คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
นัยน์ตาของสื่อมวลชนเพียงคู่เดียวเป็นตัวแทนให้คนเป็นล้าน โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือแม้ใครจะร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแท้ๆ แต่บางคนอาจไม่เข้าใจเหตุการณ์ บ้างก็ไม่รู้กฎ กติกา ไม่รู้ที่มาที่ไป อาจไม่ได้มองในมุมที่เป็นแง่สำคัญ สื่อมวลชนก็นำมาเล่าให้ฟัง ชี้ให้เห็น แจกแจงให้รับทราบ หรือแม้จะแสดงความเห็น มีบทวิเคราะห์ วิจารณ์พ่วงเข้าไปให้ผู้คนคล้อยตามแนวทางของตนก็ย่อมได้ อันนี้สื่อมวลชนเลือกข้างในประเทศที่เจริญพัฒนาและให้เสรีภาพกับประชาชนเขากระทำกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนรายงานนั้นต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง
การแข่งขันฟุตบอล ไทยลีก 2019 นัดรองสุดท้ายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่าง บุรีรัมย์ กับ การท่าเรือ มีความสำคัญกับ 2 ทีมในการคว้าแช้มพ์ รวมทั้ง เชียงราย ที่รอการก้าวพลาดของ บุรีรัมย์ เพื่อแซงขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูง วันนั้น การท่าเรือ บุกมาขึ้นนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 20 สถานการณ์ไม่ดีเลยสำหรับ เซราะกราว เพราะแค่ตีเสมอก็ไม่น่าจะเพียงพอ แม้จะยังมีคะแนนยืนจ่าฝูงเท่ากับ กว่างโซ้งมหาภัย ที่น่าจะเอาชนะคู่แข่งเก็บ 3 แต้มเต็ม เนื่องจากมี เฮ้ด-ทู-เฮ้ด เสียเปรียบ นอกจากนั้น เกมสำคัญที่นับเป็นแม็ทช์ 6 แต้มนี้ หาก การท่าเรือ สามารถรักษาสกอร์นี้ได้จนจบก็จะมีคะแนนเท่ากับ กว่างโซ้ง กลายเป็น 2 ทีมแย่งแช้มพ์ทันที โดยมี เซราะกราว มองดูตาปริบๆต้องเป็นฝ่ายรอให้ทั้งคู่ก้าวพลาดในนัดปิดฤดูกาลบ้าง
นาทีที่ 34 ความหวังในการคว้าแช้มพ์เริ่มกลับมาอยู่ข้าง บุรีรัมย์ หลังจาก น้าสเซอร บาราซิทเทอ (Nacer Barazite) ยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ วินาทีนั้น ยังไม่มีใครเห็นสิ่งที่ผิดสังเกต แต่อีกสักพักหนึ่ง ทางห้องควบคุมได้ตัดภาพการทำประตูนั้นมาฉายให้ชมอีกครั้ง ซึ่งมันเป็นฉ็อทจากด้านข้างสนามที่เห็นลายหญ้าเป็นเส้นขวางช่วยให้เห็นตำแหน่งดาวยิงชาวดั๊ทช์ว่ายืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอย่างชัดเจน แถมผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่กำกับเส้นก็ยืนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะสามารถเห็นการล้ำหน้าได้ แต่ไม่ยักมีการยกธง
