ทั่วไป

วงเสวนาแนะคนรุ่นใหม่ทวงสิทธิกำหนดอนาคตตัวเอง-ไอติมยี้นายกฯคนนอก

Khaosod
อัพเดต 18 ส.ค. 2561 เวลา 13.09 น. • เผยแพร่ 18 ส.ค. 2561 เวลา 13.09 น.

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย จัดเสวนาวิชาการ “การเมืองกับคนรุ่นใหม่” ขึ้น โดยมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายชวน ชูจันทร์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วม

นายวราวุธ กล่าวว่า บทบาททางการเมืองของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน มีปัญหาคือถูกผู้ใหญ่บางกลุ่มจำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่พร้อมที่จะเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออก ดังนั้นการแก้ปัญหา คือผลักดันให้เกิดการเลือกตั้ง เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีอนาคตกำหนดทิศทางของตนเอง ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้เปลี่ยนให้ซีอีโอเป็นคนรุ่นใหม่ แต่บอร์ดยังจะมีผู้ใหญ่ในพรรคที่มีประสบการณ์ ต้องผสมผสานการทำงานร่วมกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“การเดินไปข้างหน้าในพรรคชาติไทยพัฒนา จะมีคนรุ่นใหม่เป็นผู้กำหนด ไม่ใช่ผู้ใหญ่ออกคำสั่ง แต่คำแนะนำของผู้ใหญ่ในพรรคถือเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนพรรคไปข้างหน้า เรายังต้องเคารพ หากพรรคมีโอกาสทำงานการเมืองจะเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ทำงานร่วมกัน” นายวราวุธ กล่าว

ด้านนายธนาธร กล่าวว่า คนรุ่นใหม่ต้องสร้างพื้นที่และออกมาทวงสิทธิต่อการกำหนดทิศทางและอนาคตของตนเอง รวมถึงผลักดันประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพราะตนมองว่าใน 20 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการเปลี่ยนผ่านการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาแล้วถึง 3 ครั้ง เยาวชนไม่มีโอกาสกำหนดอนาคตของตนเอง ล่าสุดอนาคตของคนรุ่นใหม่ ถูกกำหนดและออกแบบโดยคนกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นเพื่อให้อนาคตของคนรุ่นใหม่ เป็นของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ความชอบธรรมอยู่ที่คนรุ่นใหม่ต้องแสดงจุดยืนว่าเราพอแล้วกับสิ่งเหล่านี้ กับการออกแบบอนาคตไว้ล่วงหน้า แต่ที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ยังประสบปัญหาเรื่องการใช้สิทธิเสรีภาพและการแสดงออก

