ทั่วไป

เทพีเสรีภาพ เข้าใจที่มา-หลักปรัชญา ในวันมีดราม่าคนไทยเลียนแบบ

ประชาชาติธุรกิจ
อัพเดต 01 มิ.ย. 2564 เวลา 06.14 น. • เผยแพร่ 31 พ.ค. 2564 เวลา 11.57 น.

เมื่อบล็อกเกอร์ชื่อดังแปลงโฉมเลียนแบบ “เทพีเสรีภาพ” ในสหรัฐอเมริกา นอกเหนือจากดราม่าเรื่องความเหมาะสม-ให้เกียรติสถานที่ ลองมาทำความรู้จัก ที่มา-หลักปรัชญา ที่แฝงบนงานศิลปะขนาดมหึมาชิ้นนี้กัน 

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลเกิดดราม่าขึ้นอีกแล้ว เมื่อบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง “นัทสะบัดแปรง” หรือ “นัท นิสามณี” ซึ่งลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลไปสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมเชียร์ “อแมนด้า ออบดัม” ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2020 ทั้งยังถือโอกาสไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เจ้าตัวได้ทำคอนเทนต์ด้วยการแปลงโฉมตัวเองเป็น “เทพีเสรีภาพ” ลงทุนเพนต์สีฟ้าตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่งองค์ทรงเครื่องไม่ต่างจากต้นแบบ ก่อนไปยืนอวดโฉมย่านไทม์สแควร์ สร้างความตื่นเต้นให้ชาวอเมริกันที่เดินผ่านไปมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเผยแพร่ภาพที่ “นัท” พยายามเลียนแบบหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของอเมริกา ชาวเน็ตบางส่วนถึงกับทนไม่ได้ จวกว่าเธอแต่งตัวไม่ให้เกียรติสถานที่บ้าง อวดรวยบ้าง ที่เด็ดสุดคือมีคนเข้ามาถามว่า “ใครก็แต่งเป็นเทพีเสรีภาพได้หรือ?” ซึ่ง “นัท” ก็ตอบกลับว่า “ลองเปิดเน็ตดูเยอะๆ น้า มีคนไทยนี่แหล่ะที่ห้ามแต่งนั่นนี่ นอกประเทศเขาไปไหนแล้ว จุ๊บๆ”

ด้านเพจเฟซบุ๊ก พุทธที่แท้จริง แสดงมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “นี่คือตรรกะความคิดของคนไทยกลุ่มหนึ่ง ที่มักเอาตรรกะของตนไปใช้กับทุกมุมโลก โดยไม่ได้มองถึงความเป็นจริงเลยว่า ไม่ใช่ทุกคนบนโลกจะอุปโลกน์ว่ารูปปั้นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นี่ถ้าอยู่ที่ไทย โดนผ้าสามสีพันรอบ พร้อมเซ่นน้ำแดงไปแล้ว”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ข้อความของเพจดังกล่าวสร้างความถูกอกถูกใจให้กับชาวเน็ต มีการแชร์โพสต์ดังกล่าวมากกว่า 15,000 ครั้ง ภายในเวลา 7 ชั่วโมง

นอกเหนือจากดราม่าร้อน ๆ “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ “เทพีเสรีภาพ” เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจที่มา-ปรัชญา จากรูปหล่อโลหะสำริดขนาดมหึมา ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่คนรู้จักมากที่สุดในโลก และในปี พ.ศ.2537 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สร้างรายได้ให้กับหน่วยงานและภาคเอกชนในนิวยอร์กมหาศาล

ของขวัญจากฝรั่งเศสมอบให้อเมริกา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หลายคนคิดว่าเทพีเสรีภาพ ที่ยืนเด่นบนเกาะเล็ก ๆ ในอ่าวนิวยอร์กนั้น เมดอินอเมริกาแน่ ๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น… พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก เขียนในคอลัมน์ ภาพเก่า..เล่าตำนาน : อนุสาวรีย์นี้…ท่านได้แต่ใดมา? เมื่อปี 2560 ว่า งานศิลปะที่สง่างาม ยิ่งใหญ่ มีคุณค่าทางจิตใจชิ้นนี้ เป็นของขวัญที่ประชาชนฝรั่งเศสพร้อมใจกันออกแบบ สร้าง และมอบให้ชาวอเมริกันเป็นของขวัญ

ในภาษาอังกฤษเรียกอนุสาวรีย์แห่งนี้ว่า Statue of Liberty เดิมเรียกกันว่า Liberty Enlightening the World ตั้งอยู่ ณ ตอนใต้ของเกาะลิเบอร์ตี้ (Liberty) อ่าวนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งประชาชนชาวฝรั่งเศสมอบให้แก่ชาวอเมริกัน ในโอกาสที่อเมริกาเฉลิมฉลองวันชาติครบ 100 ปี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2419

ย้อนไปเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ.2408 ที่เมืองกลาติญี่ โมแซล ประเทศฝรั่งเศส คณะกรรมการฟรังโก-อเมริกัน จัดการประชุมและมีมติจะออกแบบจัดสร้างอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพให้แก่ชาวอเมริกันที่สร้างชาติมาครบ 100 ปี โดยมีนายเอดดูวาด เดอ ลาบูลาเย เป็นประธาน คณะทำงานออกเดินทางไปยังสหรัฐเพื่อศึกษาความต้องการและความเป็นไปได้ ข้อตกลงในขั้นต้นคือ ฝ่ายอเมริกันเจ้าของบ้านจะรับผิดชอบส่วนที่เป็นฐานของอนุสาวรีย์ ฝรั่งเศสจะรับผิดชอบเรื่องรูปหล่อซึ่งจะจัดทำในฝรั่งเศส

