5 เม.ย.63- พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รองผบช.ก.) โพสต์เฟซบุ๊ก Torsak Sukvimol อยากให้อ่านมากๆเลยครับ บ้านเราน่าอยู่ที่สุด เรากำลังต่อสู้กับไวรัสว่ายากแล้ว เราอย่าต่อสู้กันเองเลย เราต้องผ่านไปด้วยกันครับ ผมเข้าใจทางหน่วยงานรัฐ ถึงมีเงินก็หาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่ได้ครับ มันระบาดทั่วโลก และทั่วโลกต้องการมันเหมือนกัน มันจึงขาดแคลนหมด
โควิทมันสอนให้เราเห็นธาตุแท้ของคน
ถอดคำพูดของเพื่อนคนไทยที่อยู่อังกฤษ…คนหนึ่งอยู่ตอนเหนือของอังกฤษ ที่ได้คุยกันวันก่อนโคตรน่าสงสาร ตอนนี้เป็นPanic attack บวกโรคเครียดไปแล้ว……
“…ดีแล้ววววววว ที่มึงยังได้อยู่ในบ้านเรา… ตอนนี้ภาวนาสวดมนต์อย่างเดียวเลยกู อย่าให้ติด…เพราะถ้าติดอาการมึงต้องหนักมากๆ ไอจนมึงพูดไม่เป็นภาษาคน เค้าถึงจะรับ… แต่ถ้าติดไวรัสจริงแต่อาการไม่หนักเค้าให้รักษาตัวเองอยู่บ้าน… มึงก็รู้ความยากของการเจอหมอของที่นี่… กูนอนไม่หลับเลย พอค่ำมาเมืองทั้งเมืองเงียบกริบ มันเครียดอยู่ลึกๆ อยากกลับบ้าน……”
“…ยังไงหมอพยาบาลที่บ้านเราก็ยังดูแลดีกว่าที่นี่ กูยังจำที่มึงเคยมาหาหมอกระดูก มึงเล่าว่านอนรอหน้าห้องตรวจรอหมอ12ชม. ตอนนี้รอบตัวติดกันเยอะมาก ฝรั่งแม่งจากที่มันไม่แคร์เหี้ยอะไร เอะอะไปผับ เอะอะ ปาร์ตี้ ตอนนี้เพื่อนตายเพื่อนหายไปเยอะ ถึงเริ่มกลัว นี่มีคนไทยที่รู้จักเสียไปวันก่อน ไม่แน่ใจว่าโควิดมั้ย ยังไม่รู้ผลเหี้ยไรเลย เก็บศพรวมกันหมด กูอยากกลับบ้านที่สุด ติดยังไงรักษาที่นั้นก็ดีกว่า……”
“……ลำบากมากตอนนี้…ของกินของใช้ต้องตุน มึงรู้มั้ย คิวลงทะเบียนชอปปิ้งทุกซุปเปอร์ อาทิตย์แรกๆพันสองพันคิว ตอนนี้ กว่าจะลงได้คิวรอเป็นแสนกว่าคิวที่ ลงทะเบียนแล้ว รอแจ้งกว่ามึงจะได้สั่งของ กว่าของจะมา คิวรอของมาส่งถึงสามอาทิตย์ ชีวิตมึงต้องคิดล่วงหน้า จะซื้ออะไร อะไรหมดต้องเผื่อไว้ รอสามสี่อาทิตย์กว่าของจะมา จะออกไปซื้อของก็ไม่มี ออกไปแม่งก็เสี่ยง หยิบจับห่าไรนอกบ้านกูเป็นโรคจิตไปหมดแล้ว บ้านเราดีฉิบหาย อ่านข่าวแล้วกูอิจฉารู้สึกว่าหมอคนไทยโคตรเก่งเลย อยู่ใกล้จีนแต่ตัวเลขขึ้นช้า เป็นไงกูอยู่ไกลกว่าจีน ตายห่าไปกี่พันแล้ว คนไทยยังสิบกว่าอยู่เลย วันก่อนตายไป5ร้อยกว่าวันเดียว
