ย้อน21ปี'สมพงษ์ เลือดทหาร' ต้นตำนาน'ฮีโร่'ผู้'ลวงโลก'

กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เมื่อ "พีท" พ่อค้าหวยใน จ.สมุทรสาคร ที่โด่งดังจากความซื่อสัตย์ กรณีเก็บหวยถูกรางวัล 90 ล้านไว้ให้เจ้าของมารอรับ ได้ออกมายอมรับแล้วว่า เหตุการณ์มีพูดถูกหวย 90 ล้าน เป็นเหตุการณ์ลวงโลก แค่ตัดต่อภาพไปเท่านั้น ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับพีท ด้านเจ้าตัวปิดบ้านพัก ร้านขายหวยเงียบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น   ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว หลายฝ่ายได้ย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2540 หรือประมาณ 21 ปีที่ผ่านมา กรณีของ "สมพงษ์ เลือดทหาร" คนขับแท็กซี่ที่อ้างว่าเก็บกระเป๋าเงิน 20 ล้านบาทของนักธุรกิต่างชาติได้ แล้วนำส่งคืนเจ้าของ จนกลายเป็นบุคคลโด่งดังมีชื่อเสียงในความใจซื่อมือสะอาด แม้เป็นคนระดับรากหญ้า มีอาชีพแค่ขับแท้กซี่หาเช้ากินค่ำ ทำให้ผู้คนต่างพากันสรรเสริญในความซื่อสัตย์ ไม่คิดเอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ก่อนที่จะถูกแฉว่าเรื่องทั้งหมดคือการ "แหกตา" คนทั้งชาติ! เหตุการณ์เริ่มต้นจากมีผู้อ้างว่าเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบินดอนเมือง โทรศัพท์มาที่คลื่นวิทยุที่เกี่ยวกับการรายงานสังคมและสภาพการจราจร ระบุว่า มีแท็กซี่พลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงิน 20 ล้านบาท และทรัพย์สินต่างๆ มาส่งคืนให้กับเจ้าของ ซึ่งเป็นนักธุรกิจต่างชาติที่สนามบิน จึงมีการประกาศตามหาตัวแท็กซี่พลเมืองดีคนดังกล่าว พร้อมทั้งมีเสียงชื่นชมจากทุกภาคส่วนของสังคมเป็นจำนวนมาก 

  จากนั้น นายสมพงษ์ เลือดทหาร ได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมาที่รายการ โดยระบุว่า ตนคือแท็กซี่พลเมืองดีดังกล่าว พร้อมเล่าเหตุการณ์เป็นฉากว่าๆ ได้รับผู้โดยสารชาวฝรั่งเศส พร้อมด้วยกระเป๋าใหญ่และกระเป๋าถือที่โรงแรมย่านสุขุมวิท ไปส่งที่สนามบินดอนเมือง พอรับผู้โดยสารคนใหม่ก็ทราบว่า ผู้โดยสารต่างชาติคนเก่าลืมสัมภาระไว้เปิดออกมาเป็นเงินถึง 20 ล้านบาทจึงรีบนำส่งคืน ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีบรรดานักการเมืองหลายท่าน รวมถึงสื่อมวลชน ต่างยกย่องสรรเสริญการกระทำของ นายสมพงษ์ มีการมอบรางวัลเกียรติคุณต่างๆ รวมทั้งเชิญ นายสมพงษ์ พร้อมครอบครัว เดินสายออกรายการโทรทัศน์ สัมภาษณ์ถึงวินาทีการทำความดีในครั้งนี้ แต่ก็ไม่วายที่ชาวเน็ตในขณะนั้นที่ถึงแม้โลกออนไลน์จะยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่เว็บบอร์ดดังแห่งหนึ่ง เริ่มตั้งข้อสงสัย โดยการกล่าวอ้างของ นายสมพงษ์ ไม่มีหลักฐานใดมายืนยันการกระทำแบบชัดเจน

  ต่อมา พล.ต.ต.กว้าง ชาญศิลป์ ผู้กำกับการตำรวจท่องเที่ยวในขณะนั้น ได้เปิดกล้องวงจรปิดดูในช่วงเวลาที่ นายสมพงษ์ กล่าว กลับไม่พบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สุดท้ายเจ้าตัวจึงจนมุม ยอมรับว่าเป็นผู้กุเรื่องราวนี้ทั้งหมด ตั้งแต่การโทรศัพท์ไปเล่าเหตุการณ์กับทางรายการวิทยุ และโทรศัพท์สมอ้างว่าเป็นแท็กซี่พลเมืองดี ท้ายที่สุดถูกศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี ข้อหาฉ้อโกงประชาชน แต่ให้การรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน พร้อมทั้งคืนเงิน และรางวัลต่างๆ ที่ได้รับทั้งหมด จนตอนนี้เจ้าตัวได้กลับมาประกอบอาชีพสุจริตทำสวนกุ้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ รวมถึงเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งตามร้านอาหารอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นายสมพงษ์ ได้ชดใช้ความผิดจากการมีพฤติการณ์เป็น "เด็กเลี้ยงแกะ" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลับมาหากินเยี่ยงสุจริตชนในปัจจุบัน ดังนั้นการนำเรื่องของ นายสมพงษ์ มาเสนอซ้ำ ไม่ได้มีเจตนาจะซ้ำเติมแต่อย่างใด แต่เป็นการนำเหตุการณ์มาย้อนให้เห็นถึงภัยของการสร้างเรื่องเท็จ แม้บางทีคนกุเรื่องอาจจะมองว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่พิษภัยที่ตามมานั้นบางครั้งกลับใหญ่หลวงส่งผลกระทบต่อชีวิตถึงขั้นพลิกฝ่ามือ ดังเช่นกรณีของ นายสมพงษ์ เลือดทหาร และล่าสุดกรณีพ่อค้าหวย 90 ล้านลวงโลก ที่เริ่มเรื่องด้วยการเป็น "ฮีโร่" แต่จบเรื่องกลายเป็นคน "ลวงโลก".   อ่านข่าวทั้งหมดของ หวย 90 ล้าน ได้ที่นี่…