ภาษีทรัมป์เขย่า "ตลาดหุ้นสหรัฐ" ดิ่งทั่วกระดาน ดาวโจนส์ร่วง 1,600 จุด Magnificent Seven สูญเสียมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลล์ในวันเดียว นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
วันที่ 4 เมษายน 2568 เวลา 07.42 น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ฟิวเจอร์สของดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลงในคืนวันที่ 3 เมษายน 2568 หลังจากแผนการขึ้นภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จุดชนวนให้เกิดการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นสหรัฐในรอบ 5 ปี
ฟิวเจอร์สดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 77 จุด หรือ 0.2% หลังจากดัชนีดาวโจนส์ที่มีหุ้น 30 ตัวหลัก ดิ่งลงมากกว่า 1,600 จุดในการซื้อขายวันก่อนหน้า ฟิวเจอร์ส S&P 500 ลดลง 0.1%
ส่วน ฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 ลดลงเล็กน้อย โดยความเคลื่อนไหวในคืนวันพฤหัสบดี ดาวโจนส์และ S&P 500 ร่วงลงประมาณ 4% และ 4.8% ตามลำดับ ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ดิ่งลงเกือบ 6%
ดัชนี S&P 500 กลับเข้าสู่ภาวะ “correction” ในวันพฤหัสบดี โดยปรับตัวลดลงมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนี Russell 2000 ซึ่งเน้นหุ้นขนาดเล็ก ร่วงลงมากกว่า 6% กลายเป็นดัชนีที่ได้รับการติดตามอย่างแพร่หลายตัวแรกของตลาดหุ้นสหรัฐที่เข้าสู่ภาวะ “ตลาดหมี” (bear market) ซึ่งหมายถึงการลดลงอย่างน้อย 20% จากจุดสูงสุดก่อนหน้า
การขายหุ้นในวันพฤหัสบดีส่งผลกระทบหนักเป็นพิเศษต่อหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (megacap) โดย ดัชนี “Magnificent Seven” ของ CNBC ร่วงลงมากกว่า 6% หุ้นในกลุ่มนี้ ซึ่งเคยเป็นผู้นำตลาดในปี 2566 และ 2567 สูญเสียมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในวันเดียว
ดัชนี Nasdaq Composite เป็นผู้นำการร่วงลงของตลาดในสัปดาห์นี้ โดยลดลง 4.5% ขณะที่แผนภาษีของทรัมป์ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงในพอร์ต S&P 500 และดาวโจนส์ลดลง 3.3% และ 2.5% ตามลำดับนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ทั้ง Nasdaq และ S&P 500 กำลังมุ่งหน้าสู่การปิดสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 และเป็นสัปดาห์ที่ขาดทุนครั้งที่ 6 จาก 7 สัปดาห์ล่าสุด
ตลาดทั่วโลกเกิดแรงเทขาย หลังจากทรัมป์ประกาศเมื่อวันพุธว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% กับสินค้าจากทุกประเทศ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 เมษายน 2568 ตามคำแถลงของทำเนียบขาว บางประเทศจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีที่สูงกว่านั้นอีก
นักลงทุนในขณะนี้ต่างจับตาดูว่าแต่ละประเทศจะสามารถเจรจาทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ เพื่อผ่อนคลายภาษีได้หรือไม่
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาเปิดรับการเจรจาการค้า ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนจุดยืนจากคำกล่าวก่อนหน้าของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร
ไมเคิล อาโรน หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ SPDR ที่ State Street Global Advisors กล่าว กล่าวว่า “ฝ่ายบริหารของทรัมป์อาจกำลังเล่นเกมวัดใจ (game of chicken) กับประเทศคู่ค้า แต่ผู้เล่นในตลาดไม่พร้อมจะนั่งรอดูผลลัพธ์ …นักลงทุนกำลังเทขายก่อน แล้วค่อยหาคำตอบทีหลัง”
ในเช้าวันศุกร์ (4 เม.ย.68) นักลงทุนจะจับตารายงานการจ้างงานที่ได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดสำหรับเดือนมีนาคม นักเศรษฐศาสตร์ที่ถูกสำรวจโดย Dow Jones คาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payrolls) จะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานจะยังคงอยู่ที่ 4.1%
อ้างอิง : cnbc.com