“……กูแทบไม่อยากอ่านข่าวฟังข่าวบีบีซีเลย…กูนอนไม่หลับ ถึงหลับความรู้สึกเหมือนตกเหวทุกๆคืน…… นั่งสมาธิสวดมนต์ยังไงก็ช่วยเรื่องใจไม่ได้มาก เพราะรอบบ้าน รอบข้างมันติดกันเยอะ ระแวงไปหมด…ดีที่ไม่ได้อยู่ในลอนดอน……”
ไม่มีอะไรพูดมากไปกว่า…ฟังอยากเดียวเลย ให้เพื่อนได้ระบายสุดท้ายพูดได้แค่ว่า ”รักษาตัวดีๆนะ…มึงต้องอยู่อย่างมีความหวังและต้องรอดเท่านั้น”
ฟังแล้วก็จิตตกไปตามมันเลย… ถ้าใครไม่เคยไปใช้ชีวิตนานๆที่ต่างประเทศ คุณไม่รู้หรอกว่าประเทศเราถึงจะเหี้ยจะโกงจะส้นตีนอะไรแต่ยังไง เราก็ยังเป็นคนชนชั้นหนึ่ง มีสิทธิ์ มีตัวตน บ้านเรายังมีศีลธรรม จริยธรรม และมีน้ำใจเสมอเวลาเกิดวิกฤติ ยิ่งเจ็บป่วยในต่างบ้านต่างเมือง ลำบากที่สุดในชีวิต อย่าบอกนะว่าเคยไปอยู่ เรียนแค่ปีสองปีอย่าพูดเลย ยังไม่เข้าใจ เข้าถึงการเป็นคนชนชั้นสองชั้นสามของบ้านเมืองเค้าหรอก ไม่มีที่ไหนดีเท่าแผ่นดินนี้อีกแล้ว 8ปีของฉัน…ในต่างแดน มันทำให้รักและเห็นคุณค่าที่ได้เกิดเป็น”คนไทย”
วิกฤตนี้จะรอดได้ต้องช่วยกัน พร้อมใจกัน วิกฤตนี้ทำให้ได้เห็นข้างในใจแต่ละคน มีทั้งพยายามช่วย บ้างพยายามขวาง นี่ไง…กรุงศรีถึงแตก เพราะมีคนเปิดประตูให้ข้าศึก ทำตัวแปลกแยกและเนรคุณแผ่นดินอยู่ในทุกยุคทุกสมัย……!!!
เรากำลังต่อสู้กับไวรัสว่ายากแล้ว อย่าต้องต่อสู้กันเองเลย…!!!
เหยี่ยวปีศาจ เหมือนจะเขียนดี แต่คงลืมไปว่าไม่มีประชาชนคนไหนเปิดผระตูเมืองให้ข้าศึกนะเท่าที่ดรียนมา
05 เม.ย. 2563 เวลา 10.07 น.
N.K.Asia consultants ชัดเจน
05 เม.ย. 2563 เวลา 09.36 น.
โยเดีย กรุงศรีแตกเพราะผู้นำมัวเมาในอำนาจในกามารมณ์ ผู้มีอำนาจต่างคนต่างกอบโกย โกงกิน ประชาชนเลยต้องทิ้งเมืองหลวงไปตายเอาดาบหน้า รอหาผู้กล้าที่จะมากอบกู้แบบพระเจ้าตากไง
05 เม.ย. 2563 เวลา 09.24 น.
..Melisa.. เหนด้วยค่าา..
คนบางคน..บางกลุ่ม ชอบป่วน แทนที่จาเหนใจกัน ช่วยกัน..ชาติที่แร้วคงเกิดในยุคกรุงศรี..นิสัยเรยตามมายุคนี้
05 เม.ย. 2563 เวลา 09.21 น.
แป๊ะ เห็นด้วยคับมากๆเลย อยากให้พวกที่ได้อ่านเข้าใจด้วยคับ ไม่ใช่ขัดแย้งหรือด่าอย่างเดียว
05 เม.ย. 2563 เวลา 09.12 น.
ดูทั้งหมด