ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ฟื้นท่องเที่ยวไทยต้องรีเซตใหม่ทั้งระบบ

ประชาชาติธุรกิจ
เผยแพร่ 20 ต.ค. 2561 เวลา 15.07 น.

บทบรรณาธิการ

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สถิติการท่องเที่ยวไทยซึ่งที่ผ่านมาเติบโตต่อเนื่องเริ่มชะลอตัวลง โดยเฉพาะยอดนักท่องเที่ยวจีนที่หล่นฮวบหลังเหตุการณ์เรือล่มใน จ.ภูเก็ต เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเดือนสิงหาคม และกันยายน ขยายตัวติดลบเป็นครั้งแรก

หากยังเป็นไปในลักษณะนี้ และมีปัจจัยลบมากระทบซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการกระทบกระทั่งที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว ข่าวการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก ฯลฯ โอกาสที่จะฟื้นความเชื่อมั่นกลับคืนมาคงเป็นไปได้ยาก

สัญญาณอันตรายยอดยกเลิกการจองห้องพัก การยกเลิกเที่ยวบินแบบเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลต์ ของกรุ๊ปทัวร์จีนบินตรงเข้าไทย ที่สมาคม องค์กรภาคเอกชนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเมืองท่องเที่ยวหลักทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ ออกมาสะท้อนภาพความเป็นจริง จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักและเร่งหาทางแก้มิเช่นนั้น การผลักดันรายได้ภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน และให้เป็นอีกหนึ่งเสาหลักช่วยสร้างรายได้ทดแทนรายได้ภาคส่งออกซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า คงเป็นได้แค่ความหวัง หากยังไม่สามารถก้าวข้ามกับดักสารพัดปัญหาที่กำลังถาโถม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะเดียวกัน เป้าหมายรายได้รวมทะลุ 3 ล้านล้านบาทในปีนี้ และปีหน้าที่ 3.41 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% แยกเป็น รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.29 ล้านล้านบาท กับตลาดในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทย ที่ตั้งเป้าไว้ 1.12 ล้านล้านบาท ก็อาจไปไม่ถึงฝัน

ถือเป็นเรื่องดีที่เวลานี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันผนึกกำลังกอบกู้สถานการณ์ ล่าสุด ผลการหารือของหลายหน่วยงาน เมื่อ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา นำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ได้ข้อสรุปว่าจะเสนอรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้

โดยให้ยกเว้นค่าธรรมเนียม visa on arrival ให้นักท่องเที่ยว 21 ชาติ รวมทั้งจีน ระหว่าง 15 พ.ย. 2561-15 ม.ค. 2562 ดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มเดินทางเข้ามาประเทศไทยลดน้อยลง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นจูงใจคงช่วยได้แค่ชั่วคราว แล้วกลับมาสร้างปัญหาซ้ำ ที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว

ขณะนี้คือ การรื้อใหญ่และปรับโครงสร้างการบริหารจัดการการท่องเที่ยวไทยทั้งระบบให้หลากหลายปัญหาทั้งการอำนวยความสะดวกสบาย อุบัติเหตุ ความปลอดภัย การถูกเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ ได้รับการแก้ไข้แบบเบ็ดสร็จ การท่องเที่ยวไทยจึงจะเติบโตได้มั่นคง ยั่งยืนอย่างแท้จริง

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 10
  • .
    อย่าประเคนให้จีนหรือต่างชาติมากเลยครับ เรามาพัฒนาการท่องเที่ยวเราให้ดีมีมาตรฐานดีกว่าผมจะแนะนำการท่องเที่ยวนะครับในฐานะผมมีเพื่อนเป็นไกด์และทำทัวเยอะ -ให้ไทยเน้นความปลอดภัยทุกการท่องเที่ยวอุปกรณ์ดูแลความปลอดภัยต้องดีที่สุด -ตั่งแต่สนามบินหรือ บขส ต้องมีรถเมมินิบัสสำหรับนักท่องเที่ยวโดยตรง เน้นที่นั้งใหญ่กว้างนั้งสบายเพราะเวลาบินมาถึงมันเหนื่อย ในรถด้านล่างและบนมีช่องใส่ของได้ควรมีมินิบัสส่งถึงที่ท่องเที่ยวหลักๆรถแท็กซี่ต้องคิดตามมิเตอร์ -อาหารที่พักต้องสะอาดปลอดภัยไม่แพงทุกโรงแรมใหญ่มีรถไปส่งบขส
    20 ต.ค. 2561 เวลา 20.55 น.
  • Jee
    แค่แก้ปัญหาแท็กซี่สนามบินยังทำไม่ได้เลย
    21 ต.ค. 2561 เวลา 07.16 น.
  • Narong
    รีเซทต่างชาติที่มาลงทุนเก็บเงินกับประเทศด้วย คนไทยไม่มีที่ทำกินแล้ว
    21 ต.ค. 2561 เวลา 08.11 น.
  • ปฏิรูปประเทศทุกภาคส่วนให้มีความถูกต้องตรงกันและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วยกันให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยเลือกตั้งกันนะเจ้าคะ
    21 ต.ค. 2561 เวลา 05.37 น.
  • คนที่ทำลายการท่องเที่ยวก็พวกอยู่ในวงการนั่นแหละตาสีตาสาประชาชนทั่่วไปเขาไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวด้วยหรอกครับ เวลานักท่องเที่ยวมาพวกคุณท่านก็ไปทำร้ายเขาไปหลอกลวงไปเอาเปรียบขูดรีดเขาจนเขาเข็ดขยาดไม่มาเที่ยวแถมบอกต่ออีก พอเขาไม่มาพวกคุณท่านก็แหกปากให้รัฐบาลช่วย เอ้าพอเขาช่วยดึงนักท่องเที่ยวมาวงจรอุบาตก็เริ่มดำเนินการเหมือนเดิม ก็พวกคุณนั่นแหละทำลายการท่องเที่ยวเองจะโทษใครละไม่พัฒนาจิตใจกันเลยเอาผลประโยชน์อย่างเดียว
    21 ต.ค. 2561 เวลา 04.24 น.
ดูทั้งหมด