วันหนึ่ง วิ่งขึ้นแท็กซี่พอปิดประตู แล้วตกใจ ลุงคนขับหันมาบอกว่า “ขอบคุณนะครับ ที่เรียกผม” อ้าว!! ลุง หนูเห็นลุงจอดรอตอนหนูข้ามถนน ยังว่าจะขอบคุณคุณลุงที่ขับผ่านไปแล้วจอดรอ ลุงบอกว่า “เปล่าครับ ผมเหนื่อยเฉยๆ เลยจอดพัก ออกมาตั้งแต่ตี 5 ไม่มีผู้โดยสารเลย” “ ดีใจค่ะ ได้เป็นผู้โดยสารของคุณลุง กำลังลุ้นอยู่ว่า จะมีรถพาหนูไปไหม คุณลุงไปสนามบินเลยนะคะ” คุณลุงพูดจาสุภาพมาก มีเจลบริการในรถทุกอย่าง เราคุยกันไปเรื่อยๆ คุณลุงไปลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5000 บาทด้วยแต่ไม่ได้ ก็ยอมรับและเข้าใจ ลุงบอกว่า “คนรอเยอะแยะขนาดนั้นคงไม่ได้ทุกคน ก็พยายามหาเองไปเรื่อยๆ แต่ก็เหนื่อยเหลือเกิน ” แล้วคุณลุงก็ร้องไห้ บอกว่า “ไม่รู้จะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนนะครับ”
ใจตกเลยค่ะ ได้แต่ให้กำลังใจกันไป “ไม่มีใครรู้ข้างหน้า แค่สู้ทีละวันนะคะลุง เดี๋ยวส่งหนูแล้ว ลุงชะลอรถไว้นะ แถวนั้นมีคนเรียกต่อแน่นอน ส่งหนูที่ประตูแรกเลย แล้วค่อยๆขับไป ประตูต่อๆไปต้องมีคนออกมารอรถแน่เลย” ก่อนลงรถจ่ายค่าแท็กซี่เกินๆค่ามิเตอร์ไป ลุงจะไม่ยอมรับ เลยบอกว่า “ขอเลี้ยงข้าวนะคะ ถ้าไม่ได้ลุงจอดรอ หนูสายแน่ๆ” ลุงยกมือไหว้ อุ้ย !! ไม่เป็นไรค่ะ พอลงจากรถไปหันกลับมามองอีกที มีน้องคนหนึ่งเรียกรถลุงต่อแล้ว ลุงค่อยๆชะลอรถมายกมือไหว้อีกที เลยยกมือไหว้ลาลุงบ้าง จะสื่อสารยังไงดี ภาษามือที่บอกว่า “เห็นไหมลุง เชื่อหนูยัง” ทำมือกดไลค์ละกัน ลุงจะรู้ไหม ในใจหนูตอนนี้ยิ้มกว้าง กว่ายิ้มที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากผ้าของหนูตั้งเยอะ
ช่วงเวลานี้ไม่มีใครไม่ทุกข์ เราแค่พยายามจะสุขให้ได้ภายใต้เงื่อนไขที่มี ช่วงเวลาที่ลำบากต้องใช้สติให้มากๆๆๆ เวลาที่เรากลัวพร้อมๆกัน มันจะมีแรงกดดัน คิดไปไกลๆไม่ไหว แค่ลุยต่อให้ได้ทีละวัน ฝันให้ใกล้แล้วไปให้ได้ก่อน จะเป็นการรับมือกับเรื่องอะไร ก็มีวิธีคิดคล้ายๆกัน
“พี่อ้อยคะ หนูยอมเขาหมดทุกอย่าง เราเจอกันใน facebook ก่อนหน้านี้หนูไม่เปิดใจให้เขาแต่เขาก็พิสูจน์ตัวเองว่าเขารักหนูต้องการดูเเลหนู อยู่กันได้3ปี มีลูกชายด้วยกัน1คน เป็นลูกคนแรกของเขา เขาไม่เคยรับผิดชอบอะไรในชีวิตคู่ของเราเลย หาเงินมาก็เอาไว้ใช้หนี้ของตัวเอง หนูน้อยใจค่ะ พอดีหนูไม่ได้ทำงานเพราะ โควิค เลยไม่มีรายได้ แต่เขาได้ทำงานหนูเลยขอให้เขาซื้อนม เขาก็ไม่ได้ซื้อ หนูเอ่ยปากว่าถ้าอยู่กันแบบนี้ ก็ต่างคนต่างอยู่ อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบจังเลยค่ะพี่ บางทีก็คิดสั้น อยากตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่สงสารลูกค่ะ ที่ต้องเห็นเราทะเลาะกันบ่อยๆ ”