สถาปนิกหนุ่มฝรั่งเศสไฟแรงชื่อ เฟรเดอริก ออกุสต์ บาร์ทอลดี รับอาสาออกแบบของขวัญชิ้นนี้ให้ยิ่งใหญ่อลังการ เป็นหนึ่งเดียวในโลกและต้องสื่อความหมายถึงเสรีภาพ อิสรภาพ

บาร์ทอลดี เริ่มงานของสถาปนิกในปารีส โดยใช้มารดาของเขาเป็นนางแบบ เริ่มด้วยทำรูปจำลองด้วยปูนปลาสเตอร์สูง 9 ฟุต 1 รูป และสูง 36 ฟุต อีก 1 รูป ในที่สุดก็สามารถกำหนดสัดส่วนของเทพีแห่งเสรีภาพได้ ตัวอนุสาวรีย์ก่อสร้างขึ้นด้วยโลหะผสมทองแดงกับเหล็กเพื่อความแข็งแกร่ง ในการนี้ต้องตีแผ่นทองแดงมากกว่า 300 แผ่น น้ำหนักรวม 90 ตัน

ฝ่ายอเมริกันก็เริ่มงานสร้างฐานอนุสาวรีย์ไปพร้อมกัน โดยได้เลือกสถานที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์นี้ที่เกาะเบดโล เมื่อ พ.ศ.2424 แต่เมื่องานก่อสร้างเริ่มขึ้น โครงการต้องหยุดชะงักไประยะหนึ่งเพราะขาดเงินสนับสนุน แต่ต่อมา นายโจเซฟ พูลิตเซอร์ บรรณาธิการผู้มีชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กเวิลด์ ได้รณรงค์หาทุนให้ ทำให้งานก่อสร้างรากฐานสำเร็จลุล่วงในปลายปีนั้น

เริ่มงานในปี พ.ศ.2419 สำเร็จลุล่วงในปี พ.ศ.2427 หลังงานรูปหล่อเทพีเสรีภาพประกอบแล้วเสร็จยังถูกนำไปตั้งแสดงในสวนกลางกรุงปารีสอีก 1 ปี ก่อนที่จะถอดประกอบแล้วนำใส่เรือไปนิวยอร์กในปี 2428

ความใหญ่โตของตัวอนุสาวรีย์ทำให้ต้องแยกส่วนเป็นชิ้น ๆ ลงเรือแล้วมาประกอบขึ้นใหม่ที่อเมริกา มีชิ้นส่วนรวมทั้งหมด 350 ชิ้น และนำมาประกอบขึ้นใหม่โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน แต่ส่วนฐานพบว่ามีการสร้างเสร็จในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2429

หลักปรัชญาที่แฝงในเทพีเสรีภาพ

สถาปนิกฝีมือขั้นเทพของฝรั่งเศสใช้หลักปรัชญาและรูปแบบการแต่งกายของเทพเจ้า (ผู้หญิง) ของโรมัน เป็นแนวคิดในการออกแบบ ร่างกายของเทพีเสรีภาพห่มด้วยเสื้อคลุมจรดปลายเท้า มือขวาชูคบเพลิง มือซ้ายถือแผ่นจารึกคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐ และมีอักษรสลักว่า “JULY IV MDCCLXXVI” หรือวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ.1776 ข้อเท้าข้างหนึ่งของเทพีมีโซ่เหล็กที่ขาดออก มีความหมายว่าหลุดพ้นจากการเป็นทาส มีอิสรภาพ เสรีภาพ

เทพีเสรีภาพถูกออกแบบให้สวมมงกุฎ 7 แฉก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทวีปทั้งเจ็ด เทพีมีรูปร่างสง่างามภายในตัวอนุสาวรีย์มีบันไดวนรวมทั้งสิ้น 167 ขั้น เกิดขึ้นตามแนวคิดของเอดูอาร์ด เดอ ลาบูลาเย นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส เพื่อระลึกถึงความสัมพันธ์ของสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสระหว่างการปฏิวัติอเมริกัน

ส่วนฐานของอนุสาวรีย์สร้างโดยสหรัฐอเมริกา จารึกโคลงซอนเนต์ของกวีชาวอเมริกัน เอมมา ลาซารัส ซึ่งมีเนื้อหาต้อนรับผู้อพยพที่เข้าอยู่มาในอเมริกา ซึ่งย้อนหลังไปราว 200 ปี คนจากทั่วโลกโดยเฉพาะชาวยุโรปที่ต้องการเสรีภาพ อิสรภาพแห่กันลงเรือมุ่งหน้าสู่แผ่นดินที่เรียกกันว่า “โลกใหม่” (New World) เพื่อไปตั้งรกราก จับจองพื้นที่ทำมาหากินในดินแดนที่กว้างใหญ่สุดขอบฟ้า สร้างชาติ สู้รบ แล้วรวมดินแดนขึ้นมาใหม่เรียกว่า สหรัฐอเมริกา

ดูข่าวต้นฉบับ