*“จุรินทร์” ฟิตเตรีมนำกระทรวงพาณิชย์ลุยงานปี 63 อย่างน้อย 16 ประเทศ ขายสินค้าเจาะลึกรายรัฐและมณฑล *
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ระดับ 11 และ 10 ว่า การที่เชิญท่านปลัดกระทรวง รองปลัด อธิบดี ผู้ตรวจราชการ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ระดับ 10 มาหารือทั้งนี้เพื่อเตรียมการสำหรับกำหนดแผนงานที่จะเดินหน้าในปี 2563 ต่อไป เฉพาะในส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญ ที่เป็นรูปธรรมและมีเรื่องที่จะเรียนให้ทราบ 2-3 เรื่อง คือ เรื่องแรกโครงการประกันรายได้เกษตรกร 5 ชนิด ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่งทั้ง 5 ชนิดนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการจ่ายเงินส่วนต่างได้ครบถ้วนภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะขณะนี้ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมันนั้นได้ ทยอยจ่ายเงินส่วนต่างแล้ว สำหรับข้าวโพดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 11 ธ.ค. ที่จะถึงนี้และถ้าเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ก็จะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างได้ทันทีในวันที่ 20 ธ.ค. ซึ่งนั่นหมายความว่าพืชเกษตรทั้ง 5 ตัวนี้ สามารถดำเนินการได้ครบถ้วนเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี
“สำหรับข้าวมีรายละเอียดเพิ่มเติม คือ สำหรับการจ่ายเงินส่วนต่างงวดถัดไปจะมีข้าว 4 ชนิดที่จะได้รับเงินส่วนต่างงวดใหม่นี้ (งวดที่5) ประกอบด้วยข้าวเจ้า ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวหอมปทุมฯ ข้าวหอมมะลิและข้าวหอมนอกพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ใน 2-3 งวดที่ผ่านมาปรากฏว่าข้าวหอมมะลิกับข้าวหอมนอกพื้นที่และข้าวเหนียวยังไม่ได้รับเงินส่วนต่าง เพราะว่าราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกัน แต่สำหรับงวดถัดไปข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมนอกพื้นที่ ข้าวหอมปทุมฯ และข้าวเปลือกเจ้า จะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับข้าวหอมมะลิ จะได้รับเงินส่วนต่างตันละประมาณ 500 กว่าบาท ส่วนข้าวหอมนอกพื้นที่ตันละ 400 กว่าบาท” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องยางพารา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกระบวนการของการตรวจสวนซึ่งกระบวนการอย่างค่อนข้างล่าช้า แต่อย่างไรก็ตามได้หารือกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและการยางแห่งประเทศไทย และได้มีการปรับวิธีการตรวจสวนให้กระชับขึ้น นั่นก็คือเปลี่ยนมาเป็นวิธีให้เจ้าของสวนได้เป็นผู้แจ้งข้อมูลว่าได้ทำยางชนิดใด และมีจำนวนพื้นที่กี่ไร่ จากนั้นให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านคนใดคนหนึ่งให้การรับรองว่าเป็นความจริง และส่งข้อมูลให้กับการยาง และการยางก็จะส่งข้อมูลให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินส่วนต่างได้ทันทีคาดว่าถ้าจากนี้ไปเฉพาะผู้ที่ยังตรวจสวนไม่เสร็จจะรับเงินส่วนต่างเร็วขึ้น เพราะมีการปรับปรุงกระบวนการตรวจสวนให้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการโอนเงินส่วนต่างในเรื่องของยางพาราไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนสวนยางทั้งหมดที่มี และเร่งรัดดำเนินการต่อไปตามลำดับ และสำหรับผู้ถือบัตรสีชมพูสามารถได้รับเงินส่วนต่างด้วย เช่นเดียวกัน
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ปีหน้านโยบายประกันรายได้เกษตรกรจะเดินหน้าต่อไป ตามขั้นตอนกระบวนการ เพราะถือว่าเป็นนโยบายสำคัญอันหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ที่แถลงไว้กับรัฐสภา สำหรับปีหน้ามีมาตรการเสริมและมาตรการคู่ขนานสำหรับพืชแต่ละตัวดำเนินการควบคู่กันไปด้วย เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของระดับราคาและเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสำหรับพืชบางตัวเข้ามา และทำให้ราคาพืชเกษตรตัวนั้นในประเทศตกลงไป ในการประชุมครั้งล่าสุดกับนายกฯ ตนขอให้ฝ่ายความมั่นคงได้ช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษในเรื่องการพืชผลการเกษตรโดยเฉพาะช่วงนี้คือข้าวโพดมีรายงานว่ามีการลักลอบนำเข้าข้าวโพดมาในปริมาณที่น่าเป็นห่วง ตนให้ฝ่ายความมั่นคงช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษแล้ว
