืองในประเทศ 31%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 30.9%

ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า

อยู่ที่ระดับ 96.7 ปรับตัวลดลงจาก 98.4 ในเดือน ต.ค. 67 ปัจจัยที่ผู้ประกอบยังคงห่วงกังวล คือ ความเสี่ยงเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ทำให้สินค้าจีนทะลักเข้าสู่ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น กระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศโดยเฉพาะ SMEs นโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ต่อวัน ความไม่แน่นอนของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ต่าง ๆ อาจส่งผลให้ราคาพลังงานในตลาดโลกผันผวนและกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าโลก

ปัจจัยสนับสนุน

คาดว่าจะมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ โครงการแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 2 มาตรการเงินช่วยเหลือเกษตกร มาตรการแก้หนี้ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วง High Season คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ปี 68 มาตรการตรึงราคาพลังงานของภาครัฐ รวมถึงปรับลดค่าไฟฟ้า

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ

  • เสนอให้ภาครัฐจัดตั้ง War room เพื่อเตรียมแนวทางรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบกับภาคการส่งออกของไทย รวมทั้งสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการขยายตลาดในสหรัฐฯ
  • เสนอให้ภาครัฐใช้กลไกการปรับขึ้นค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน (PAY BY SKILL) เพื่อเพิ่มรายได้ควบคู่กับการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน
  • เสนอให้ภาครัฐส่งเสริมหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน และส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของลูกหนี้ดีขึ้น
  • เสนอให้ภาครัฐปรับปรุงกลยุทธ์ในการเจาะตลาดต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้กลไกทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศเพื่อขยายโอกาสทางการค้า รวมถึงปรับเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการส่งออก เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ตลอดจนกำหนดตัวชี้วัดของโครงการโดยเน้นประสิทธิภาพในการเจาะตลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดัชนีหุ้นไทยเดือน ธ.ค. เด้งรับเงิน TESG ไหลเข้า เตือนปี 68 น่าห่วง

ดัชนีอุตฯ ต.ค. 67 ยังอ่วมหนักจาก “หนี้ครัวเรือน” ลุ้นฟื้นตัวปี 68

ส่งออกฉลุย! ปีนี้รอลุ้น 4% ปีหน้าผันผวนสูงคาดโต 1-3%

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ โตต่อ รับอานิสงส์ใช้จ่ายส่งท้ายปี

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

- Website : https://www.pptvhd36.com

ดูข่าวต้นฉบับ