ไหนบอกว่ารักลูกมาก แล้วจะอยากตายไปไหน ตอนมีชีวิตคู่ ยังดูเหมือนพ่อเขาไม่ค่อยดูแล ลูกเราจะแย่แค่ไหน ถ้าแม่ตัดสินใจหยุดลมหายใจทิ้งไปเพียงเพราะมีชีวิตคู่ที่ไม่สมบูรณ์แบบ คนที่คาดหวังว่าชีวิตต้องมีความสุข ส่วนใหญ่จะทุกข์ง่าย แต่ถ้าคิดได้ว่า คนบนโลกนี้ไม่มีใครหร็อกไม่ทุกข์ เรากลับสุขมากขึ้น เพราะความคาดหวังมักทำร้ายเราได้เสมอ เลิกคิดถึงความสมบูรณ์แบบอะไรทั้งนั้น เราแค่รับมือกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ มัวแต่นั่งรอรักแท้ จริงๆแค่พยายามทำความรักที่มีให้ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นได้ ไม่มีอะไรสวยงามไปซะทุกวัน ชีวิตเราก็เหมือนกัน น้องเป็นสามีภรรยากันมาตั้ง 3 ปี เขาเป็นแบบนี้มาตลอดไหม แต่ก่อนเรายอมเขามากไปจนกลายเป็นเขาเห็นแก่ตัวและเคยตัวหรือเปล่า วันนี้พอลุกขึ้นมาเรียกร้องอะไร เลยดูเหมือนเราเปลี่ยนไป
โควิดทำให้ชีวิตยากขึ้น และทำให้เราต้องมีมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิตคู่ด้วย แต่ก่อน ฉันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างได้ ไม่เคยบ่น ไม่เคยขอ หรือเราต้องตกลงกันใหม่ มี “เงินเธอ” “เงินฉัน” และควรมี “เงินลูก” ที่เราต้องรับผิดชอบด้วยกันหรือเปล่า ค่อยๆพูด ค่อยๆคุย พอโวยวายจะกลายเป็นการพยายามหาคนผิด เอาจริงๆเราก็ผิดไปคนละครึ่ง เขาเป็นแบบนั้น เพราะเราเคยยอมแบบนี้ เราคงคิดว่าเป็นพ่อดีๆต้องคิดได้ ก็ไม่มั่นใจอีกแหละว่า เขามีความเป็นพ่อที่ดีระดับไหน
พอมีความเครียดน้องก็เริ่มคิดสั้น อย่าตัดสินใจอะไรง่ายไป รักลูกก็ต้องอยู่เพื่อลูก ดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ สงสารลูกที่เห็นเราต้องทะเลาะกัน ก็ลองพยายามอย่าทะเลาะกันให้ลูกเห็น หรือถ้าเป็นไปได้ หาวิธีคุยกันแบบที่ไม่ต้องเสียงดังใส่กัน ไม่มีชีวิตไหนที่ดีทุกวัน มันสลับๆกันมา เราถึงยิ้มได้ และร้องไห้เป็น สุดแท้แต่โลกจะหันมุมไหนให้เราเห็นก่อน ไม่ต้องไปตามหาความสมบูรณ์ใดๆ เราต่างใช้ชีวิตตามเงื่อนไขทั้งนั้น จะชีวิตลุงขับแท็กซี่ที่พี่เล่า หรือชีวิตเรา ที่ไม่ว่าใครก็อยากได้ชีวิตดีๆ แต่ถ้าจะได้แค่นี้ ก็ต้องหา “วิธีคิด” ประคองชีวิตกันไป ในวันที่ลมหายใจยังเป็นของเราเท่านั้น เพราะความสุขไม่ได้อยู่ที่เรามีอะไร แต่อยู่ที่เรารู้สึกยังไงกับสิ่งที่เรามีต่างหาก
ผมได้อ่านในสองเรื่องราวที่คุณอ้อยได้นำมาเสนอแล้ว ในความคิดส่วนตัวของผมมันทำให้ผมนึกสะท้อนถึงในเรื่องของความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดีเหมือนกันนะครับ เพราะว่าถ้าหากว่าคนเรานั้นมีความรับผิดชอบต่อในหน้าที่ที่ตนเองควรจะกระทำแล้ว ผมเชื่อว่ามันก็คงสามารถที่จะช่วยลดปัญหาของสังคมลงมาได้บ้างเหมือนกันนะครับ.
14 พ.ค. 2563 เวลา 22.12 น.
อ่านเรื่องราวของคนอื่นแล้ว. กลับมามองดูตัวเองทำให้รู้ว่าตัวเองโชคดีกว่าหลายๆคน เมื่อก่อนเครียดตลอดตื่นเช้ามาก็นึกถึงหนี้สิน. ต่างคนก็มีปัญหาของตัวเอง. ไม่ได้มีแต่เราที่ทุกข์. ขอให้ทุกคนสู้ๆ
15 พ.ค. 2563 เวลา 02.07 น.
YahYa เป็นกำลังใจครับ ต้องอยู่ให้ได้ อยู่ให้เป็นครับ เพื่อคนที่เรารักและรักเราครับ
14 พ.ค. 2563 เวลา 22.03 น.
ดูทั้งหมด