สำหรับเรื่องแผนงานในการที่จะเร่งรัดการส่งออกในปีหน้าได้มีการหารือและมีข้อสรุปร่วมกันว่าสำหรับปีหน้าตนจะนำคณะของกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนเดินทางไปเปิดตลาดอย่างน้อยใน 16 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย อินเดีย ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ฮ่องกง จีน เวียดนาม ฝรั่งเศส อังกฤษ ตะวันออกกลาง รัสเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติมอร์เลสเต้ เกาหลี บังกลาเทศ มัลดีฟส์ กัมพูชา เป็นต้น โดยหัวใจสำคัญเรื่องที่ 3 การทำ FTA สำหรับเรื่อง FTA นั้น เดินหน้า FTA ที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะไทยกับตุรกี ซึ่งจะเร่งรัดให้เสร็จสิ้นภายในปีหน้า นอกจากนั้นมีไทย-ปากีสถาน และไทย-ศรีลังกา และที่จะเริ่มต้นใหม่ก็มีทั้งไทย-EU ไทย-UK ไทย-ฮ่องกง และกลุ่มประเทศ AFTA ซึ่งประกอบด้วยสวิตเซอร์แลนด์ ลิกเกนสไตล์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ เป็นต้น
รวมทั้งที่สำคัญตนได้มอบนโยบายให้เริ่มต้น FTA รูปแบบใหม่ที่จะลงลึกรายมณฑลหรือรายรัฐในประเทศที่เหมาะสมที่จะทำข้อตกลงพิเศษทางด้านการค้าและบริการระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมการส่งออกให้สินค้าและบริการในเชิงลึกให้มากขึ้น เช่น อาจมีข้อตกลงพิเศษกับมณฑลบางมณฑลของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการทำการค้าเสรีกับประเทศไทย หรือทำกับอินเดียบางรัฐที่มีความเหมาะสม เป็นต้น สำหรับการเตรียมแผนการปีหน้า 2563
ส่วนในเรื่องของข้าวขอเรียนเพิ่มเติมสำหรับวันที่ 11 จะนำเรื่องข้าวเข้าสู่การพิจารณา ครม. จะมีการนำเรื่องข้าว มาตรการเสริม จากนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะประกอบด้วยเรื่องสำคัญ 3 หมวดหมวดที่ 1.ในเรื่องของการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเรื่องของต้นทุน 2. การช่วยเหลือเรื่องค่าปรับปรุงคุณภาพ และการเก็บเกี่ยว 3. มาตรการในเรื่องของการชะลอขายจำเป็นต้องมีมาตรการที่ 3เข้ามาด้วยเพราะช่วงนี้ข้าวออกมาก และถ้ามีมาตรการชะลอขายก็จะช่วยไม่ให้ข้าวใหม่ออกสู่ตลาดมากเกินไป ที่จะส่งผลให้ราคาตกหลังจากที่ส่งสัญญาณ เรื่องมาตรการการชะลอขายออกมาก็ปรากฏว่าราคาข้าวก็กระเตื้องขึ้นในช่วงระยะเวลาสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา จากมาตรการชะลอขายข้าวประกอบด้วย 1. สำหรับตัวเกษตรกรถ้าชะลอขายในช่วงระยะเวลา 1-5 เดือนก็จะมีเงินช่วยเหลือของ คชก.ตันละ 1,500 บาท และนอกจากจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท แล้วยังสามารถนำข้าวนั้นไปเป็นประกันขอสินเชื่อ ธ.ก.ส. ได้ร้อยละ 80 ของราคาตลาด โดยไม่มีภาระดอกเบี้ยควบคู่ไปด้วยได้
2.สำหรับสถาบันเกษตรกรหรือสหกรณ์ ถ้าจะชะลอขาย 1-5 เดือนก็จะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาทเหมือนกันโดยแบ่งเป็น 2 ก้อน ก้อนที่ 1 ให้สถาบันเกษตรกรเอง 1,000 บาท ก้อนที่2 500 บาทให้กับตัวเกษตรกร ในเรื่องของโรงสีถ้าโรงสีสามารถที่จะซื้อข้าวมาเก็บได้ในช่วง 2-6 เดือนก็จะมีเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ กล่าวคือรัฐบาลจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ก็เป็นการลดภาระเงินกู้ ในการกู้เงินมาซื้อข้าว เพื่อลดปริมาณข้าวที่จะออกสู่ตลาดและทำให้ข้าวราคาตก ซึ่งจะเข้าสู่คณะรัฐมนตรีในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ ขอเรียนให้ทราบ
PUnakhonbelieve ขาดภาวะผู้นำ
09 ธ.ค. 2562 เวลา 17.29 น.
Sakon Jariya โคตรเกลียดเลย...ลูกพรรคสี่ห้าคนยังเอาไม่อยู่ ไม่อายเหรอ อยู่กับเขานะ
09 ธ.ค. 2562 เวลา 16.28 น.
King งั้นๆแหละ pr เก่งอย่างเดียว
09 ธ.ค. 2562 เวลา 16.53 น.
ดูทั้งหมด