ทั่วไป

จุฬาภรณ์ฯผลิตฟาวิพิราเวียร์สูตรน้ำเชื่อม รักษาเด็กติดโควิด-กลืนยายาก แจกฟรีสัปดาห์ละ 100 ราย เริ่ม 6 ส.ค.นี้

MATICHON ONLINE
อัพเดต 05 ส.ค. 2564 เวลา 06.33 น. • เผยแพร่ 05 ส.ค. 2564 เวลา 05.49 น.

จุฬาภรณ์ฯผลิตฟาวิพิราเวียร์สูตรน้ำเชื่อม รักษาเด็กติดโควิด-กลืนยายาก แจกฟรีสัปดาห์ละ 100 ราย เริ่ม 6 ส.ค.นี้

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แถลงข่าว การพัฒนาและคิดค้นสูตรตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผลิตในโรงพยาบาล (รพ.) จุฬาภรณ์ (Hospital preparation) ว่า ขณะนี้มีการระบาดของโควิด-19 โดยผู้ติดเชื้อเป็นเด็กเพิ่มสูงขึ้น สามารถแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัวต่อได้ ขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคในเด็กยังไม่ได้มีการใช้อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนจะช่วยยับยั้งการระบาดของโรคได้ แต่ต้องอาศัยเวลา ดังนั้น การได้รับยารักษาเร็วจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนักเข้า รพ. และน่าจะลดการเสียชีวิตได้ “นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลโรคโควิด -19 การยับยั้งการแพร่ระบาดให้ลดลงต้องอาศัยเวลาในการฉีดวัคซีน ดังนั้น ในภาวะที่เตียงใน รพ.ต่างๆ ตึงมาก ดังนั้นจะทำอย่างไรผู้ป่วยจะได้ไม่ต้องป่วยหนักเข้า รพ. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นห่วงประชาชนมาตลอด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ใช้ยาลำบาก ดังนั้น ราชวิชัยจุฬาภรณ์ จึงหารือร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด พัฒนายาใน รพ. โดยทำยาฟาวิพิราเวียร์ชนิดน้ำเชื่อมสำหรับเด็กที่กลืนยาเม็ดได้ หรือเพื่อให้ผู้ใหญ่ที่กลืนยาไม่ได้ และได้รับขนาดที่เหมาะกว่าการบดยาเม็ดป้อน ขณะเดียวกัน ก็ยินดีให้สถานพยาบาลอื่นๆ ผลิตยาดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม ยาดังกล่าวต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น และมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด อายุการใช้งาน 30 วัน ต้องไม่โดนแสงแดด และไม่ควรเก็บในตู้เย็น เพราะจะทำให้ยาตกตะกอน” ศ.นพ.นิธิ กล่าว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ด้าน พญ.ศรัยอร ธงอินเนตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ญี่ปุ่นมีการใช้ในโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนการนำมารักษาโรคโควิดจะใช้ในขนาดที่มากพอสมควร โดยวันแรก 70 มก./กก./วัน วันต่อมาใช้ 35 มก./กก./วัน แบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง ดังนั้น หากเด็ก 10 กก.จะต้องรับประทานถึง 1 เม็ดกับอีก 3 ส่วน 4 เม็ด แต่หากใช้เป็นยาน้ำจะป้อนเด็กได้ง่ายขึ้น โดยวันแรกจะใช้ 27 cc ต่อครั้ง วันละ 2 ครั้ง และวันต่อมาจะใช้ 12 cc หรือ 3 ส่วน 4 เม็ด

