ไลฟ์สไตล์

"ฝากไข่"เทรนด์สาวรุ่นใหม่เตรียมมีลูกในอนาคต

คมชัดลึกออนไลน์
เผยแพร่ 21 ก.ค. 2562 เวลา 02.00 น.

ชีวิตสาวยุคใหม่ที่ปัจจุบันกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี ปริญญาโท หรือบางคนเรียนต่อปริญญาเอกเข้าไปอีก บวกกับเวลาทำงานสร้างฐานะจนมั่นใจว่าพอจะดูแลสมาชิกตัวน้อยได้อย่างไม่ลำบาก อายุก็เรียกได้ว่าเลยไปไกลจนหลักสี่.. ดอนเมือง.. รังสิต.. วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับการ"ฝากไข่" นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้สาวๆ อุ่นใจมีลูกได้แม้อายุมากขึ้นกับ นพ.พัฒน์ศมา วิจินศาสตร์วิจัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมีบุตรยากคลินิกอินสไปร์ ไอวีเอฟ โดยคุณหมออธิบายว่าก่อนอื่นเราต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์กันก่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นพ.พัฒน์ศมา วิจินศาสตร์วิจัย

ผู้หญิงจะเกิดมาพร้อมกับจำนวนเซลล์ไข่ที่มีจำกัด ซึ่งช่วงหลังจากที่เซลล์ไข่หมดก็คือวัยที่เราเรียกกันว่าวัยทอง (อายุเฉลี่ย 50-51 ปีในคนไทย) เนื่องจากเซลล์ไข่ทั้งหมดจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการแบ่งเซลล์ตั้งแต่เราอยู่ในครรภ์มารดาแต่จะแบ่งเซลล์จนเสร็จสิ้นเป็นเซลล์ไข่ที่สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีไข่ตกในแต่ละรอบเดือน และไม่เหลือเซลล์ต้นกำเนิดหรือที่เรียกว่าสเต็มเซลล์ของเซลล์ไข่เลย ดังนั้นสิ่งที่อายุกระทำต่อผู้หญิงนอกจากริ้วรอยบนใบหน้าแล้วยังมีผลกับการเจริญพันธุ์ดังนี้ ข้อแรกคือ จำนวนเซลล์ไข่ลดลง ข้อถัดมาคือคุณภาพของเซลล์ไข่ลดลง ทั้งความผิดปกติของจำนวนโครโมโซมที่เพิ่มขึ้น และความไม่สมบูรณ์ขององค์ประกอบอื่นๆ ของเซลล์ไข่ ข้อต่อมาคือระดับและสัดส่วนของฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศหญิง โดยเฉพาะเอสโตรเจนจะค่อยๆ ลดลงตามอายุ และอาจมีสัดส่วนของฮอร์โมนเพศชายกลุ่มแอนโดรเจนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และข้อสุดท้ายคือโครงสร้างของระบบสืบพันธุ์ เช่น เนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ มีโอกาสเกิดเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ทำให้โอกาสการฝังตัวของตัวอ่อนสูงขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คำถามต่อมาคือ เมื่อไหร่จะเริ่มเสื่อม ผู้หญิงมีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุดระหว่างอายุ 20-30 ปี คุณภาพไข่จำนวนจะเริ่มลดลงที่อายุเฉลี่ย 32 ปี และจะเริ่มร่วงอย่างรวดเร็วหลังจากอายุเฉลี่ย 37 ปี โดยทั่วไปหลังจากอายุ 40 ปีแล้วโอกาสตั้งครรภ์ประมาณร้อยละ 2.5 ต่อรอบเดือนเท่านั้น