“มาวันนี้ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องอื่น สิ่งสำคัญคือเราต้องพูดให้ชัดก่อนว่าจะไม่เอาระบอบเผด็จการอีก ถามว่าในแบบเรียนของพวกคุณมีเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือพฤษภา 35 หรือไม่ ผมเชื่อว่าพวกคุณไม่รู้จัก เพราะเขาพยายามลบความทรงจำพวกคุณ นี่เป็นความจงใจลบประวัติศาสตร์ออกไป หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แทนที่จะใช้เพื่อป้องกันเหตุทางโลกไซเบอร์ กลับกลายเป็นเครื่องมือปิดปากคนเห็นต่าง อำนาจทางการเมืองผูกขาดอยู่กับชนชั้นนำ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชี้ขาดว่าประเทศจะไม่มีการรัฐประหารอีก” นายธนาธร กล่าว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ถามว่าคนรุ่นใหม่ที่เราต้องการหมายถึงอะไร ตนคิดว่าหมายถึงแนวคิดใหม่ๆ บริบทของสังคมไทยขณะนี้คาดหวังกับคนที่อายุน้อย เพราะคิดว่ามีศักยภาพในการทำงาน คนรุ่นใหม่ต้องโดดเด่น และเสมอภาค ต้องไม่เอาคนรุ่นใหม่มาขัดแย้งกับคนรุ่นเก่า แต่เราต้องทำงานร่วมกัน เพื่อไม่ให้เดินผิดซ้ำรอย ส่วนปัญหาหรืออุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของคนรุ่นใหม่นั้น ตนมองว่าคือความเป็นเผด็จการที่ปิดกั้นการแสดงออกทางการเมือง การจำกัดสิทธิ์สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพราะยังไม่มีการปลดล็อกเรื่องดังกล่าว ดังนั้นต้องกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เพียงแค่การเลือกตั้งอย่างเดียว แต่ต้องแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ต้องไม่มี ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งและได้สิทธิ์เลือกนายกฯ เหล่านี้คือพื้นฐานการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 14
  • ไม่ใช่เวลานี้ กรุณาดูกาลเทศะด้วย
    18 ส.ค. 2561 เวลา 18.33 น.
  • joe55
    อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่ถามว่ามีกี่เปอร์เซนแล้วคนรุ่นโตกว่าเด็กกว่าพวกคุณจะไปกำหนดแนวทางชีวิตเค้าหรือมันก็แค่ความคิดที่อ่อนต่อโลกคนที่คุณว่าเค้าเป็นไดโนเสาร์เมื่อ40ปีที่แล้วเค้าก็คือคนรุ่นใหม่มีความคิดตามสมัยนิยมเหมือนกันอย่ามาอ้างโน่นนี่เพื่อเข้าข้างตัวเอง​ พวกคูณมันก็ไอ้เด็กเลือกข้าง
    18 ส.ค. 2561 เวลา 17.49 น.
  • Honeymamee
    ทำไมถึงอยากมาบริหารประเทศกันนัก เพราะรักษาผลประโยชน์ของชาติ หรือ อยากได้ผลประโยชน์ของชาติกันแน่ ประชาชนไม่รู้หรอกว่าประเทศมีขุมทรัพย์ตรงไหนบ้าง คนที่มาบริหารประเทศเท่านั้นถึงจะได้รับรู้ ถ้ารู้แล้วทำเพื่อคนทั้งประเทศก็น่าสนับสนุน แต่มันรู้แล้วงุบงิบอุบอิ๊บแค่พวกมันกันน่ะสิ อย่างน้ำมันเป็นต้น ขุดเจอตรงไหนบ้างกี่บ่อ ให้สัมประทานใครบ้าง ประชาชนไม่มีทางรู้ รวยกระจุกแค่พวกพร้องญาติพี่น้องนักการเมือง แต่ประชาชนทั้งแผ่นดินจนกระจาย
    18 ส.ค. 2561 เวลา 17.40 น.
  • คุณชาญ
    สิ่งที่พูดแสดงความคิดเห็นกันออกมาทั้งหมดดีและถูกต้อง แต่ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะสังคมไทยเราปัจจุบันนี้ถูกกลุ่มที่มีอำนาจร่วมมือกับนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองทำให้คนในชาติแตกแยกและขาดความสามัคคีเป็นยุทธศาสตร์แบบแบ่งแยกแล้วปกครอง ทำให้สังคมขาดความสามัคคีและพลังในการผลักดันสิ่งดีต่างๆที่วงเสวนาพูดกันมา เพราะเหลืองกับแดงถูกเสี้ยมและล้างสมองจนยากที่จะยอมรับกันและกันได้ รออย่างเดียวว่าเมื่อไหร่คนไทยตาสว่างและมองเห็นประโยชน์ของชาติร่วมกันมากกว่าอคติของแต่ละคน เมื่อนั้นจึงจะเริ่มมีความหวังได้
    18 ส.ค. 2561 เวลา 17.20 น.
  • S. NARAWADEE
    เปิดตัวทายาท..... อสูรตัวใหม่หรือครับ
    18 ส.ค. 2561 เวลา 17.12 น.
ดูทั้งหมด