ทั่วไป

กรมศุลกากร ย้ำหิ้วของเข้าประเทศเชิงพาณิชย์ ไม่เกิน 2 หมื่น ก็ต้องเสียภาษี!

Khaosod
อัพเดต 17 ก.ค. 2562 เวลา 03.27 น. • เผยแพร่ 17 ก.ค. 2562 เวลา 03.26 น.

กรมศุลกากร ย้ำหิ้วของเข้าประเทศเชิงพาณิชย์ ไม่เกิน 2 หมื่น ก็ต้องเสียภาษี!

จากกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเข้มงวดในเรื่องการเก็บภาษีขาเข้าสำหรับผู้โดยสารทางอากาศยาน โดยจะมีการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพาน 23 เครื่อง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสแกนกระเป๋าเดินทางทุกใบ ให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบวัตถุต้องห้ามนำเข้า ยาเสพติด และสินค้าแบรนเนมด์ เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงสินค้านำเข้าหลบเลี่ยงภาษี โดยจะติดตั้งทั้งหมด 23 เครื่องแล้วเสร็จในปลายปีนี้ ซึ่งมีการแสดงความเห็นจำนวนมาก พร้อมกับแชร์เรื่องราวการถูกเก็บภาษีในลักษณะต่าง ๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยล่าสุด กรมศุลกากร ได้ชี้แจง ว่า จากกรณีที่มีผู้โดยสารลงสื่อโซเชียลถึงการจัดเก็บภาษีสำหรับการนำเข้าของติดตัวผู้โดยสารทางท่าอากาศยานนั้น กรมศุลกากร จึงขอแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสิทธิของผู้โดยสารในการนำของติดตัวเข้ามาพร้อมกับตนทางท่าอากาศยาน

กล่าวคือ ผู้โดยสารได้รับยกเว้นอากรสำหรับของส่วนตัวเพื่อใช้เองหรือใช้ในวิชาชีพมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ทั้งนี้ต้องไม่เป็นของต้องห้าม ของต้องกำกัด และไม่มีลักษณะทางการค้า

โดยของกำกัด ได้แก่ ยาและอาหารเสริม สัตว์เลี้ยง เครื่องสำอาง อาวุธปืน พืช และ โดรน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หากผู้โดยสารนำของที่มีมูลค่าเกิน 20,000 บาทหรือเป็นของที่มีลักษณะเชิงพาณิชย์แม้จะมีมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ของดังกล่าวเป็นของต้องเสียภาษีอากร ซึ่งผู้โดยสารสามารถมาสำแดงของเพื่อเสียภาษีอากร ที่ช่องตรวจมีของต้องสำแดง (ช่องแดง) และหากของนั้นเป็นของต้องกำกัด ของนั้นต้องได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน โดยอัตราภาษีอากรนำเข้าจะแตกต่างกันตามชนิดและประเภทสินค้า เช่น กระเป๋า 20% นาฬิกา 5% เครื่องสำอาง 30% เข็มขัด 30% เป็นต้น

และรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%โดยมีวิธีการคำนวณคือ
ราคาสินค้า x อัตราภาษีขาเข้า = อากรขาเข้า
(ราคาสินค้า + อากรขาเข้า) x อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% = ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ค่าภาษีทั้งหมดที่ต้องชำระ= อากรขาเข้า + ภาษีมูลค่าเพิ่ม

โดยกรมศุลกากรเน้นอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารโดยใช้ระบบบริหารความเสี่ยง (Risk Management) มาใช้ในการตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร

อย่างไรก็ตาม หากผู้โดยสารท่านใดคิดว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการจัดเก็บภาษีของเจ้าหน้าที่ศุลกากร หรือพบเห็นพฤติการณ์เกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ศุลกากร สามารถร้องเรียนได้ตามช่องทางต่าง ๆ ที่ท่านสะดวก

ได้แก่ โทรศัพท์สายด่วนรับเรื่องร้องเรียน 1332 ร้องเรียนผ่านทาง Application LINE ID: @customshearingร้องเรียนด้วยตนเองผ่านศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ตามโครงการ “ระฆังศุลกากร” ของแต่ละส่วนราชการที่ท่านใช้บริการ รวมถึงส่งไปรษณีย์มาที่กรมศุลกากร หรือส่ง E-mail มาได้ที่ ctc@customs.go.th

นอกจากนี้ท่านยังสามารถมาร้องเรียนด้วยตนเองที่กลุ่มคุ้มครองและส่งเสริมจริยธรรม ณ กรมศุลกากร หรือร้องเรียนผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี GCC 1111 นอกจากนี้ท่านยังสามารถร้องเรียนไปหน่วยราชการอื่น เช่น ป.ป.ช. /สตง. หรือร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมกับตนทางท่าอากาศยาน ได้ตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 60/2561 หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ จุดปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากรสนามบินนั้น ๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 61
  • Sayan
    เรื่องนี้ลำพังผู้โดยสารไม่เท่าไรหรอก แต่ที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสันคือ พวกลูกเรือ สจวต, แอร์ สายการบินหิ้วมาขายจนรวยไม่รู้เท่าไร
    17 ก.ค. 2562 เวลา 04.05 น.
  • 🌼นาย ปิ๊ก🌼
    ไม่ต้องถามว่ามีอะไรบ้างที่ไม่เก็บภาษี...เพราะแม่งเอาทุกอย่างทุกทางที่คิดออก !!!!
    17 ก.ค. 2562 เวลา 04.09 น.
  • OAKLAND
    รีดทุกบาททุกสตางค์จริงๆ ชักห่างไกลประเทศเจริญแล้วออกไปทุกที
    17 ก.ค. 2562 เวลา 04.13 น.
  • Patama Gomutbutra
    เมื่อเศรษฐกิจฝืด รัฐจึงต้องพยายามเก็บภาษีเพื่อนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ..ถ้ามีธรรมภิบาลก็ดีไป แต่เพราะเรามี รบ.ที่ไร้ธรรมภิบาล จึงไม่ไว้วางใจ. คงวางแผนซื้อของอะไรที่เกินปัจจัยสี่ ไม่ว่าของเทศและของไทย
    17 ก.ค. 2562 เวลา 03.54 น.
  • jinnypaa
    เป็นบ้าหรอ หรือเงินหมด เลยต้องหาเงินเพิ่มแบบนี้
    17 ก.ค. 2562 เวลา 04.09 น.
ดูทั้งหมด