ปัจจุบันยังไม่มียาหรืออาหารเสริมอะไรที่ทำให้คุณภาพไข่ไม่แย่ลง จำนวนไข่ไม่ลดลงได้ ซึ่งถ้าตอนนี้ยังไม่พร้อมจะมีลูก ทางเลือกที่มีปัจจุบันก็คือแช่แข็งเซลล์ไข่เก็บไว้ก่อน การ "ฝากไข่" ต้องผ่านกระบวนการกระตุ้นไข่และเก็บไข่เหมือนคนไข้ทำเด็กหลอดแก้วทุกประการ ไข่ที่เราเก็บออกมาก็จะผ่านกระบวนการแช่แข็งเก็บไว้ในไนโตรเจนเหลวอุณหภูมิ-196 องศาเซลเซียส ซึ่งเก็บไว้ได้นานหลายปี โดยหลักการเมื่อละลายออกมาคุณภาพไข่ก็จะใกล้เคียงกับวันที่เราแช่ตราบใดที่ยังมีการรักษาระดับไนโตรเจนเหลวในถังตลอดเวลา มีรายงานเมื่อปีที่แล้วว่าตัวอ่อนที่แช่แข็งไว้ถึง 25 ปี เมื่อละลายออกมาก็สามารถตั้งครรภ์ให้กำเนิดเด็กที่ปกติได้ อย่างไรก็ตามเซลล์ไข่ 1 ฟอง ไม่ได้แปลว่าเราจะได้ลูก 1 คน เพราะปกติการแบ่งตัวอ่อน การฝังตัว ฯลฯ มีขั้นตอนอีกมาก โอกาสตั้งครรภ์จากไข่แช่แข็ง 1 ฟองประมาณร้อยละ 6.5 หรือคิดง่ายๆ ว่าต้องมีไข่แช่แข็งไว้ 15 ฟองถึงจะมั่นใจได้ว่าน่าจะได้ลูก 1 คน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่การแช่แข็งเซลล์ไข่ก็มีข้อเสียเช่น การฉีดยาก็เจ็บ อาจมีภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นเยอะเกินไป ความเจ็บปวดจากการเก็บไข่ ซึ่งปกติมักจะไม่รุนแรง และอีกอย่างคือ มีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • 🍃จ๋อมแจ๋ม 🍃นิราวรรณ 🍃
    เราคนนึงที่อยากมีลูกมาก ปล่อยธรรมชาติมาจะ 2 ปีแล้ว ไปหาหมอตรวจภายในอะไรก็ปกติ แต่เราคิดว่าจะปล่อยธรรมชาติไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีจริงๆก็คิดไว้ว่าจะอยู่กันแค่ 2 คนก็พอ..
    21 ก.ค. 2562 เวลา 07.38 น.
  • "และอีกอย่างคือมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร" จบข่าว 🤣🤣🤣🤣🤣🤣 ไม่มีเงิน ก็อย่ามีเลย ลูกน่ะ ดีแล้ว คนที่พร้อมๆจริง (ทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และฐานะ ที่จะเลี้ยงเด็กคนนึงให้เติบโตมาอย่างมีคุณภาพ) เด็กไม่ค่อยมาเกิด แต่ดันไปเกิดกับคนที่ไม่พร้อม ก็เป็นซะอย่างนี้หนอ ธรรมชาติของโลก มันเลยมีแต่ปัญหา #ก็แก้กันไปเนาะ
    21 ก.ค. 2562 เวลา 06.57 น.
  • kwan
    ค่าใช้จ่ายก็สูง คนจนเห็นมีกันเยอะแยะ มีตั้งแต่วัยรุ่นทั้งนั้น ยังไม่ทันเรียนจบ ก็มีสามี มีลูกยั้วเยี้ยแล้ว น่าจะเหมาะสำหรับคนรวยที่ยังไม่มีแฟน
    21 ก.ค. 2562 เวลา 06.55 น.
  • เด็กเกิดมามากมายไม่ต้องห่วงเรื่องเรื่องมีลูกสำคัญคนมีเงินเด็กไม่ชอบเกิดปล่อยไปตามธรรมชาติ
    21 ก.ค. 2562 เวลา 06.51 น.
  • P-TONN (P-Nott)
    อ้อมโลกไปทำไม ใช้ชีวิตปกติแต่เคารพธรรมชาติ แค่ไม่ชิงสุกก่อนห่ามก็พอแล้วครับ
    21 ก.ค. 2562 เวลา 03.31 น.
ดูทั้งหมด