สิ่งที่ผู้ชมทางโทรทัศน์ได้เห็นมันทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นลูกล้ำหน้า ซึ่งผู้บรรยายก็ได้เห็นพร้อมๆกัน และผมก็คาดหวังว่าผู้บรรยายจะพูดไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสายตาว่า จากภาพที่เห็นนั้น มันเป็นลูกล้ำหน้า แต่การตัดสินผิดพลาดไปแล้ว ซึ่งอาจมีการพูดให้อภัยทีมงานผู้ตัดสินก็ได้ว่า เนื่องจากผู้ช่วยผู้ตัดสินมีเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที มองไม่ทัน จึงไม่ได้ยกธง แต่สิ่งที่ผู้บรรยายกล่าวก็คือ “ อู้ว!!?! ” แล้วก็หยุดชะงักไปเลย ผมเข้าใจว่าคงไม่กล้าพูดต่อ ซึ่งก็ไม่ทราบจริงๆว่า เหตุใดจึงไม่กล้าพูด ไม่กล้าบรรยายในสิ่งที่เห็น ทั้งๆที่มันไม่ใช่การโกหกออกอากาศ แต่มันช่วยจรรโลงความถูกต้องต่างหาก
ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ยึดถือวัฒนธรรม วิถีชีวิตแบบสังคมไทย เชื่อในระบบจิ้มก้อง จ่ายเงินใต้โต๊ะ ระบบอุปถัมภ์พวกพ้อง ระบบเกรงใจบารมีคนใหญ่คนโต ผมไม่ได้พูดถึงมิติของการซื้อกรรมการ ซื้อผลสกอร์ ซื้อผู้บรรยาย เพราะบางครั้งมันไม่ต้องมีการซื้ออะไรกันหรอกครับ แต่ด้วยระบบคนใหญ่คนโต ระบบคนมีบารมี การเลี้ยงดูปูเสื่อ การเรียกมาใช้งาน ช่วยจ้างงาน มันอาจทำให้ใครบางคนคิดถึงประโยชน์ในวันข้างหน้า ดังนั้น จึงบังเกิดความเกรงใจ ไม่พูดซะดีกว่า
ในประเทศที่เจริญพัฒนา ผมไม่เคยเห็นผู้บรรยายกระทำตนแบบนี้ บางคนอดได้รับการสนับสนุนเพราะไม่ยอมพูดผิดให้เป็นถูก บางคนรู้ตัวว่า เจ๊งแน่ถ้าไม่ตัดเพื่อนร่วมงานปากสว่างออกไป เพราะผู้สนับสนุนรายใหญ่ขอมา แต่ก็ไม่ยอมทำตาม แต่ในประเทศไทยยังมีสิ่งเหล่านี้ครอบงำอยู่ทุกวงการ ระบบอุปถัมภ์ ระบบพวกพ้อง ความเกรงใจคนใหญ่คนโต ความคาดหวังในประโยชน์ในวันข้างหน้า มากกว่าความถูกต้อง นอกจากไม่ได้ช่วยพัฒนาให้ดีขึ้น มันกลับช่วยทำลายเสียอีก สำหรับเรื่องการบรรยายเกมที่ผ่านมา ถ้าด้วยความกลัวเกรงความใหญ่โต ผมก็ว่า ใจแมวไปหน่อย แต่ถ้าทำไปด้วยหวังในผลประโยชน์ในวันข้างหน้า อันนั้น ใจหมา ครับ
พจน์ ผมมองว่ากรรมการผิดปกติ ตั้งแต่แจกใบเหลืองท่าเรือง่ายไปหน่อย
23 ต.ค. 2562 เวลา 05.57 น.
Ake ยอดคนดูไทยลีกตกลงเรื่อยๆ คงอยู่ได้อีกไม่นาน ทีมต่างๆคงทยอยกันยุบทีม เหลือเพียงทีมเดียวคือบุรีรมย์ยอดนิยมตลอดกาล
23 ต.ค. 2562 เวลา 05.57 น.
tain จิงคับเกมววันนั้นผมก็ดูผู้บรรยายคงกัวใครบางคนพูดไม่เต็มปากน่าสงสาร
23 ต.ค. 2562 เวลา 05.18 น.
satjanat อ่านข่าวเพลินๆ ป้าขจัดหงอกโผล่มาทีไรตกใจทุกที
23 ต.ค. 2562 เวลา 05.05 น.
Ta Lerm ผมอยากได้แช้มจิงๆคับ
ผมต้องทำทุกวิถีทางคับ
23 ต.ค. 2562 เวลา 06.08 น.
ดูทั้งหมด