อาจารย์เจษฎา เตือนภัย ระวังเครือนข่ายหลอกขาย รถยนต์ไฟฟ้า ชาร์จครั้งเดียว รูปโฉมคล้ายยี่ห้อดังแต่ผลิตจากจีน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกขายรถยนต์ไฟฟ้า โดยระบุว่า
ระวังเครือข่าย หลอกขาย "รถยนต์ไฟฟ้า ชาร์จครั้งเดียว ไม่ต้องชาร์จซ้ำ"
มีลูกเพจส่งข้อมูลธุรกิจแปลกๆ ที่เข้าข่ายหลอกลวง มาอีกแล้วครับ บอกว่า "เป็นแนวขายรถไฟฟ้า แล้วสร้างเครือข่าย หาดาวไลน์ครับ โดยบอกว่าเป็นรถไฟฟ้า ไม่ต้องชาร์จ ไม่เติมน้ำมัน รถจะรีเจนแบต คืนไปเรื่อยๆ ครับ"
ในโฆษณาของเขา ผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ทั้งเฟซบุ้คและติ๊กต๊อก มีการระบุว่า รถคันนี้ เป็นนวัตกรรมนำเข้ามาจากเมืองจีน เป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุด เพราะไม่ต้องเติมน้ำมันเลย ไม่มีถังน้ำมัน ใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ต้องชาร์จ ไม่เหมือนรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ คันนี้ขับไปสุไหงโกลกก็ยังได้ ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ เพราะแบตเตอรี่ขับไปชาร์จไป ฯลฯ !?
ซึ่งฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อถือนะครับ เพราะรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อดังๆ แพงๆ ทั่วโลก ให้ใช้แบตเตอรี่รุ่นดีที่สุดขนาดไหนในตอนนี้ ก็ยังต้องนำไปชาร์จไฟฟ้าอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากไฟฟ้าที่สะสมไว้ในแบตเตอรี่จะลดลงไประหว่างการขับขี่ ..
… ถึงจะตั้งเป็นโหมดที่ประหยัดไฟสูงสุด หรือให้รถยนต์อาศัยการทำงานของระบบเบรคและช่วงล่าง เพื่อช่วย regenerate ไฟฟ้ากลับเข้าไปเติมที่แบตเตอรี่ก็ตาม ก็ยังไม่ผลิตไฟฟ้าได้ไม่พอ ยังไงก็ยังต้องเอาไปชาร์จเติมไฟอยู่ดี
ที่นี้ พอเอารูปรถและยี่ห้อไปค้นหาในกูเกิ้ล ก็พบข่าวเก่า ที่พูดถึงรถยี่ห้อและรุ่นนี้ ซึ่งมีจุดเด่นที่เป็นรถอีวีผลิตในประเทศจีน ราคาไม่แพง มีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 หยวน (หรือราว ๆ 2 แสนบาท) แต่พยายามทำหน้าตารูปร่าง ให้คล้ายกับรถตู้ MPV หรูสุดฮิต อย่าง Toyota Alphard ของญี่ปุ่น ส่วนแบตเตอรี่ เป็นแบบ LFP ขนาด 11.9 kWh ที่ชาร์จเต็มจะวิ่งได้ระยะทางราว 130 กม. (ชาร์จแบบ AC จาก 0 – 100% ในเวลา 7 ชม.) และแบตเตอรี่ขนาด 18.5 kWh ที่ชาร์จเต็มวิ่งได้ระยะทางกว่า 200 กม. (ชาร์จ 100% ในเวลา 10 ชม.)
ซึ่งแปลว่าแบตเตอรี่ก็ไม่ได้จะดีมากอะไร และยังต้องชาร์จเป็นประจำ
ดังนั้น ถ้าใครเผลอเข้าไปร่วมเครือข่ายขายรถดังกล่าว หรือได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อรถไป แล้วไม่ได้มีประสิทธิภาพเลิศหรูดั่งที่โฆษณา (คืออ้างว่า ชาร์จแค่ครั้งเดียว ไม่ต้องชาร์จซ้ำ) ก็สามารถแจ้งร้องเรียนกับทาง สคบ. ได้นะครับ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
