“หมอเปรม” กลับคำให้การศาลอุทธรณ์ สารภาพผิดแก้ผ้านักข่าวจริง

วันที่ 22 ก.ค. 62 นายปกาญจน์ นพศรี ทนายความฝ่ายโจทก์เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น ได้ส่งหนังสือมายังฝ่ายโจทก์โดยแจ้งว่า นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง โลขันธ์ อดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอรับสารภาพผิดตามฟ้องตลอดข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 24 ม.ย.62 และให้ยกเลิกหมายนัดการฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ในวันที่ 22 ก.ค.62 โดยการรับสารภาพผิดตามฟ้องเป็นการับสารภาพในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งคดีนี้ได้มีการสืบพยานจนครบแล้วจึงมีความเป็นไปได้ว่าการรับสารภาพของ นพ.เปรมศักดิ์ อาจเป็นการรับสารภาพเพื่อหวังให้โทษลดลง

คดีนี้ศาลจังหวัดพล ได้พิพากษาตัดสิน เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.61 ให้จำคุก นพ.เปรมศักดิ์ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง ที่ 2 ตามความผิดฐานกระทำอนาจารและความผิดต่อเสรีภาพให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญาซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ศาลจังหวัดพล ก็จะส่งเรื่องกลับไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพื่อวินิจฉัยตามขั้นตอนจากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 4 ก็จะส่งคำวินิจฉัยกลับมายังศาลจังหวัดพล เพื่อนัดฝ่ายโจทก์และจำเลย มาฟังคำตัดสินอีกครั้งซึ่งจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งโดยผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2559 โดยผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่นได้ติดตามทำข่าวกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดียเป็นภาพ นพ.เปรมศักดิ์ นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5 คล้ายพิธีหมั้นหรือพิธีมงคลสมรสของภาคอีสาน ผู้สื่อข่าวทั้งหมดจึงได้ขอพบและสัมภาษณ์ นพ.เปรมศักดิ์ ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นอย่างมาก ก่อนที่จะให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักเข้าไปภายในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่เมื่อผู้สื่อข่าวทั้งหมดเข้าไปในห้องกลับถูก นพ.เปรมศักดิ์สั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลฯเก็บโทรศัพท์มือถือกล้องถ่ายภาพของผู้สื่อข่าวทั้งหมดพร้อมล็อคตัวนายก่อสิทธิ์กองโฉมผู้สื่อข่าวอาวุโส 1 ใน 5 ผู้สื่อข่าวแก้ผ้าประจานโดยต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าแจ้งความเอาผิด นพ.เปรมศักดิ์พร้อมพวก

และเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.61 ที่ผ่านมาศาลจังหวัดพล ได้พิพากษาตัดสินจำคุก นพ.เปรมศักดิ์ จำเลยที่ 1 และร.ต.บัวทองที่ 2 ตามความผิดฐานกระทำอนาจารและความผิดต่อเสรีภาพให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือนโดยไม่รอลงอาญาโดยให้เหตุผลว่าจำเลยที่ 1 และ 2 นั้นมีหน้าที่การงานที่ดีมั่นคงเป็นผู้นำท้องถิ่นและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงแต่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกับผู้อื่นอีกอีกทั้งเพื่อให้เป็นตัวอย่างต่อสาธารณชนซึ่งหลังฟังคำตัดสินของศาลทางทนายของ นพ.เปรมศักดิ์และร.ต.บัวทอง จะยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวและยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีก่อนที่ศาลจังหวัดพล จะนัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในวันที่ 11 มิ.ย.62 และเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 22 ก.ค.62 แต่ท้ายที่สุด นพ.เปรมศักดิ์และ ร.ต.บัวทอง กลับยื่นคำร้องขอรับสารภาพผิดตามฟ้องตลอดข้อกล่าวหาตามที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาไปก่อนหน้านี้