พญ.ครองขวัญ เนียมสอน กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางเดินหายใจในเด็ก กล่าวว่า ในเดือน ก.ค.พบเด็กติดโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า และด้วยเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ทำให้เชื้อลงปอดมากขึ้น โดยพบเด็กมีเชื้อลงปอดเพิ่มจาก 50% เป็น 80-90% แต่อาการเบากว่าผู้ใหญ่ เด็กที่ปอดติดเชื้อยังมีสุขภาวะที่ดี ไม่ต้องการออกซิเจน ยังคงออกซิเจนสูง 95-96% เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ยามีทั้งข้อดี ข้อเสีย ยาเม็ดบดละลายน้ำผู้ปกครองคงเคยใช้มาก่อนกับยาตัวอื่น ข้อดีคือเจอจางในปริมาณน้ำ หรือนมที่ต้องการ แต่ข้อเสียคือไม่ทราบปริมาณยาที่ตกตะกอนตกค้างทำให้ได้ปริมาณยาไม่คงที่ และการที่บดไม่ละเอียดจะทำให้มีรสขม จะทำให้เกิดการอาเจียนหรือปฏิเสธการกินยาในครั้งต่อไป ส่วนยาน้ำเชื่อมข้อดีคือพร้อมใช้ มีปริมาณยาคงที่ เด็กได้รับการดูดซึมดี แต่มีปริมาณยามากว่ายาเม็ดทั่วไป เช่นเด็ก 10 กก. ปกติป้อน 5 ซีซี แต่วันแรกต้องได้ยาเยอะ ส่วนวันถัดไปก็กินยาในปริมาณที่ไม่ต่างยาน้ำเด็กตำรับทั่วไปนัก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“จากการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์น้ำเชื่อมจริงในคนไข้เด็กอายุ 8 เดือน ถึง 5 ปี จำนวน 12 ใน รพ.จุฬาภรณ์ พบว่า ตอบสนองต่อการรักษาด้วยดี ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง กินยาได้ดี มีเพียง 8 เดือน ที่แหวะยาในช่วงแรกปริมาณ 1 ซีซี ทั้งนี้ที่รพ.จุฬาภรณ์ มีผู้ป่วยเด็กราวๆ 8-9% อายุตั้งแต่แรกเกิด – 15 ปี อัตราส่วนที่ต้องใช้ยาน้ำจริงๆ คือ 1 ใน 3 ในเด็กที่วิกฤต ต้องมีการรวบรวมตัวเลขอีกครั้ง” พญ.ครองขวัญ กล่าวและว่า สำหรับอาการโรคโควิด-19 ในเด็กจะมีไข้ หรือออกผื่น ซึ่งอาจขึ้นใบหน้า หรือลำตัว อาจมีอาการนอกเหนือจากนี้ เช่น ทางเดินอาหาร เบื่ออาหารคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ่ายเหลวได้ อาการนี้อาจนำมาร่วมกับการสัมผัสผู้ป่วย อาการเหล่านี้ได้ภายใน 1-3 วัน จึงอาจต้องมีการตรวจ ส่วนอาการอาจอยู่นานประมาณ 1-2 สัปดาห์ในเด็กไม่มีโรคประจำตัว

ขณะที่ พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า การให้ยาผู้ป่วยใน รพ.จุฬาภรณ์ จะใช้ตามขอบ่งชี้คือในเด็ก และผู้ป่วยสูงอายุ กินอาหารทางสาย ที่มีการตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท แล้วผลเป็นบวก ก็ให้ยาเลย แล้วค่อยมาคอนเฟิร์มการติดเชื้อด้วยอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) ในภายหลัง ส่วนคนไข้รพ.อื่นก็จะให้ และให้ รพ.นั้นๆ ให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://favipiravir.cra.ac.th ไม่เสียค่าใช้จ่าย เริ่ม 6 ส.ค.นี้ ระยะแรกให้บริการได้ 100 รายต่อสัปดาห์ เฉลี่ย 20 รายต่อวัน อนาคตจะเพิ่มขึ้น หลังโดยจะได้รับยาหลังลงทะเบียนแล้ว 1 วัน จัดยาไม่เกินเวลา 20.00 น. ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดส่งอาจจะต้องรับผิดชอบเอง หรืออนาคตจะพยายามหาผู้ช่วยในการจัดส่งยาอีกครั้งหนึ่ง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